โบรกฯส่วนใหญ่มอง SET เดือน ธ.ค.ยังผันผวนให้กรอบดัชนี 1,380 - 1,500 จุด หลังเริ่มมีความกังวลสงครามการค้ามากขึ้น ประกอบกับ เศรษฐกิจในประเทศยังโตช้าอยู่ แต่ก็ยังมีปัจจัยบวกรอหนุนอยู่ อาทิ นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่เตรียมประกาศ 12 ธ.ค.นี้ กลยุทธ์หลักเดือนนี้ กูรูแนะสะสมหุ้นธีมกำไร Q4/67 เติบโตแข็งแกร่ง โดยมี 21 หุ้นเด่นแนะนำ พบมีอัปไซด์สูงสุดถึง 45%
*** มองหุ้นเดือน ธ.ค.ยังผันผวน ให้เป้า 1,380 - 1,500 จุด
"สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" สำรวจมุมมองโบรกเกอร์ 5 แห่ง ต่อแนวโน้มการเคลื่อนไหวของดัชนีหุ้นไทย (SET Index) ในเดือน ธ.ค.2567 พบว่า ส่วนใหญ่ ประเมินว่า ดัชนีหุ้นไทยในเดือนนี้ ยังมีแนวโน้มเคลื่อนไหวผันผวนต่อจากเดือนก่อน หลังปัจจัยความกังวลสงครามการค้าเริ่มกดดันมากขึ้น อีกทั้งเศรษฐกิจในประเทศยังเติบโตช้า คาดต้องลุ้นนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐบาลช่วย คาดดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในกรอบ 1,380 - 1,500 จุด
บล.
|
กรอบดัชนี (จุด)
|
ดาโอ
|
1,410 - 1,500
|
เคจีไอ
|
1,405 - 1,460
|
เอเซีย พลัส
|
1,380 - 1,460
|
บัวหลวง
|
1,410 - 1,450
|
ฟินันเซียฯ
|
1,404 - 1,410
|
บทวิเคราะห์ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ประเมินการเคลื่อนไหว SET Index เดือน ธ.ค.นี้ ยังคงแกว่งตัวผันผวนต่อจากเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา ในกรอบ 1,405 - 1,460 จุด แม้ Valuation ดัชนีหุ้นไทย จะอยู่ระดับที่ต่ำลงแล้ว หลังตลาดหุ้นไทยปรับฐานช่วง 1 - 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ยังคงมีปัจจัยกดดัช SET Index คือ ความเสี่ยงสงครามการค้า 2.0 ที่ค่อย ๆ มีพัฒนาการของ "โดนัลด์ ทรัมป์" ประธานาธิบดีสหรัฐฯออกมาต่อเนื่อง ขณะที่ ความตึงเครียดในการทำสงครามระหว่างรัสเซีย กับ ยูเครน ถูกยกระดับขึ้น
นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มหลักของ SET Index เช่น กลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค และธนาคารพาณิชย์ ยังไม่มีปัจจัยบวกเข้ามาหนุนราคาหุ้นในระยะนี้ ผนวกกับหุ้นที่มีขนาดใหญ่ที่สุดอย่าง DELTA มีประเด็นความกังวลเกี่ยวกับมาตรการ Cash balance เข้ามา
อย่างไรก็ตาม ยังพอมีปัจจัยบวกในประเทศอยู่บ้าง อาทิ ความมั่นคงของรัฐบาลที่ดูชัดเจนมากขึ้น ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญไม่รับพิจารณาคำร้องต่อ "ทักษิณ ชินวัตร" และพรรคเพื่อไทย ประกอบกับ จะมีมาตรการของขวัญปีใหม่ของรัฐบาล ที่จะประกาศวันที่ 12 ธ.ค.นี้ ด้วย
สอดคล้องกับ บทวิเคราะห์ บล.ดาโอ (ประเทศไทย) ที่มองว่า การเคลื่อนไหวของ SET Index เดือน ธ.ค.นี้ ยังมีแนวโน้มผันผวน ประเมินกรอบเคลื่อนไหวที่ 1,410 - 1,500 จุด เนื่องจากยังมีความตึงเครียดการทำสงครามระหว่างเลบานอน กับ อิสราเอล แม้จะมีการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงแล้วก็ตาม แต่ก็ยังมีการโจมตีเป็นระยะ เช่นเดียวกับ รัสเซีย กับ ยูเครน ที่ยังมีการโจมตีกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นปัจจัยที่ยังกดดันตลาดหุ้นอยู่
