23 บจ. เดินหน้าซื้อกิจการ (M&A) ตั้งแต่ต้นปี มูลค่ารวมกันกว่า 2.5 หมื่นล้านบาท พบส่วนใหญ่เป็นหุ้นกลาง - เล็กถึง 17 บริษัท พบ SSP มีมูลค่าซื้อกิจการสูงสุดถึง 1.1 หมื่นล้านบาท หลังปีนี้ซื้อโครงการโรงไฟฟ้าเติมพอร์ตอีก 3 แห่ง ขณะที่ SCCC - BCPG เป็นอีก 2 บจ. ที่ปีนี้ซื้อกิจการมูลค่ามากกว่า 1 พันล้านบาท !

*** ปีนี้ พบ 23 บจ. ซื้อกิจการรวมกว่า 2.5 หมื่นลบ.

"สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" สำรวจการซื้อกิจการ (M&A) ของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ตั้งแต่ช่วงต้นปี (YTD) ผ่านโปรแกรม SETSMART ข้อมูลสิ้นสุด ณ 27 พ.ย.2567 พบ 23 บริษัท ซื้อกิจการมูลค่ารวมกันกว่า 25,812 ล้านบาท ประกอบด้วย 
 

*** ปีนี้ พบส่วนใหญ่หุ้นขนาดกลาง ซื้อกิจการเพียบ !
 
23 บริษัทดังกล่าว ส่วนใหญ่เป็นบริษัทนอกดัชนี SET100 ถึง 17 บริษัท โดยบริษัทในดัชนี SET100 ติดโผเข้ามาเพียง 6 บริษัท กลุ่มธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค ติดโผสูงสุด จำนวน 4 บริษัท รองลงมา คือ กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และสื่อสิ่งพิมพ์ ที่ติดโผ จำนวน 3 บริษัท เท่ากัน 

*** "SSP" ซื้อสูงสุดกว่า 1.1 หมื่นลบ. จาก 3 ดีล

บมจ.เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น (SSP) เป็นบริษัทที่ปีนี้มีการซื้อกิจการมูลค่ารวมสูงสุดถึง 11,462 ล้านบาท โดยดีลที่มีมูลค่าสูงสุด คือการเข้าซื้อหุ้น Bago Negros Energy Corporation (BNEC) จำนวน 1 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 100% ของหุ้นทั้งหมด คิดเป็นมูลค่า 8,114 ล้านบาท ภายหลังการเข้าซื้อหุ้นดดังกล่าวของ SSP จะได้โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมบนชายฝั่ง ขนาดกำลังการผลิต 150 เมกะวัตต์ ในประเทศฟิลิปปินส์เข้ามาอยู่ในพอร์ตการลงทุน

ขณะที่ อีก 2 ดีล ที่ SSP ซื้อเข้ามา คือ โรงไฟฟ้าพลังงานลม ร่มเกล้าวินด์ฟาร์ม ขนาดกำลังการผลิต 45 เมกะวัตต์ โดยเป็นการซื้อจาก บริษัท วินชัย จํากัด ด้วยการซื้อหุ้น "วินชัย" เพิ่มอีก 7.45 ล้านหุ้น สัดส่วน 75% ของหุ้นทั้งหมด หรือคิดเป็นมูลค่า 2,128 ล้านบาท 

ส่วนอีก 1 ดีล คือ การเข้าซื้อโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนพื้นที่ทำการประมง ขนาดกำลังการผลิต 17 เมกะวัตต์ ที่ไต้หวัน จาก SITW1 Company Limited (SITW1) มูลค่า 1,220 ล้านบาท 

*** มีอีก 2 บจ.ซื้อกิจการมูลค่ามากกว่า 1 พันลบ.

นอกจากนี้ ยังมีอีก 2 บริษัท ที่ปีนี้ซื้อกิจการเข้ามามูลค่ามากกว่า 1,000 ล้านบาท ประกอบด้วย บมจ.ปูนซีเมนต์นครหลวง (SCCC) ที่ซื้อ 2 บริษัทเข้ามา มูลค่ารวม 5,347 ล้านบาท ประกอบด้วย การซื้อหุ้น บมจ.ลานนารีซอร์สเซส (LANNA) จำนวน 288.82 ล้านหุ้น คิดเป็น 55.01% ของหุ้นทั้งหมด มูลค่า 4,766 ล้านบาท 

ส่วนอีกดีลของ SCCC ในปีนี้ คือการซื้อหุ้น บมจ.ไทย อะโกร เอ็นเนอร์ยี่ (TAE) จำนวน 691.13 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 66.11% ของหุ้นทั้งหมด มูลค่า 581 ล้านบาท 

ด้าน บมจ.บีซีพีจี (BCPG) เข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในเวียดนาม 2 แห่ง ขนาดกำลังผลิตรวม 99 เมกะวัตต์ ผ่านการซื้อหุ้นทั้งหมดของ EPVN W2 (HK) Co., Ltd. รวมมูลค่า 4,508 ล้านบาท โดยโรงไฟฟ้าทั้ง 2 โครงการที่ BCPG ซื้อเข้ามา ประกอบด้วยดังนี้

1.โครงการ Che Bien Tay Nguyen Wind Power Plant Project (โครงการ CBTN) ขนาด กําลังการผลิตติดตั้ง 49.5 เมกะวัตต์
2.โครงการ Phat Trien Mien Nui Wind Power Plant Project (โครงการ PTMN) ขนาด กําลังการผลิตติดตั้ง 49.5 เมกะวัตต์ 

*** พบอีก 3 บจ.ซื้อกิจการมูลค่ามากกว่า 500 ลบ.

ขณะเดียวกัน พบอีก 3 บริษัท ที่ปีนี้ ซื้อกิจการมูลค่ามากกว่า 500 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 1,000 ล้านบาท ประกอบด้วย บมจ.จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ (GRAMMY) ที่ทุ่มเงิน 960 ล้านบาท ซื้อหุ้น “วันทอง โฮลดิ้งส์” 100% ที่ถือโดย “พิธาน องค์โฆษิต” ซึ่งมีสินทรัพย์หลักคือหุ้น บมจ.เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ (ONEE) จำนวน 238.15 ล้านหุ้น สัดส่วน 10% ส่งผลให้ GRAMMY ถือหุ้น ONEE เพิ่มเป็น 37.20%

ฟาก บมจ.ดิทโต้ (ประเทศไทย) หรือ DITTO ทุ่มเงิน 847 ล้านบาท เข้าซื้อหุ้น บมจ.เน็ตเบย์ (NETBAY) จำนวน 49.80 ล้านหุ้น สัดส่วน 24.90% เพื่อต่อยอดธุรกิจ DATA Center โดย DITTO ชำระค่าตอบแทนหุ้นสามัญของ NETBAY ด้วยหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ออกใหม่ จำนวนไม่เกิน 33.20 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 25.50 บาท/หุ้น

ปิดท้ายด้วย บมจ.ที.เค.เอส. เทคโนโลยี  (TKS) ที่ทุ่มงบ 593 ล้านบาท เข้าซื้อหุ้นบริษัท ภูมิซอฟต์ จำกัด จำนวน 3.49 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 84.78% เพื่อเพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจให้บริการด้านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและซอฟต์แวร์ และการหาผู้ร่วมทุนหรือ พันธมิตรทางธุรกิจในอนาคตของบริษัทฯ และสร้างรายได้ให้กับบริษัทฯ ให้เติบโตอย่างยั่งยืน