อัพเดทบทวิเคราะห์ทั้งตลาด หลัง SET เดือน ก.ย.ดิ่งแรง พบ 127 หุ้น มีอัพไซด์มากกว่า 10% กลุ่ม mai มีอัพไซด์สูงสุด 95% ส่วนหุ้นใน SET พบกลุ่มพลังงานอัพไซด์สูงสุด 89% ขณะที่มีอีก 4 กลุ่ม อัพไซด์สูงสุดมากกว่า 70% ประกอบด้วย กลุ่มแพคเกจจิ้ง, ท่องเที่ยว, อสังหาฯ, เงินทุน
*** SET ก.ย.ดิ่งแรง ถ่างอัพไซด์ 127 หุ้นเปิดกว้าง !
ดัชนีหุ้นไทย (SET Index) ตั้งแต่ต้นเดือน ก.ย. ปรับตัวลง 68.79 จุด หรือ -4.39% ส่งผลให้ช่วงดังกล่าว มีหุ้นบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ปรับตัวลงทั้งหมดถึง 586 บริษัท
ขณะเดียวกัน "สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" ได้สำรวจบทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) จาก IAA Consensus ที่มีการอัพเดทข้อมูล ตั้งแต่ 15 ส.ค.เป็นต้นมา พบ 127 บริษัท ที่ราคาหุ้นซื้อขาย ณ ปัจจุบัน มีอัพไซด์มากกว่า 10% ประกอบด้วย
ส่องอัพไซด์ 127 หุ้น หลัง SET ก.ย.ดิ่งแรง |
กลุ่มพลังงานฯ |
ชื่อหุ้น | ราคาปิดล่าสุด (บ.) | ช่วงราคาเหมาะสม (บ.)* | ช่วงอัพไซด์ (%)** |
GUNKUL | 3.28 | 5.25 - 6.2 | 60 - 89 |
BCPG | 9.8 | 12.4 - 15.9 | 27 - 62 |
BGRIM | 30 | 42 - 48 | 40 - 60 |
TOP | 49 | 62 - 78 | 27 - 59 |
EGCO | 121.5 | 180 - 192 | 48 - 58 |
OR | 18.7 | 24 - 29.5 | 28 - 58 |
EA | 51.5 | 80 - 80.7 | 55 - 57 |
GPSC | 44.75 | 69.88 - 70 | 56 |
RATCH | 31.5 | 44.17 - 47 | 40 - 49 |
IRPC | 2.06 | 2.7 - 3 | 31 - 46 |
PTG | 9.45 | 10.7 - 13.5 | 13 - 43 |
PTT | 33.75 | 38 - 47.5 | 13 - 41 |
CKP | 3.32 | 4 - 4.64 | 20 - 40 |
GULF | 44 | 58.98 - 60 | 34 - 36 |
BPP | 13.7 | 15.5 - 18 | 13 - 31 |
SPRC | 9.15 | 10 - 12 | 9 - 31 |
BANPU | 7.7 | 8.2 - 10 | 6 - 30 |
WHAUP | 3.86 | 5 | 30 |
BCP | 41 | 42.7 - 52 | 4 - 27 |
BAFS | 27.75 | 35 | 26 |
PTTEP | 168.5 | 182 - 196 | 8 - 16 |
TTW | 9 | 9.2 - 10.4 | 2 - 16 |
กลุ่มแพคเกจจิ้ง |
SFLEX | 3.44 | 5.5 - 6.35 | 60 - 85 |
SCGP | 39.75 | 46 -54 | 16 - 36 |
กลุ่มการท่องเที่ยว |
SHR | 2.68 | 3.8 - 4.8 | 42 - 79 |
AAV | 2.6 | 3.7 - 3.88 | 42 - 49 |
MINT | 31.25 | 40 - 44 | 28 - 41 |
BA | 15.2 | 19.2 - 20 | 26 - 32 |
