กูรูฟันธง เดือนนี้มี "Window dressing" หลังหุ้นไทยลงแรงจัด งัดสถิติ 20 ปีหลังเกิดถึง 75% แถมมีกองทุน TESG ช่วยหนุนความคึกคัก คาดดัน SET Index กลับไปยืนเหนือ 1,400 - 1,450 จุด แนะนำ ซื้อได้แล้ววันนี้ ! พร้อมเปิดโผ 24 หุ้นบิ๊กแคปเด่นน่าสะสม
*** รู้จัก "Window Dressing"
"Window Dressing" คือความเชื่อที่ว่านักลงทุนสถาบันจะทำการผลักดันราคาหุ้นในกองทุนที่ตนเองถืออยู่ให้มีราคาสูงขึ้น เพราะหากราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้นก็จะส่งผลให้กำไรเพิ่มขึ้นตาม และทำให้ผลการดำเนินงานของกองทุน (NAV) ออกมาดีด้วย เหตุการณ์นี้อาจจะเรียกกันว่า เป็นปรับปรุงตัวเลขทางบัญชีให้ดูดีขึ้นโดยมักจะเกิดขึ้นช่วงก่อนวันสิ้นงวดของแต่ละไตรมาส นั่นคือ มี.ค., มิ.ย., ก.ย. และ ธ.ค. ซึ่งจะเกิดชัดเจนที่สุดในเดือน ธ.ค.เนื่องจากจะเป็นทั้งวันปิดงวดสิ้นไตรมาสและปิดงบใหญ่ของปีอีกด้วย…
ทั้งนี้ทุกครั้งที่มีการทำ "Window Dressing" ราคาหุ้นหลายบริษัทโดยเฉพาะหุ้นที่มีมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่ซึ่งนักลงทุนสถาบันเข้าไปลงทุน จะมีการปรับตัวสูงขึ้นพร้อม ๆ กัน และจะส่งผลผลักดันให้ดัชนี SET Index ปรับตัวสูงขึ้นด้วยเช่นกัน
*** เดือนนี้มี "Window Dressing" แน่ หลังหุ้นไทยทรุดหนัก
บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หยวนต้า (ประเทศไทย) ประเมินว่า เดือน ธ.ค.นี้มีโอการสูงที่นักลงทุนสถาบันจะทำ "Window Dressing" จาก 4 เหตุผล ประกอบด้วย
1.ตลาดหุ้นไทยให้ผลตอบแทนปีนี้ติดลบเกือบ 17% มากเป็นอันดับต้น ๆ เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นทั่วโลก
2.นักลงทุนสถาบันมักซื้อสุทธิเดือน ธ.ค. นับได้ 15 จาก 20 ปีหลัง เฉลี่ยราว 8.1 พันล้านบาท และตลาดหุ้นไทยให้ผลตอบแทนเป็นบวก 14 จาก 20 ปีหลัง ด้วยผลตอบแทน 2.25%
3.กองทุน TESG จะเริ่มขายกลางเดือน ธ.ค.นี้ ทำให้มีเม็ดเงินไหลเข้าเพิ่มเติม
4.มูลค่าการซื้อขายของตลาดหุ้นไทยที่เบาบางลงผิดปกติ ทำให้การทำ "Window Dressing" ได้ง่ายขึ้น
ด้าน "วิจิตร อารยะพิศิษฐ" นักกลยุทธ์การลงทุน บล.ลิเบอเรเตอร์ เห็นด้วยว่า เดือนนี้มีโอกาสเกิด "Window Dressing" เพราะตลาดหุ้นไทยมีเหตุการณ์พิเศษคือการเปิดขายกองทุน TESG ซึ่งจะช่วยสร้างบรรยากาศการลงทุนให้ดูคึกคักขึ้น ประกอบกับ ราคาหุ้นบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ขนาดใหญ่หลายแห่งปรับตัวลงมาค่อนข้างเยอะเเล้ว
เช่นเดียวกับ "ณรงค์เดช จันทรไพศาล" ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะหลักทรัพย์ บล.ไอร่า ระบุว่า โอกาสเกิด "Window Dressing" ช่วงที่เหลือของปีนี้มีความเป็นไปได้สูง เพราะตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงมาค่อนข้างแรง ทำให้หุ้นหลาย ๆ บริษัทปรับตัวลงมากด้วยเช่นกัน โดยหากดูสถิติตลาดหุ้นไทยช่วงปลายเดือน ธ.ค. - ต้นเดือน ม.ค.ย้อนหลัง 3 ปี (ตั้งแต่ปี 63) พบว่า จะเกิดปรากฏการณ์ซานตาคลอสแรลลี่เสมอ โดยช่วงดังกล่าว SET Index ให้ผลตอบแทนเป็นบวกตลอด จึงคาดว่า เป็นอีก 1 ปัจจัย ที่จะช่วยทำให้เกิด "Window Dressing" ในช่วงที่เหลือของปีนี้ได้