อีกทั้ง การประชุม FOMC วันที่ 18 ธ.ค.นี้ คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) อาจชะลอการลดอัตราดอกเบี้ย หรือปรับลดเพียง 0.25% เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฯเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น อ้างอิง GDP ไตรมาส 3/67 ที่ขยายตัวได้ 2.8% ตามคาดการณ์ ประกอบกับ ตัวเลขการว่างงานที่ลดลง อีกทั้ง นโยบายต่าง ๆ ของ "โดนัลด์ ทรัมป์" อาจทำให้เงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้นได้
อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจไทยกำลังปรับตัวขึ้น อีกทั้ง ยังมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลจะทยอยออกมา อาทิ มาตรการแก้หนี้ และมาตรการแจกเงินต่าง ๆ เป็นต้น ประกอบกับ ความตึงเครียดการเมืองในประเทศคลี่คลายลงไปได้บ้างแล้ว ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะเป็นตัวขับเคลื่อน SET Index ได้เช่นกัน
ขณะที่ บทวิเคราะห์ บล.เอเซีย พลัส ประเมินการเคลื่อนไหว SET Index เดือน ธ.ค.นี้ ในกรอบ 1,380 - 1,460 จุด สะท้อนจากเศรษฐกิจในประเทศยังเติบโตช้า แต่ก็ยังมีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น จากเม้ดเงินคงเหลือของงบประมาณปี 2567 ประกอบกับ เม็ดเงินใหม่จากการอนุมัติงบประมาณปี 2568 เพื่อมทยอยการขับเคลื่อนการเติบโต GDP ในประเทศ
ขณะที่ ช่วงที่เหลือของปีนี้ คาดเม็ดเงินจากกองทุน THAIESG ยังไหลเข้าตลาดหุ้นไม่เต็มที่ เพราะอาจถูกแบ่งเข้าไปในตลาดตราสารหนี้ครึ่งหนึ่ง รวมถึงตลาดหุ้นยังคงถูกกดดันจากการขายกองทุน LTF ที่ครบกำหนดอายุ และบางส่วนสลับเข้ามาซื้อกองทุน THAIESG ประเภทตราสารหนี้แทน อีกทั้งต้นปี 2568 ตลาดหุ้นไทยจะเผชิญเม็ดเงิน LTF ทั้งหมดพร้อมขายได้กว่า 2.4 แสนล้านบาท
ด้าน บทวิเคราะห์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า เดือนที่ผ่านมา SET Index ปรับตัวลงมาหาแนวรับที่ได้คาดไว้ คือ 1,438 จุด และหลุดลงมา ดังนั้น จึงมองโอกาส SET Index ปรับตัวลงต่อในเดือน ธ.ค.นี้ โดยมีแนวรับสำคัญถัดไปที่ 1,404 - 1,410 จุด และหากดัชนีปรับตัวลงถึงระดับดังกล่าว เชื่อว่า SET Index จะมีโอกาสรีบาวด์กลับขึ้นมาค่อนข้างแรง
อย่างไรก็ตาม เดือน ธ.ค.เป็นเดือนที่วันหยุดเยอะ ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ อาจทำให้บรรยากาศการซื้อขายเงียบเหงากว่าปกติ และส่งผลถึงเม็ดเงินไหลเข้าที่อาจไม่มากนัก ทำให้ราคาหุ้นใน SET ช่วงเดือน ธ.ค.นี้ อาจไม่ผันผวนร้อนแรงเหมือนกับเดือนอื่น ๆ
ฟาก บทวิเคราะห์ บล.บัวหลวง ประเมินการเคลื่อนไหว SET Index เดือนธ.ค.นี้ ในกรอบ 1,410-1,450 จุด โดยเดือนนี้ปัจจัยในประเทศที่จะส่งผลต่อตลาดหุ้น คือ ต้องลุ้นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปีของรัฐบาล เช่น มาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยว, มาตรการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย และต้องจับตาตัวเลขเศรษฐกิจในไตรมาส 4/67 ภายหลัง GDP ไตรมาส 3/67 ขยายตัว 3% ดีกว่าที่ตลาดคาด ส่วนปัจจัยต่างประเทศ ยังต้องจับตานโยบายเศรษบกิจของ "โดนัลด์ ทรัมป์", การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ เกี่ยวกับดอกเบี้ยนโยบาย และต้องติดตามว่า จีนอาจมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในช่วงปลายปีหรือไม่ ?
