เช้านี้หุ้น OR ดีดสูงสุด 5.09% ด้วยปริมาณการซื้อขายหนาแน่น รับ กบง.เคาะปรับค่าการตลาดน้ำมันสู่ภาวะปกติ ขณะที่โบรกฯประเมินผลการดำเนินงานผ่านจุดต่ำสุดในช่วง Q4/65 แล้ว คาด Q1/66 เป็นจุดเริ่มต้นฟื้นตัว ตามปริมาณการขายน้ำมันเพิ่มขึ้นหลังเปิดเมืองเต็มที่ ประเมินกำไรปี 66 ยังพลิกกลับมาโตได้ราว 13 – 31% แถมราคาหุ้นยังมีอัพไซด์กว่า 21%

*** เช้านี้เด้งรับกบง.ลดค่าการตลาดน้ำมัน

ราคาหุ้น บมจ.ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก (OR) ช่วงเช้าวันนี้ (15 ก.พ.66) ดีดขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ราคา 22.70 บาท เพิ่มขึ้น 5.09% จากวันทำการก่อนหน้า ก่อนปิดซื้อขายภาคเช้าด้วยราคา 22.60 บาท เพิ่มขึ้น 1 บาท หรือ 4.63% มีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น 226.91% จาก 5 วันทำการก่อนหน้า

บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุสาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้น OR เช้านี้ ปรับตัวขึ้นสูงสุด 5.09% เนื่องจากกำลังได้รับปัจจัยหนุน หลังกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) มีมติเห็นชอบปรับค่าการตลาดน้ำมันเชื้อเพลิงที่เหมาะสม

โดยจะปรับค่าการตลาดน้ำมันเชื้อเพลิงกลับสู่ระดับปกติตามปี 63 ทั้งในกลุ่มน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว และกลุ่มเบนซินและน้ำมันแก๊สโซฮอล์ราว 2 บาท/ลิตร ส่งผลให้ค่าการตลาดน้ำมันดีเซลหมุนเร็วมีแนวโน้มปรับสูงขึ้น ส่งผลบวกต่อกลุ่มสถานีบริการน้ำมัน เพราะสัดส่วนขายน้ำมันราว 40 – 75% เป็นการขายน้ำมันดีเซล 

ส่วน บล.ดาโอ (ประเทศไทย) ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า การปรับค่าการตลาดน้ำมันดังกล่าวของ กบง. จะทำให้กำไรในการขายน้ำมันต่อลิตรของ OR มีแนวโน้มอยู่ที่ประมาณ 1 บาท/ลิตร 

*** โบรกฯมองงบ Q1/66 จุดเริ่มต้นฟื้นตัว

บล.ดาโอ (ประเทศไทย) ประเมินว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/66 ของ OR มีแนวโน้มฟื้นตัวจากไตรมาสก่อน  มีปัจจัยหนุนจากปริมาณการขายผลิตภัณฑ์น้ำมันที่สูงขึ้น และ marketing margin ที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน อีกทั้ง ยังเชื่อว่า OR จะยังคงแผนขยายสาขาในเชิงรุก คาดมียอดเปิดสถานีบริการน้ำมันใหม่ 100 แห่ง และ Café Amazon อีก 400 สาขา ในปีนี้

สอดคล้องกับ บล.โนมูระ พัฒนสิน ที่มองว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/66 ของ OR มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นจากไตรมาสก่อน ตามการฟื้นตัวของธุรกิจ Mobility ที่มีปริมาณการขายน้ำมันเพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของการเดินทาง อีกทั้งยังไม่มีผลกระทบการนำเข้าน้ำมันเหมือนในช่วงไตรมาสก่อน 

ส่วน บล.พายเสริมว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/66 ของ OR ที่มีแนวโมฟื้นตัวขึ้นจากไตรมาสก่อน จะหนุนโดยค่าการตลาดค้าปลีกน้ำมันที่ฟื้นตัวจากฐานต่ำในช่วงไตรมาสก่อน  หลังโรงกลั่นในประเทศกลับมาเดินเครื่องตามปกติ 