*** คาดดัน SET Index กลับไปยืนเหนือ 1,400 - 1,450 จุด
"กรรณ์ หทัยศรัทธา" นักกลยุทธ์ ฝ่ายวิเคราะห์เศรษฐกิจและการลงทุน บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี ประเมินว่า นอกจากเม็ดเงินกองทุน TESG ที่คาดว่าจะไหลเข้าตลาดหุ้นไทยราว 1 หมื่นล้าน ผสมกับการทำ "Window Dressing" ของนักลงทุนสถาบัน จะช่วยผลักดันให้ SET Index ปรับตัวขึ้นไปถึง 1,450 จุดได้
ด้าน "วิจิตร อารยะพิศิษฐ" ระบุว่า หากเกิด "Window Dressing" จะช่วยดันดัชนีหุ้นไทยขึ้นไปอยู่ในกรอบ 1,400 - 1,415/30 จุด ซึ่งหุ้นรับอานิสงส์ คือ หุ้นขนาดใหญ่ที่ราคายังไม่ปรับตัวขึ้นมากเท่าไรนัก และผลการดำเนินงานระยะถัดไปมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง หรืออาจจะล้อไปกับธีมลงทุนหุ้นในดัชนี ESG เลยก็ได้
ส่วน "ณรงค์เดช จันทรไพศาล" คาดว่า SET Index จะขึ้นไปอยู่ในกรอบ 1,400 - 1,420 จุด โดยกลุ่มที่ได้ประโยชน์ คือ หุ้นที่กองทุนถืออยู่แล้ว
*** เปิดโผ 24 หุ้นเป้าหมาย ได้เวลาสะสม
บทวิเคราะห์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) คาดว่าหุ้นที่จะเป็นเป้าหมายในการทำ "Window Dressing" มี 5 กลุ่ม ประกอบด้วย
1.ธนาคารพาณิชย์ : เป็นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากดัชนีใหม่ (Free-Float Adjusted) และเป็นกลุ่มที่มักจะปรับตัวขึ้นในเดือน ม.ค. (January Effect) แนะนำ KBANK และ SCB
2.โรงไฟฟ้า : เป็นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ และไทย ซึ่งผ่านพ้นจุดสูงสุดไปแล้ว แนะนำ BGRIM และ GPSC
3.กลุ่มได้ประโยชน์จากการขายกองทุน TESG : แนะนำ ADVANC, INTUCH, THCOM และ WHAUP
4.กลุ่มได้ประโยชน์จากนโยบาย Easy E-Receipt ที่จะเริ่มเดือน ม.ค.67 แนะนำ CRC, COM7 และ BJC
5.กลุ่มที่มี Momentum ทางเทคนิคสวย แนะนำ PTTGC, CPN และ SINGER
ฝั่ง บล.ลิเบอเรเตอร์ แนะนำ WHA, AMATA, CPALL, GPSC, HANA และ KCE โดยให้ทยอยเข้าสะสมในช่วงนี้ได้เลย เพราะมองว่าเป็นจังหวะที่ดีสุด ไม่ควรปล่อยให้เลยไปหลังวันที่ 8 ธ.ค.นี้ เนื่องจากจะเป็นช่วงที่เริ่มมีเม็ดเงินจากกองทุน TESG ไหลเข้ามาดันราคาหุ้นไปบ้างแล้ว
ด้าน บล.ไอร่า แนะนำ หุ้นที่กองทุนถืออยู่แล้ว เช่น CPALL, ADVANC, KBANK, BBL และ PTT พร้อมระบุว่าตอนนี้เป็นจุดที่ดีในการเข้าสะสมก่อนที่จะเริ่มมีเม็ดเงินจากกองทุน TESG ไหลเข้ามา
ฟาก บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี เผยกลยุทธ์การลงทุน ให้ทยอยเข้าสะสมหุ้นใหญ่ที่ราคาลงลึก ผลการดำเนินงานในระยะถัดไปมีแนวโน้มเติบโตแข็งแกร่ง ซึ่งเป็นเป้าหมายของนักลงทุนสถาบัน และสามารถเข้าสะสมได้เลย เพราะส่วนใหญ่ราคาก็ยังเทรดกันค่อนข้างถูก แนะนำ CPALL, SPRC, TU และ KBANK
ประเด็นร้อน, Window Dressing, กองทุน TESG, หุ้น KBANK,หุ้น ADVANC,หุ้น CPALL,หุ้น CPN,หุ้น BGRIM,หุ้น INTUCH,หุ้น PTTGC,หุ้น SCB,หุ้น WHA,หุ้น HANA,หุ้น BJC