SET ปีนี้บวก 51 จุด หลังทั้งปัจจัยใน-นอกประเทศหนุน ดันหุ้น 248 บริษัทพุ่งตาม พบมี 24 หุ้น ราคา YTD วิ่งสะบัด 53 - 194% กลุ่มสื่อสารติดโผเพียบ ขณะที่ ผลการดำเนินงาน H1/67 ส่วนใหญ่โตแกร่ง โดยมีถึง 7 บริษัท ที่กำไรช่วงดังกล่าวโตจากปีก่อนมากกว่า 100% วงการแนะเลือกหุ้นกำไรโตต่อเนื่อง หนุนราคาหุ้นวิ่งต่อได้ ชี้ควรเลี่ยงกลุ่มราคาหุ้นวิ่ง แต่งบฯไม่โต !

*** SET ปีนี้บวก 51 จุด รับปัจจัยหนุนทั้งใน-นอกประเทศ

ดัชนีหุ้นไทย (SET Index) ตั้งแต่ต้นปี (YTD) ปรับตัวขึ้น 51.57 จุด หรือ 3.64% ส่งผลให้ช่วงดังกล่าวมีหุ้นบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ปรับตัวขึ้น 248 บริษัท หนุนโดยปัจจัยต่างประเทศ เช่น ทิศทางดอกเบี้ยนโยบายที่มีแนวโน้มปรับตัวลง ขณะที่ ในประเทศหนุนโดยการเมืองคลี่คลาย อีกทั้ง ยังมีการนำกองทุนวายุภักษ์กลับมาซื้อขายอีกครั้ง 

*** พบ 24 บจ. ราคาหุ้น YTD ปรับตัวขึ้น 53 - 194%

"สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" จึงสำรวจข้อมูลผ่านโปรแกรม SETSMART ณ 5 พ.ย.2567 พบว่า มี 24 บริษัท ราคาหุ้นตั้งแต่ต้นปีปรับตัวขึ้นมากกว่า 50% ประกอบด้วย
 

24 บริษัทดังกล่าว ส่วนใหญ่เป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทซไทย (SET) จำนวน 17 บริษัท ขณะที่ บริษัทในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ  (mai) ติดโผจำนวน 7 บริษัท โดยกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารติดโผมากที่สุด จำนวน 4 บริษัท รองลงมา คือ กลุ่มธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ ที่ติดโผ จำนวน 3 บริษัท 

*** "NDR" ราคาหุ้น YTD ปรับตัวขึ้นมากที่สุดถึง 194%

บมจ.เอ็น.ดี.รับเบอร์ (NDR) เป็นบริษัทที่ราคาหุ้น YTD ปรับตัวขึ้นมากที่สุดถึง 194.12% รองลงมา คือ บมจ.แคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) หรือ CCET ที่ราคาหุ้น YTD ปรับตัวขึ้น 171.63%

ยังมีอีก 7 บริษัท ที่ราคาหุ้น YTD ปรับตัวขึ้นตั้งแต่ 100% ประกอบด้วย บมจ.ทเวนตี้ โฟร์ คอน แอนด์ ซัพพลาย (24CS) ที่ราคาหุ้นปรับตัวขึ้น 156.94%, บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) ราคาหุ้นปรับตัวขึ้น 143.56%, บมจ.แอดวานซ์ คอนเนคชั่น คอร์ปอเรชั่น (ACC) ราคาหุ้นปรับตัวขึ้น 134.09%

ด้าน บมจ.แฮลเซี่ยน เทคโนโลยี่  (HTECH) ราคาหุ้นปรับตัวขึ้น 132.14%, บมจ.สามารถเทลคอม (SAMTEL) ราคาหุ้นปรับตัวขึ้น 131.03%, บมจ.อสมท (MCOT) ราคาหุ้นปรับตัวขึ้น 123.27%, บมจ.แพลนเน็ต คอมมิวนิเคชั่น เอเชีย (PLANE) ราคาหุ้นปรับตัวขึ้น 115.66% และ บมจ.ร็อคเทค โกลบอล (ROCTEC) ราคาหุ้นปรับตัวขึ้น 100%

*** มี 3 บจ. ล่าสุด เทรด P/E ต่ำกว่า 10 เท่า 

ขณะเดียวกัน พบว่า มี 3 บริษัท ที่ล่าสุดซื้อขายบนอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรต่อหุ้น (P/E) ต่ำกว่า 10 เท่า โดย บมจ.เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ (CHOW) ซื้อขายบน P/E ต่ำที่สุดเพียง 3.5 เท่า, บมจ.อสมท (MCOT) ซื้อขายบน P/E ระดับ 8.7 เท่า และ บมจ.พริมา มารีน (PRM) ซื้อขายบน P/E ระดับ 9.24 เท่า 

*** พบอีก 3 บจ. ล่าสุด เทรด P/BV ต่ำกว่า 1 เท่า 

นอกจากนี้ ยังมีอีก 3 บริษัท ที่ล่าสุดซื้อขายบนอัตราส่วนราคาตลาดต่อมูลค่าตามบัญชี (P/BV) ต่ำกว่า 1 เท่า นำโดย บมจ.อสมท (MCOT) ซื้อขายบน P/BV เพียง 0.67 เท่า, บมจ.ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) หรือ STGT ซื้อขายบน P/BV เพียง 0.77 เท่า และ บมจ.เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ (CHOW) ซื้อขายบน P/BV เพียง 0.9 เท่า 

