PTTEP เด้งรับน้ำมันฟื้น ...ราคานี้ชวนซื้อหรือยัง ?

เช้านี้ PTTEP บวกสูงสุด 3.48% ตามราคาน้ำมันดิบฟื้นตัว หลังสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯลดลงกว่าคาด ด้านโบรกฯมองหุ้นรับปัจจัยลบมากพอสมควรแล้ว คาดราคาน้ำมันดิบผ่านจุดต่ำสุดช่วง Q2/66 หนุนงบช่วงที่เหลือของปีฟื้นได้ ชี้หุ้นกลับมาน่าสนใจมากขึ้นทั้งอัพไซด์ยังกว้าง – ปันผลแจกยีลด์สูง !  

*** บวกสูงสุด 3.48% รับราคาน้ำมันรีบาวด์

ราคาหุ้น บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) ช่วงเช้าวันนี้ (29 มิ.ย.66) ดีดขึ้นทำจุดสูงสุดที่ราคา 148.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.48% จากวันทำการก่อนหน้า ก่อนปิดซื้อขายภาคเช้าด้วยราคาดังกล่าว มีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น 75.54% จาก 5 วันทำการก่อนหน้า 

บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กรุงศรี ระบุสาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้น PTTEP เช้านี้ ปรับตัวขึ้นสูงสุด 3.48% เนื่องจากกำลังได้รับปัจจัยหนุน จากราคาน้ำมันดิบที่ฟื้นตัวใกล้ระดับ 70 เหรียญ/บาร์เรล 

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ล่าสุดอยู่ที่ 69.59 เหรียญ/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.86 เหรียญ/บาร์เรล หรือ 2.75% หลังสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบลดลง 9.6 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับที่มากกว่าตลาดคาดการณ์ว่าจะลดลงเพียง 1.75 ล้านบาร์เรล เท่านั่น อีกทั้ง ยังเป็นการลดลง 2 สัปดาห์ติดต่อกันอีกด้วย 

*** กูรูชี้ราคาน้ำมันดิบผ่านจุดต่ำสุดแล้ว

บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ประเมินว่า ในช่วงครึ่งหลังของปี 66 (H2/66) ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มจะทรงตัวอยู่ในระดับแข็งแกร่งได้อย่างต่อเนื่อง มีปัจจัยหนุนสำคัญ 2 ข้อ ดังนี้

1.การประชุมของ OPEC+ รอบล่าสุด ขยายเวลาการลดกำลังผลิตน้ำมันลง 1.4 ล้านบาร์เรล/วัน ไปจนถึงสิ้นปี 67 จากเดิมที่จะสิ้นสุดปี 66 นอกจากนี้ ซาอุดิอาระเบีย ยังประกาศลดกำลังการผลิตอีก 1 ล้านบาร์เรล/วัน ตั้งแต่ ก.ค.เป็นต้นไป การควบคุมอุปทานครั้งนี้ จะช่วยลดดาวน์ไซด์ และหนุนราคาน้ำมันให้เคลื่อนไหวในกรอบ 75 – 80 เหรียญ/บาร์เรล

2.รัฐบาลจีนส่งสัญญาณออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ โดยล่าสุดมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นลง และมีแนวโน้มที่จะดำเนินนโยบายทางการเงินแบบผ่อนคลายมากขึ้น ทำให้เรามองว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน จะเป็นปัจจัยหลักหนุนราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีหลัง และไตรมาส 2/66 จะเป็นช่วงที่ราคาน้ำมันดิบผ่านจุดต่ำสุดแล้ว

*** โบรกฯมองหุ้นกลับมาน่าสนใจอีกครั้ง

บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) มองว่า การลงทุนในหุ้น PTTEP กลับมามีความน่าสนใจอีกครั้ง สะท้อนจากตลาดน่าจะรับรู้ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/66 ที่มีแนวโน้มอ่อนแอไปมากพอสมควรแล้ว หลังราคาหุ้น PTTEP ปรับตัวลงราว 12% ตั้งแต่ช่วงกลางเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ตามทิศทางราคาน้ำมันดิบอ่อนตัว

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ล่าสุด ดูเหมือนว่า ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มจะผ่านจุดต่ำสุดในช่วงไตรมาส 2/66 ไปแล้ว อีกทั้ง มีแนวโน้มจะฟื้นตัวขึ้นมาอยู่ในระดับที่มีเสถียรภาพมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง จากการควบคุมอุปทานของประเทศผู้ผลิตในกลุ่ม OPEC+

ขณะเดียวกัน PTTEP เป็นหุ้นพลังงานที่ได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนของนโยบายแทรกแซงพลังงาน และนโยบายภาษี Corporate Tax จำกัด เพราะกระจายการลงทุนไปยังต่างประเทศ, สัญญาราคาขายก๊าซอยู่ระดับต่ำ, อ้างอิงหลักเกณฑ์ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม จากเหตุผล ข้างต้น จึงมองว่านัก ลงทุนสามารถเข้าเก็งกำไรรอบสั้นได้

ด้าน บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ยังคงคำแนะนำซื้อ PTTEP จากผลการดำเนินงานมีแนวโน้มฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีหลัง อีกทั้ง PTTEP เป็นหุ้นที่มีการจ่ายเงินปันผลอย่างต่อเนื่อง เฉลี่ย 5 ปีที่ผ่านมา (ปี 61 - 65) จ่ายเงินปันผลเฉลี่ย 5.9 บาท/หุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทนเงินปันผล (Dividend Yield) มากกว่า 4% โดยคาดว่า Dividend Yield ปี 66 – 67 ของ PTTEP จะอยู่ในระดับสูงราว 5.5% 

ทั้งนี้ มีนักวิเคราะห์ 5 ราย ให้คำแนะนำการลงทุนหุ้น PTTEP ไว้ดังนี้

แม้เช้านี้ ราคาหุ้น PTTEP จะปรับตัวขึ้นสูงสุด 3.48% แต่ราคาหุ้นที่ซื้อขาย ณ ปัจจุบัน ยังเหลืออัพไซด์ให้นักลงทุนได้ลุ้นอีกถึง 15% เมื่อเทียบกับราคาเหมาะสมเฉลี่ยของนักวิเคราะห์ อีกทั้ง โบรกเกอร์ส่วนใหญ่ ยังมีมุมมองคล้ายกัน คือ หุ้น PTTEP ได้รับแรงกดดันมากพอสมควรแล้วในช่วงก่อนหน้านี้ จึงทำให้การลงทุนเริ่มกลับมามีความน่าสนใจมากขึ้น