*** พบ 21 หุ้นเด่นเดือน ธ.ค. ส่วนใหญ่เน้นธีมงบฯ Q4/67 แกร่ง
ขณะที่ เมื่อสำรวจหุ้นแนะนำประจำเดือน ธ.ค.นี้ ของทั้ง 5 โบรกเกอร์ พบว่า มีหุ้นรวมกันทั้งหมด 21 บริษัท (ราคาหุ้นล่าสุดมีอัปไซด์มากกว่า 10%) โดยส่วนใหญ่เป็นหุ้นที่ถูกคาดว่าผลการดำเนินงานไตรมาส 4/67 มีแนวโน้มเติบโตแข็งแกร่ง ประกอบด้วย
5 โบรกฯชี้เป้า 21 หุ้นเด่นเดือน ธ.ค. เน้นธีมงบฯ Q4/67 แกร่ง
|
บล.
|
ชื่อย่อหุ้น
|
เหตุผล
|
ราคาเหมาะสม (บ.)
|
%อัปไซด์*
|
เอเซีย พลัส
|
ADVICE
|
งบฯQ4/67 แกร่ง
|
8.7
|
45.00
|
MAJOR
|
งบฯQ4/67 แกร่ง
|
20
|
39.86
|
CRC
|
งบฯQ4/67 แกร่ง
|
44.5
|
30.88
|
CBG
|
งบฯQ4/67 แกร่ง
|
92.75
|
22.85
|
SIRI
|
งบฯQ4/67 แกร่ง - ปันผลสูง
|
2.22
|
22.65
|
MTC
|
ราคาหุ้นลงลึงแต่ผลงานยังแกร่ง
|
55
|
12.24
|
ฟินันเซียฯ
|
BDMS
|
งบฯQ4/67 แกร่ง - Valuation ไม่แพง
|
36.5
|
43.14
|
CPALL
|
กำไรปี 67 จ่อโตมากสุดในกลุ่ม
|
83
|
34.96
|
AAV
|
งบฯQ4/67 แกร่ง
|
3.4
|
27.82
|
RBF
|
งบฯผ่านจุดต่ำสุด - Valuation น่าสนใจ
|
7.2
|
10.25
|
MAGURO
|
งบฯQ4/67 แกร่ง
|
22
|
10.14
|
บัวหลวง
|
BDMS
|
งบฯQ4/67 แกร่ง
|
35
|
37.25
|
BBL
|
สินเชื่อ Q4/67 เร่งตัวตามฤดูกาล
|
178
|
19.46
|
BBIK
|
งบฯQ4/67 แกร่ง
|
50
|
13.64
|
ดาโอ
|
AAV
|
งบฯQ4/67 แกร่ง
|
3.6
|
35.34
|
CRC
|
งบฯQ4/67 แกร่ง
|
45
|
31.39
|
SISB
|
งบฯQ4/67 แกร่ง
|
40
|
28.00
|
SPRC
|
งบฯQ4/67 พลิกกำไร
|
8.5
|
24.09
|
TOG
|
งบฯQ4/67 แกร่ง
|
12
|
18.81
|
CENTEL
|
งบฯQ4/67 แกร่ง - Valuation ไม่แพง
|
44
|
18.12
|
MAGURO
|
งบฯQ4/67 แกร่ง
|
22.5
|
10.84
|
เคจีไอ
|
AMATA
|
รับอานิสงส์ย้ายฐานการผลิต
|
34
|
17.24
|
SYNEX
|
จ่อรับอานิสงส์รัฐฯกระตุ้นเศรษฐกิจ
|
17.2
|
12.42
|
CPAXT
|
จ่อรับอานิสงส์รัฐฯกระตุ้นเศรษฐกิจ
|
39
|
12.23
|
SAWAD
|
งบฯQ4/67 แกร่ง
|
43.3
|
10.34
|
CRC
|
จ่อรับอานิสงส์รัฐฯกระตุ้นเศรษฐกิจ
|
36
|
10.08
|
*อัปไซด์เทียบราคาปิด 2 ธ.ค.67
|
