15 บริษัท ถูก"ทริส" - "ฟิทช์"หั่นเครดิตเรทติ้ง-แนวโน้ม ส่วนใหญ่งบอ่อนแอ - หนี้ยังสูง กลุ่มอสังหาฯติดโผสูงสุด ตั้งแต่ต้นปีหั่นแล้ว 8 บจ. ส่วนอีก 7 บจ.ยังถูกคงอันดับเครดิต แต่ถูกลดแนวโน้มลงสู่ระดับ "Negative" รับงบอ่อนแอ - ฟื้นช้ากว่าคาด

*** พบ 15 หุ้น ถูกลดเครดิตเรทติ้ง ตั้งแต่ต้นปี 

"สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" สำรวจข้อมูลจาก "ทริส เรทติ้ง" และ "ฟิทช์ เรทติ้ง" ตั้งแต่ต้นปี (YTD) พบว่า ในช่วงดังกล่าว มีบริษัทจดทะเบียน (บจ.) จำนวน 15 แห่ง ที่อยู่ในข่ายถูก 2 บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือองค์กรดังกล่าว ปรับลดเครดิตเรทติ้งลง ประกอบด้วย 
 

*** รอบนี้ส่วนใหญ่หุ้นอสังหาฯโดนหั่น

15 บริษัทดังกล่าว ส่วนใหญ่เป็นบริษัทนอกดัชนี SET100 จำนวน 10 บริษัท ขณะที่ บริษัทในดัชนี SET100 ติดโผจำนวน 5 บริษัท โดยกลุ่มธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ติดโผเข้ามามากสุดจำนวน 4 บริษัท รองลงมา คือ กลุ่มธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค ที่ติดโผจำนวน 3 บริษัท 

*** 8 บจ.โดนหั่นเครดิตเรทติ้งลงแล้ว

โดยมี 8 บริษัท ที่ถูก "ทริส เรทติ้ง" และ "ฟิทช์ เรทติ้ง" ปรับลดอันดับเครดิตเรทติ้งลงแล้ว ประกอบด้วย บมจ.ไมโครลิสซิ่ง (MICRO) ที่ถูก "ทริส เรทติ้ง" ปรับลดเครดิตเรทติ้งลงมาอยู่ที่ระดับ "BB" (เดิมระดับ "BB+") เนื่องจากคุณภาพสินทรัพย์ของบริษัท และผลการดำเนินงานอ่อนตัวลงกว่าในอดีตอย่างมีนัยสำคัญ

ด้าน บมจ.วิลล่า คุณาลัย (KUN) ถูก "ทริส เรทติ้ง" ปรับลดเครดิตเรทติ้งลงมาอยู่ที่ระดับ "BB-" (เดิมระดับ "BB") เนื่องจากคุณผลการดำเนินงานถดถอย, บมจ.แกรนด์ คาแนล แลนด์ (GLAND) ถูก "ทริส เรทติ้ง" ปรับลดเครดิตเรทติ้งลงมาอยู่ที่ระดับ "BBB-" (เดิมระดับ "BBB") เนื่องจากหนี้สินของบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ฟาก บมจ.ซีเค พาวเวอร์ (CKP) ถูก "ทริส เรทติ้ง" ปรับลดเครดิตเรทติ้งลงมาอยู่ที่ระดับ "A-" (เดิมระดับ "A") เนื่องจากกระแสเงินสดของบริษัทลดลงจากเดิมอย่างมีนัยสำคัญ, บมจ.แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ (GRAND) ถูก "ทริส เรทติ้ง" ปรับลดเครดิตเรทติ้งลงมาอยู่ที่ระดับ "B+" (เดิมระดับ "BB-") เนื่องจากแผนลดหนี้ของบริษัทล่าช้า และผลการดำเนินงานอ่อนแอ

ขณะที่ บมจ.มั่นคงเคหะการ (MK) ถูก "ทริส เรทติ้ง" ปรับลดเครดิตเรทติ้งลงมาอยู่ที่ระดับ "BB-" (เดิมระดับ "BB+") เนื่องจากผลการดำเนินงานอ่อนแอ และหนี้สินสูง, บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) ถูก "ทริส เรทติ้ง" ปรับลดเครดิตเรทติ้งลงมาอยู่ที่ระดับ "A" (เดิมระดับ "A+") เนื่องจากผลการดำเนินงานอ่อนแอ และหนี้สินสูง

และ บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC) ถูก "ฟิทช์ เรทติ้ง" ปรับลดเครดิตเรทติ้งลงมาอยู่ที่ระดับ "BBB+" (เดิมระดับ "A-") เนื่องจากผลการดำเนินงานยังอ่อนตัว 

*** อีก 7 บจ.ส่อโดนหั่นเครดิตเร็ว ๆ นี้

นอกจากนี้ ยังมีอีก 7 บริษัท ที่"ทริส เรทติ้ง" และ "ฟิทช์ เรทติ้ง" ยังคงอันดับเครดิตเรทติ้ง แต่ปรับแนวโน้มลดลงสู่ระดับ "Negative" โดยส่วนใหญ่มีสาเหตุหลักจากผลการดำเนินงานอ่อนแอกว่าคาดการณ์เดิม และผลการดำเนินงานอาจฟื้นตัวช้ากว่าคาดการณ์เดิม

นำโดย บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD) ที่ยังถูก "ทริส เรทติ้ง" คงอันดับเรทติ้งที่ "BB+" แต่แนวโน้มข้างหน้าถูกปรับลงสู่ระดับ "Negative" หลังเกิดความไม่เชื่อมั่นเกี่ยวกับหุ้นกู้ของบริษัท และผลการดำเนินงานยังอ่อนแอ, บมจ.เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (JMART) ยังถูก "ทริส เรทติ้ง" คงอันดับเรทติ้งที่ "BBB+" แต่แนวโน้มข้างหน้าถูกปรับลงสู่ระดับ "Negative" หลังสถานะการเงินของบริษัทอ่อนแอลง

ด้าน บมจ.เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส (JMT) ยังถูก "ทริส เรทติ้ง" คงอันดับเรทติ้งที่ "BBB+" แต่แนวโน้มข้างหน้าถูกปรับลงสู่ระดับ "Negative" หลังสถานะการเงินของ JMART อ่อนแอลง, บมจ.ทรัพย์ศรีไทย (SST) ยังถูก "ทริส เรทติ้ง" คงอันดับเรทติ้งที่ "BBB-" แต่แนวโน้มข้างหน้าถูกปรับลงสู่ระดับ "Negative" หลังการฟื้นตัวของธุรกิจไม่สดใส

ฟาก บมจ.มัด แอนด์ ฮาวด์ (MUD) ยังถูก "ทริส เรทติ้ง" คงอันดับเรทติ้งที่ "BBB-" แต่แนวโน้มข้างหน้าถูกปรับลงสู่ระดับ "Negative" หลังการฟื้นตัวของธุรกิจไม่สดใส, บมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ (ANAN) ยังถูก "ทริส เรทติ้ง" คงอันดับเรทติ้งที่ "BB+" แต่แนวโน้มข้างหน้าถูกปรับลงสู่ระดับ "Negative" หลังผลการดำเนินงานยังอ่อนแอ และยังต้องเผชิญกับดอกเบี้ยระดับสูงด้วย

ปิดท้ายด้วย บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) ที่ยังถูก "ฟิทช์ เรทติ้ง" คงอันดับเรทติ้งที่ "BBB" แต่แนวโน้มข้างหน้าถูกปรับลงสู่ระดับ "Negative" หลังอัตราส่วนหนี้สินของบริษัทยังอยู่ในระดับสูง