เช้านี้ CBG บวกสูงสุด 1.48% รับโบรกฯมองงบปีนี้พ้นจุดต่ำสุดแล้ว คาด Q2/66 เริ่มกระเตื้อง หลังเข้าไฮซีซั่น – รายได้ต่างประเทศฟื้น มอง H2/66 ฟื้นชัดกว่า หลังปัญหาต้นทุนคลี่คลาย แต่ยังขอหั่นเป้ากำไรปี 66 รับยอดขาย- GPM ฟื้นช้ากว่าคาด กดงบชะลอตัว ก่อนพลิกโตปี 67 ราว 26%
*** บวกสูงสุด 1.48% รับงบพ้นจุดต่ำสุด
ราคาหุ้น บมจ.คาราบาวกรุ๊ป (CBG) ช่วงเช้าวันนี้ (13 มิ.ย.66) ดีดขึ้นทำจุดสูงสุดที่ราคา 68.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.48% จากวันทำการก่อนหน้า ก่อนปิดซื้อขายภาคเช้าด้วยราคา 67.25 บาท เท่ากับราคาปิดวันทำการก่อนหน้า มีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น 85.88% จาก 5 วันทำการก่อนหน้า
บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุสาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้น CBG เช้านี้ ปรับตัวขึ้นสูงสุด 1.48% เนื่องจากกำลังได้รับ Sentiment เชิงบวก จากผลการดำเนินงานปีนี้ มีแนวโน้มผ่านจุดต่ำสุดช่วงไตรมาส 1/66 ไปแล้ว อีกทั้ง ยังมองว่า ราคาหุ้น CBG ได้ตอบรับปัจจัยลบช่วงก่อนหน้านี้ไปมากพอสมควรแล้วด้วย
*** เปิดสาเหตุทำไมงบ Q2/66 จ่อฟื้นตัว
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ประเมินว่า กำไรปกติไตรมาส 2/66 ของ CBG มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นจากไตรมาสก่อนราว 40% หนุนโดยรายได้ที่ฟื้นตัวขึ้นทั้งตลาดในประเทศ และต่างประเทศ จากปัจจัยฤดูกาลที่เป็นช่วงฤดูร้อน ซึ่งเป็นไฮซีซั่นของธุรกิจเครื่องดื่ม โดยตลาดในประเทศคาดว่า CBG จะแย่งส่วนแบ่งจากคู่แข่งได้มากขึ้น หลังรับรู้การปรับขึ้นราคาขายปลีกของคู่แข่งเต็มไตรมาสครั้งแรก
นอกจากนี้ ตลาด CLMV ยังมีแนวโน้มการฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในตลาดหลักอย่างประเทศกัมพูชา หลังการกลับเข้าไปทำการตลาดมากขึ้น อีกทั้ง มีการปรับขึ้นราคาขายส่งราว 10% ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นสู่ระดับ 25.5% (ไตรมาส 1/66 อยู่ที่ระดับ 24.7%) จากอัตราการใช้กำลังการผลิตสูงขึ้น
ขณะเดียวกัน ยังมีปัจจัยหนุนด้านต้นทุนที่ลดลงด้วย สะท้อนจากราคาอลูมิเนียมที่ไตรมาส 2/66 เฉลี่ยอยู่ที่ 2.3 พันเหรียญ/ตัน เทียบกับไตรมาส 1/66 เฉลี่ยอยู่ที่ 2.5 – 2.6 พันเหรียญ/ตัน ซึ่งจะช่วยชดเชยผลกระทบของภาษีความหวานที่ปรับขึ้นเฟส 4 ได้ทั้งหมด
เช่นเดียวกับ บล.เอเซีย พลัส ที่มองว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/66 ของ CBG ได้ผ่านจุดต่ำสุดแล้ว คาดฟื้นตัวช่วงไตรมาส 2/66 จากการเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ และรับรู้ผลบวกจากคู่แข่งในประเทศปรับขึ้นราคาสินค้า ประกอบกับ ยอดขายกลุ่ม CLMV เริ่มฟื้นตัว และต้นทุนอลูมิเนียม และค่าไฟฟ้าที่ลดลง จะช่วยหนุน GPM เพิ่มขึ้น
*** โบรกฯมองผลงานเด่นสุดปีนี้อยู่ H2/66
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) มองว่า ผลการดำเนินงานปีนี้ของ CBG มีแนวโน้มโดดเด่นสุดในช่วงครึ่งหลังของปี 66 (H2/66) มีปัจจัยหนุนจากการเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในประเทศขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 25% สอดรับกับคาดการณ์ว่ารายได้ต่างประเทศจะฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ธุรกิจรับจ้างจัดจำหน่าย คาดว่าจะมีรายได้ และอัตรากำไรที่สูงขึ้น จากแผนการออกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตัวใหม่เพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาส 3/66 ขณะเดียวกัน ปัจจัยกดดันด้านต้นทุนในการผลิต จะเริ่มคลี่คลายมากขึ้น หลังราคาอลูมิเนียม, ก๊าซธรรมชาติ และค่าไฟฟ้าปรับตัวลดลง เช่นเดียวกับ ราคาน้ำตาลที่เริ่มชะลอตัวลงบ้างแล้ว