*** เดือน ธ.ค.นี้ พาณิชย์ - อาหาร ติดโผเพียบ !
21 บริษัทดังกล่าว ส่วนใหญ่เป็นหุ้นในดัชนี SET100 จำนวน 13 บริษัท ขณะที่ บริษัทนอกดัชนี SET100 ติดโผ จำนวน 8 บริษัท โดยกลุ่มธุรกิจพาณิชย์ติดโผากที่สุด จำนวน 5 บริษัท รองลงมา คือ กลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ที่ติดโผ จำนวน 3 บริษัท
*** พบ "KBANK" มีโบรกฯแนะนำตรงกันมากที่สุด
โดยในเดือน ต.ค.นี้ พบว่า บมจ.เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น (CRC) เป็นหุ้นที่ถูกนักวิเคราะห์แนะนำตรงกันมากที่สุดถึง 3 โบรกเกอร์ รองลงมา คือ บมจ. เอเชีย เอวิเอชั่น (AAV), บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) และ บมจ.มากุโระ กรุ๊ป (MAGURO) ที่มีนักวิเคราะห์แนะนำตรงกัน 2 โบรกเกอร์เท่ากัน
*** "ADVICE" ราคาหุ้นล่าสุดมีอัปไซด์สูงถึง 45%
ทั้งนี้ บมจ.แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท (ADVICE) เป็นบริษัทที่ราคาหุ้นล่าสุด มีอัปไซด์มากที่สุด 45% หลังถูกนักวิเคราะห์ประเมินราคาเหมาะสมไว้ที่ 8.7 บาท/หุ้น รองลงมา คือ บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) ราคาหุ้นล่าสุดมีอัพไซด์ 37.25 - 43.14% หลังถูกนักวิเคราะห์ประเมินราคาเหมาะสมไว้ที่ 37.25 - 43.14 บาท/หุ้น
นอกจากนี้ ยังมีอีก 4 บริษัท ที่ราคาหุ้นล่าสุด มีอัปไซด์มากกว่า 30% ประกอบด้วย บมจ.เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป (MAJOR) ราคาหุ้นมีอัปไซด์ 39.86% หลังถูกนักวิเคราะห์ประเมินราคาเหมาะสมไว้ที่ 20 บาท/หุ้น, บมจ. เอเชีย เอวิเอชั่น (AAV) ราคาหุ้นมีอัปไซด์ระหว่าง 27.82 - 35.34% หลังถูกนักวิเคราะห์ประเมินราคาเหมาะสมไว้ที่ 3.4 - 3.6 บาท/หุ้น
ปิดท้ายด้วย บมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) ราคาหุ้นมีอัปไซด์ 34.96% หลังถูกนักวิเคราะห์ประเมินราคาเหมาะสมไว้ที่ 83 บาท/หุ้น และ บมจ.เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น (CRC) ราคาหุ้นมีอัปไซด์ระหว่าง 10.08 - 31.39% หลังถูกนักวิเคราะห์ประเมินราคาเหมาะสมไว้ที่ 36 - 45 บาท/หุ้น