*** ส่องงบการเงิน ส่วนใหญ่ผลงาน H1/67 ฟื้นแรง

อย่างไรก็ตาม เมื่อ"สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" สำรวจงบการเงินล่าสุดของทั้ง 24 บริษัท ผ่านโปรแกรม Efin stock pickup พบว่า มีถึง 14 บริษัท ที่ผลการดำเนินงานงวดครึ่งแรกปี 67 (H1/67) ฟื้นตัวขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ประกอบด้วย
 

โดย บมจ.โรงพยาบาลวัฒนแพทย์ ตรัง (WPH) เป็นบริษัทที่ผลการดำเนินงานครึ่งแรกปี 67 เติบโตขึ้นจากปีก่อนมากที่สุดถึง 745.72% โดยช่วงดังกล่าว WPH มีกำไรสุทธิ 143.35 ล้านบาท หนุนโดยรายได้รวมเพิ่มขึ้น 40.6% จากปีก่อน หลังโรงพยาบาลวัฒนแพทย์ สมุย และโรงพยาบาลวัฒนแพทย์ อ่าวนาง มีจำนวนคนไข้ต่างประเทศใช้บริการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

รองลงมา คือ บมจ.แฮลเซี่ยน เทคโนโลยี่ (HTECH) ที่ครึ่งแรกปี 67 มีกำไรสุทธิ 54.21 ล้านบาท เติบโตขึ้น 267.28% จากปีก่อน หนุนโดยรายได้จากธุรกิจผลิตและจำหน่ายเครื่องมือที่ใช้ในการตัดโลหะ เพิ่มขึ้น 21.46% จากปีก่อน อีกทั้ง รายได้จำหน่ายอุปกรณ์และชิ้นส่วนโลหะขึ้นรูปต่าง ๆ เพิ่มขึ้น 14.33% จากปีก่อน และงาน Special Cutting Tools มีอัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 12.64% เทียบปีก่อนอยู่ที่ระดับ 0.47%

มีอีกถึง 5 บริษัท ที่กำไรสุทธิครึ่งแรกปี 67 เติบโตจากปีก่อน มากกว่า 100% ประกอบด้วย บมจ.ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) หรือ STGT ที่มีกำไรสุทธิ 525.17 ล้านบาท เติบโตขึ้น 256.02% จากปีก่อน, บมจ.เสริมสุข (SSC) มีกำไรสุทธิ 325.70 ล้านบาท เติบโตขึ้น 226.61% จากปีก่อน 

ฟาก บมจ.ไอที ซิตี้ (IT) มีกำไรสุทธิ 70.78 ล้านบาท เติบโตขึ้น 142.23% จากปีก่อน, บมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) หรือ DELTA มีกำไรสุทธิ 16,783.43 ล้านบาท เติบโตขึ้น 102.64% จากปีก่อน, และ บมจ.แคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) หรือ CCET มีกำไรสุทธิ 1,301.81 ล้านบาท เติบโตขึ้น 101.58% จากปีก่อน 

*** มีอีก 3 บจ. งบฯ H1/67 พลิกรายงานกำไร

ทั้งนี้ มี 3 บริษัท ที่ผลการดำเนินงานครึ่งแรกปี 67 พลิกกลับมารายงานกำไรสุทธิ นำโดย บมจ.เอ็น.ดี.รับเบอร์ (NDR) ที่มีกำไรสุทธิ 9.06 ล้านบาท เทียบปีก่อนขาดทุนสุทธิ 47.54 ล้านบาท, บมจ.พรอสเพอร์ เอ็นจิเนียริ่ง (PROS) มีกำไรสุทธิ 19.44 ล้านบาท เทียบปีก่อนขาดทุนสุทธิ 204.84 ล้านบาท และ บมจ.เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ (CHOW) มีกำไรสุทธิ 115.91 ล้านบาท เทียบปีก่อน ขาดทุนสุทธิ 14.90 ล้านบาท 

*** วงการแนะอยากลงทุน ต้องเลือกหุ้นกำไรโตต่อ

แหล่งข่าวจากวงการโบรกเกอร์ ระบุว่า ยังแนะนำเลือกหุ้นรายตัว (Selective Buy) โดยต้องมองหาหุ้นที่ยังมีแนวโน้มที่ผลการดำเนินงานในระยะถัดไปสามารถเติบโตได้ หรือ ถ้ากลุ่มที่ขาดทุนอยู่ ก็ต้องทำการบ้านให้ดีว่า จะสามารถพลิกกลับมารายงานกำไรสุทธิได้ในระยะถัดไปที่ไม่นานมากนัก ซึ่งเป็นปัจจัยที่จะหนุนให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นได้ 

อย่างไรก็ตาม แนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุนหุ้นลักษณะที่ ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมาอย่างร้อนแรง แต่ผลการดำเนินงานที่ผ่านมาไม่เติบโต หรือขาดทุน ประกอบกับ แนวโน้มถัดไป ผลการดำเนินงานก็ยังไม่สามารถเติบโต หรือพลิกกลับมารายงานกำไรสุทธิได้