เช้านี้ BAM บวกสูงสุด 3.87% หลัง 3 วันก่อนหน้ารูดแรงต่อเนื่องตาม SET ขณะที่โบรกฯมองงบ Q1/66 แม้ผ่านไฮซีซั่น แต่ยังโต YoY ได้จากฐานกำไรปีก่อนต่ำ มองปีนี้เศรษฐกิจฟื้นหนุนการซื้อหนี้ – ขายทรัพย์โตได้ต่อ ดันกำไรปี 66 โตต่อราว 21 - 28% แถมอัพไซด์ยังเหลืออีกเพียบ !
*** เช้านี้เริ่มรีบาวด์ หลังราคาหุ้นลงมาต่อเนื่อง
ราคาหุ้น บมจ.บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ (BAM) ช่วงเช้าวันนี้ (15 มี.ค.66) ดีดขึ้นทำจุดสูงสุดที่ราคา 13.40 บาท เพิ่มขึ้น 3.87% จากวันทำการก่อนหน้า ก่อนปิดซื้อขายภาคเช้าด้วยราคา 13.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.4 บาท หรือ 3.1% มีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น 102.21% จาก 5 วันทำการก่อนหน้า
โดยราคาหุ้น BAM เช้านี้ ที่ปรับตัวขึ้นสูงสุด 3.87% ถือเป็นการกลับมารีบาวด์อีกครั้ง หลังก่อนหน้านี้ ปรับตัวลงต่อเนื่อง 3 วันทำการ ตามภาวะตลาดหุ้นไทย (SET) ที่ได้รับ Sentiment เชิงลบ จากปัจจัยนอกประเทศ อย่าง ความกังวลต่อสถาบันการเงินในสหรัฐฯกดดันค่อนข้างหนัก
ขณะที่ บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หยวนต้า (ประเทศไทย) ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ราคาหุ้น BAM ที่ซื้อขาย ณ ปัจจุบัน ถือว่ายังไม่แพง สะท้อนจากการมีอัพไซด์สูงถึง 49% เมื่อเทียบกับราคาเหมาะสมของเราที่ 20 บาท/หุ้น
*** ระยะสั้น มีปันผลปี 65 แจกยีลด์สูง 4.1%
นอกจากนี้ ในระยะสั้น ยังมีปัจจัยหนุนราคาหุ้น BAM รออยู่ อย่างการประกาศจ่ายเงินปันผลปี 65 ที่อัตรา 0.55 บาท/หุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทนเงินปันผล (Dividend Yield) ที่สูงราว 4.1% โดยจะขึ้นเครื่องหมายไม่ได้สิทธิรับเงินปันผล วันที่ 2 พ.ค.นี้ และจ่ายเงินปันผล วันที่ 23 พ.ค.66
*** กูรูชี้กำไร Q1/66 โต YoY ได้เพราะฐานต่ำ
บล.ดาโอ (ประเทศไทย) ประเมินว่า กำไรสุทธิไตรมาส 1/66 ของ BAM ยังมีแนวโน้มเติบโตขึ้นจากปีก่อน (YoY) ที่มีกำไรสุทธิ 311 ล้านบาทได้ เพราะฐานกำไรปีก่อนอยู่ในระดับต่ำ โดยปีนี้จะได้แรงหนุนจากรายได้ธุรกิจ NPA เพิ่มขึ้น ตามสัดส่วนลูกหนี้เงินผ่อนที่สูงขึ้น และค่าใช้จ่ายการตั้งสำรองฯลดลงตามการจัดเก็บเงินสด (Cash collection) ดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม ประเมินว่า กำไรสุทธิไตรมาส 1/66 ของ BAM จะอ่อนตัวลงจากไตรมาสก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 866 ล้านบาท เนื่องจากผลการดำเนินงานได้ผ่านช่วงไฮซีซั่น ที่มักอยู่ในช่วงปลายปีไปแล้วนั่นเอง
สอดคล้องกับ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ที่ประเมินว่า กำไรสุทธิไตรมาส 1/66 ของ BAM ยังมีแนวโน้มเติบโตขึ้นจากปีก่อนได้ มีปัจจัยหนุนจากปริมาณลูกหนี้ปรับโครงสร้างที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่ยังคาดว่ากำไรสุทธิช่วงดังกล่าว จะลดลงจากไตรมาสก่อน หลังผ่านช่วงไฮซีซั่นของผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/65 ไปแล้ว
*** คาดซื้อหนี้สูงขึ้น หนุนการจัดเก็บเงินสด
บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุว่า ปีนี้ BAM คงเป้าหมายซื้อหนี้เข้ามาบริหารมูลค่า 9 พันล้านบาท เท่ากับที่เราคาดการณ์ ซึ่งแนวโน้ม NPL ที่สูงขึ้น และสัญญาณการตั้งสำรองที่สูงขึ้นจากฝั่งสถาบันการเงิน หนุนการซื้อทรัพย์เร่งตัวขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปี 66 (H1/66) ซึ่งเราคาดว่าจะสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่อยู่ในระดับ 3 พันล้านบาท อย่างมีนัยสำคัญ