*** คาดงบปี 66 พลิกกลับมาโตได้ 13 - 31%

บล.โนมูระ พัฒนสิน ประเมินกำไรสุทธิปี 66 ของ OR ไว้ที่ 1.35 หมื่นล้านบาท พลิกกลับมาเติบโตขึ้น 31% จากปีก่อน หนุนโดยธุรกิจ Mobility มีปริมาณการขายเติบโตขึ้น 5% จากปีก่อน ตามการขยายสถานีบริการน้ำมันต่อเนื่อง อีกทั้งความต้องการใช้น้ำมัน Jet (Commercial) ยังฟื้นตัวด้วย 

นอกจากนี้ คาดว่า GM จะฟื้นตัวมาอยู่ที่ระดับ 1.05 บาท/ลิตร หลังไม่มีผลกระทบนำเข้าน้ำมันต้นทุนสูงเหมือนปีก่อน ขณะที่ ธุรกิจ Lifestyle คาดว่าจะมีปริมาณการขายเติบโตขึ้น 12% จากปีก่อน ตามการขยายสาขา และกำลังซื้อฟื้นตัวตามการท่องเที่ยว ฝั่ง Global เติบโตทั้งส่วนธุรกิจน้ำมัน และร้านกาแฟ ตามการฟื้นตัวเศรษฐกิจ และการขยายสาขา

ขณะที่ นักวิเคราะห์อีก 2 ราย ประเมินกำไรสุทธิปี 66 ของ OR ไว้ดังนี้
 

*** กูรูชี้ราคาหุ้นตอบรับปัจจัยลบหมดแล้ว

บล.พาย ระบุว่า ราคาหุ้น OR ที่ปรับตัวลดลงราว 9% ตั้งแต่ต้นปี (YTD) ได้สะท้อนปัจจัยลบกำไรไตรมาส 4/65 ที่มีแนวโน้มอ่อนแอไปหมดแล้ว ขณะที่คาดว่า กำไรไตรมาส 1/66 จะเป็นจุดเริ่มต้นของการฟื้นตัว ซึ่งคาดว่าจะช่วยหนุนทิศทางราคาหุ้นในระยะถัดไปได้

นอกจากนี้ ราคาหุ้น OR ณ ปัจจุบัน ยังเทรดบน P/E ปี 66 ที่ระดับ 26 เท่า ซึ่งคิดเป็นส่วนลดราว 10% ต่อค่าเฉลี่ยของกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยในประเทศไทย จึงยังคงแนะนำ"ซื้อ"

สอดคล้องกับ บล.ดาโอ (ประเทศไทย) ที่ระบุว่า ยังคงแนะนำ"ซื้อ" OR แม้ราคาหุ้นในช่วง 6 เดือนล่าสุด จะปรับตัวลง Underperform SET ราว 22% ตาม market margin อ่อนแอ แต่ราคาหุ้น ณ ปัจจุบัน ยังเทรดบนระดับ P/E ที่น่าสนใจ ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ของกลุ่มค้าปลีก อีกทั้งผลการดำเนินงาน มีแนวโน้มเร่งตัวขึ้น ตั้งแต่ไตรมาส 1/66 เป็นต้นไป 

*** ส่วนใหญ่ยังคงแนะนำ"ซื้อ"

จากการสำรวจความคิดเห็นนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังคงแนะนำ"ซื้อ" OR เนื่องจากมองว่า ผลการดำเนินงานได้ผ่านจุดต่ำสุดในช่วงไตรมาส 4/65 ไปแล้ว โดยคาดจะเห็นการเร่งตัวขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 1/66 เป็นต้นไป ตามความต้องการใช้น้ำมันที่สูงขึ้น และการยังคงเป้าขยายสาขาเชิงรุก จึงทำให้กำไรสุทธิปี 66 มีแนวโน้มจะพลิกกลับมาเติบโตได้

แม้ราคาหุ้น OR เช้านี้ จะปรับตัวขึ้นสูงสุดกว่า 5% แต่ราคาหุ้นที่ซื้อขาย ณ ปัจจุบัน ยังเหลืออัพไซด์ให้นักลงทุนได้ลุ้นอีกราว 21% เมื่อเทียบกับราคาเหมาะสมเฉลี่ยของโบรกเกอร์ โดยนักวิเคราะห์ยังมีมุมมองเชิงบวกต่อผลการดำเนินงานของ OR หลังคาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 1/66 จะเป็นจุดเริ่มต้นของการฟื้นตัวรอบใหม่ ...