*** แต่กูรูหั่นเป้ากำไรปีนี้ รับรายได้ฟื้นช้า
บล.ดาโอ (ประเทศไทย) ระบุว่า ได้ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 66 ของ CBG ลงจากเดิม 5% เหลือ 1.99 พันล้านบาท ชะลอตัว 13% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพื่อให้สอดคล้องกับ ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/66 ที่อ่อนแอกว่าคาด อีกทั้งรายได้จากตลาดต่างประเทศ และ GPM ที่ฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดเล็กน้อย
ขณะที่ นักวิเคราะห์อีก 2 ราย ประเมินกำไรสุทธิปี 66 ของ CBG ไว้ดังนี้
บล. |
กำไรสุทธิปี 66 (ลบ.) |
%chg YoY |
เอเชีย พลัส |
2,056 |
(-10) |
หยวนต้า |
1,839 |
(-19) |
*** คาดกำไรปี 67 พลิกกลับมาโตได้
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ประเมินว่า กำไรสุทธิปี 67 ของ CBG จะพลิกกลับมาเติบโตอีกครั้ง ประเมินไว้ที่ 2.32 พันล้านบาท เติบโตขึ้น 26% จากปีก่อน มีปัจจัยหนุนจากส่วนแบ่งตลาดในประเทศเพิ่มขึ้น จากมาตรการคงราคาขายที่ 10 บาท/ขวด ประกอบกับ ตลาดต่างประเทศฟื้นตัว จากการติดตั้งเครื่องจักรการผลิตในเมียนมาเสร็จในไตรมาส 1/67
นอกจากนี้ ธุรกิจรับจ้างจัดจำหน่ายมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ตามแผนการออกสินค้าแอลกอฮอล์ตัวใหม่ของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง และปัจจัยกดดันด้านต้นทุนคลี่คลายมากขึ้น ประกอบกับ คาดว่า CBG มีโอกาสปรับราคาขายปลีกขึ้น หากส่วนแบ่งตลาดในประเทศสูงขึ้นตามเป้าหมายของบริษัท ซึ่งจะเป็นอัพไซด์ต่อคาดการณ์กำไรสุทธิปี 67 ของเราด้วย
*** โบรกฯมองหุ้นรับข่าวร้ายมากไปแล้ว
บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า ราคาหุ้น CBG ที่ปรับตัวลงแรงในช่วงก่อนหน้านี้ ได้สะท้อนปัจจัยลบจากผลการดำเนินงานไตรมาส 1/66 ทำจุดต่ำสุดในรอบ 18 ไตรมาส ไปมากพอสมควรแล้ว ขณะเดียวกัน คาดว่า ผลการดำเนินงานจะเริ่มฟื้นตัวขึ้น ตั้งแต่ไตรมาส 2/66 เป็นต้นไป จึงทำให้เราปรับคำแนะนำหุ้น CBG ขึ้นเป็น Neutral (เดิม Underperform)
สอดคล้องกับ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ที่เสริมว่า ราคาหุ้น ณ ปัจจุบัน ของ CBG ได้สะท้อนปัจจัยลบในช่วงก่อนหน้านี้ไปมากพอสมควรแล้ว ในเชิงกลยุทธ์เราจึงแนะนำซื้อเก็งกำไรผลการดำเนินงานฟื้นตัวในระยะสั้น หรือ ถือลงทุนระยะยาวรับผลการดำเนินงานกลับเข้าสู่ช่วงเติบโต ตั้งแต่ปี 67 เป็นต้นไป
*** แต่ส่วนใหญ่แนะนำแค่"ถือ"เท่านั้น
จากการสำรวจความคิดเห็นนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ ยังแนะนำเพียง"แค่"ถือ CBG เท่านั้น แม้จะมองว่า ผลการดำเนินงานจะเริ่มฟื้นตัวแล้วก็ตาม แต่ถ้าเทียบกับหุ้นในกลุ่มเดียวกัน ถือว่า ผลการดำเนินงานปี 66 ของ CBG เป็นหนึ่งในไม่กี่บริษัทที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง ประกอบกับ ยังซื้อขายบน P/E ปี 66 ที่ระดับ 33.8 เท่า ถือว่า แพวกว่าคู่แข่งรายสำคัญ
บล. |
คำแนะนำ |
ราคาเหมาะสม (บ.) |
กรุงศรีฯ |
ซื้อ |
82.00 |
หยวนต้า |
ซื้อเก็งกำไร |
72.00 |
เอเชีย พลัส |
ถือ |
70.00 |
ยูโอบีฯ |
ถือ |
70.00 |
ดาโอ |
ถือ |
68.50 |
ราคาเฉลี่ย |
72.50 |
หากอ้างอิงข้อมูลของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ ดูเหมือนว่าการเข้าลงทุนในหุ้น CBG ช่วงนี้ จะเหมาะกับนักลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงได้สูงมากกว่า เนื่องจากโบรกเกอร์แนะนำกลยุทธ์เข้าไปเก็งกำไรจากผลการดำเนินงานที่มีแนวโน้มฟื้นตัวในระยะสั้น เทียบกับไตรมาสก่อน อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นที่ซื้อขาย ณ ปัจจุบัน เหลืออัพไซด์ให้ได้ลุ้นเพียง 7% เท่านั้น เมื่อเทียบกับราคาเหมาะสมเฉลี่ยของนักวิเคราะห์ ...