สอดคล้องกับ บล.เอเซีย พลัส ที่มองว่า แนวโน้มการขายหนี้เสียของสถาบันการเงินกลับมาฟื้นตัวขึ้นอีกครั้ง จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ หนุนการขาย NPL และ NPA ได้เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ BAM ได้ซื้อหนี้เข้ามาถึง 5.1 พันล้านบาท ในช่วงไตรมาส 4/65 หลัก ๆ เป็นการซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ ส่งผลให้การจัดเก็บเงินสดปีนี้ คาดทำได้ 1.78 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้น 6% จากปีก่อน
*** ส่องกำไรปี 66 คาดยังโตได้ราว 21 - 28%
บล.ดาโอ (ประเทศไทย) ประเมินกำไรสุทธิปี 66 ของ BAM ไว้ที่ 3.5 พันล้านบาท เติบโตขึ้น 28% จากปีก่อน หนุนโดยการจัดเก็บเงินสดที่คาดจะทำได้ 1.8 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้น 7% จากปีก่อน หลังการติดตามหนี้ดีขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจ, สัดส่วนลูกหนี้ปรับโครงสร้าง และลูกหนี้เงินผ่อนเพิ่มขึ้น ทำให้ Cash collection มีเสถียรภาพมากขึ้น
อีกทั้ง คาดว่า BAM จะซื้อหนี้เสียเข้ามาเพิ่มอีก 7 พันล้านบาทในปีนี้ นอกจากนี้ ประเมินว่า Cost to income จะปรับลงเล็กน้อยจากปีก่อน 30 bps หลังประสิทธิภาพการติดตามหนี้ดีขึ้น และได้ผลบวกจากการ Synergy กับพาร์ทเนอร์ต่าง ๆ ทั้งไปรษณีย์ไทย และ SENA
ขณะที่ นักวิเคราะห์อีก 2 ราย ประเมินกำไรสุทธิปี 66 ของ BAM ไว้ดังนี้
บล. |
กำไรสุทธิปี 66 (ลบ.) |
%chg YoY |
ทรีนีตี้ |
3,296 |
21 |
โนมูระฯ |
3,286 |
21 |
*** โบรกฯชี้ดาวน์ไซด์หุ้นจำกัดแล้ว
บล.ทรีนีตี้ ระบุว่า ยังคงแนะนำ"ซื้อ" เนื่องจากมองว่า ราคาหุ้น BAM ที่ซื้อขาย ณ ปัจจุบัน เริ่มมีดาวน์ไซด์จำกัดแล้ว หลังราคาหุ้นก่อนหน้านี้ปรับตัวลงมามากพอสมควร อีกทั้ง ระยะสั้น BAM ยังมีเงินปันผลที่คิดเป็น Dividend Yield สูงถึง 4.1% ประกอบกับ ผลการดำเนินงานปีนี้ ยังมีแนวโน้มเติบโตได้ต่อเนื่อง
สอดคล้องกับ บล.เอเซีย พลัส ที่เสริมว่า ราคาหุ้น BAM ณ ปัจจุบัน มี PBV ปี 66 ที่ระดับ 1.2 เท่าซึ่งคิดเป็นส่วนลดของ PBV ย้อนหลังตั้งแต่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อ 3 ปีที่แล้วอยู่ถึง 1.5 SD สะท้อนความเสี่ยงเกี่ยวกับภาพเศรษฐกิจชะลอตัวไปมากแล้ว
ส่วน บล.โนมูระ พัฒนสิน ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า BAM เป็นผู้นำธุรกิจกลุ่มหนี้ที่มีหลักประกัน ซึ่งจะรับอานิสงส์หนี้ที่เร่งตัวขึ้นในช่วงปี 66 - 67 เป็นปัจจัยหนุนผลการดำเนินงานให้เติบโตตาม จึงยังคงคำแนะนำ"ซื้อ"
*** ส่วนใหญ่แนะนำ"ซื้อ"
จากการสำรวจความคิดเห็นนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังคงแนะนำ"ซื้อ" เนื่องจากมองว่าระดับราคาหุ้น BAM ณ ปัจจุบัน กำลังอยู่ในโซนน่าสนใจที่จะเข้าสะสมหุ้นจากการมีอัพไซด์สูงถึง 52% เทียบกับราคเหมาะสมเฉลี่ยของโบรกเกอร์ อีกทั้ง ยังประเมินว่า กำไรสุทธิของ BAM จะเติบโตต่อเนื่องถึงปี 68 เป็นอย่างน้อย ตามทิศทางเศรษฐกิจส่งสัญญาณฟื้นตัวต่อเนื่อง
บล. |
คำแนะนำ |
ราคาเหมาะสม (บ.) |
โนมูระฯ |
ซื้อ |
22.00 |
เอเชีย พลัส |
ซื้อ |
21.00 |
หยวนต้า |
ซื้อ |
20.00 |
ทรีนีตี้ |
ซื้อ |
19.40 |
บัวหลวง |
ซื้อ |
19.10 |
ราคาเฉลี่ย |
20.30 |
หากอ้างอิงข้อมูลของนักวิเคราะห์ ดูเหมือนว่าส่วนใหญ่จะคาดการณ์ว่าราคาหุ้น BAM ได้ผ่านจุดต่ำสุดของปีนี้ไปแล้ว โดยหลังจากนี้ยังคงต้องติดตามพัฒนาการของผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นปัจจัยที่จะช่วยหนุนราคาหุ้น BAM ได้
อีกทั้ง BAM ยังไม่มีการประกาศร่วมทุนกับสถาบันการเงินในการทำ AMC เหมือนคู่แข่งในตลาดรายอื่น ๆ ซึ่งประเด็นดังกล่าว จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับ BAM ในระยะถัดไป หากบริษัทมีการประกาศการร่วมทุนออกมา ....