CENTEL | 47.5 | 51 - 59 | 7 - 24 |
AOT | 69 | 83 - 85 | 20 - 23 |
SPA | 12.8 | 13.4 - 15 | 5 - 17 |
ERW | 5.75 | 6.5 | 13 |
กลุ่มพัฒนาอสังหาฯ |
AWC | 3.92 | 5.4 - 6.9 | 38 - 76 |
ORI | 9.95 | 13 - 13.9 | 31 - 40 |
SIRI | 1.75 | 2 - 2.32 | 14 - 33 |
SPALI | 20.1 | 23 - 26.5 | 14 - 32 |
SC | 3.96 | 5 - 5.1 | 26 - 29 |
AP | 12.1 | 14 - 15.5 | 16 - 28 |
CPN | 64.75 | 78 - 82 | 20 - 27 |
QH | 2.22 | 2.42 - 2.7 | 9 - 22 |
PSH | 12.8 | 15.4 | 20 |
ASW | 8.6 | 8.95 - 10.3 | 4 - 20 |
กลุ่มเงินทุนและหลักทรัพย์ฯ |
KTC | 43.5 | 58 - 75 | 33 - 72 |
CHAYO | 7 | 8 - 11.7 | 14 - 67 |
MTC | 25.75 | 38.5 - 41 | 50 - 59 |
BAM | 10.5 | 14.7 - 16 | 40 - 52 |
SAWAD | 43.25 | 52 - 62 | 20 - 43 |
TIDLOR | 20.7 | 25 - 29 | 21 - 40 |
JMT | 46.5 | 56 - 60 | 20 - 29 |
AEONTS | 161 | 170 - 200 | 6 - 24 |
THANI | 3.02 | 3.5 - 3.6 | 16 - 19 |
กลุ่มวัสดุก่อสร้าง |
TPIPL | 1.45 | 2.2 - 2.44 | 52 - 68 |
TASCO | 16 | 20.6 - 26 | 29 - 63 |
EPG | 6.6 | 7.6 - 10.3 | 15 - 56 |
SCC | 303 | 357 - 410 | 18 - 35 |
SCCC | 133 | 150 - 160 | 13 - 20 |
กลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ |
VGI | 2.56 | 3.7 - 4.27 | 45 - 67 |
PLANB | 8.7 | 10.2 - 11 | 17 - 26 |
BEC | 6.95 | 7.8 - 8.7 | 12 - 25 |
กลุ่มยานยนต์ |
AH | 33.5 | 44 - 54.1 | 31 - 61 |
STANLY | 185.5 | 240 - 243.6 | 29 - 31 |
SAT | 18.5 | 20 - 23.5 | 8 - 27 |
กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ |
NEX | 11.4 | 13.5 - 18 | 18 - 58 |
HANA | 59.5 | 61 - 71.5 | 3 - 20 |
SVI | 7.95 | 8 - 9.5 | 1 - 19 |
กลุ่มเกษตรฯ |
GFPT | 10.3 | 13.5 - 16.2 | 31 - 57 |
NER | 4.58 | 5.3 - 7.1 | 16 - 55 |
STA | 16 | 20.9 | 31 |
กลุ่มขนส่งฯ |
BEM | 8.3 | 10.8 - 12.4 | 30 - 49 |
PRM | 6.95 | 8 - 10 | 15 - 44 |
WICE | 7.5 | 9.35 | 25 |
KEX | 7.3 | 9 | 23 |
BTS | 7.55 | 8.5 - 8.9 | 13 - 18 |
PSL | 9.8 | 10.75 | 10 |
กลุ่มปิโตรเคมี |
IVL | 26.75 | 36 - 40 | 35 - 50 |
PTTGC | 34.5 | 35 - 41 | 1 - 19 |
กลุ่มประกันภัย |
BLA | 27 | 32 - 40 | 19 - 48 |
TLI | 12.9 | 14.5 - 17.5 | 12 - 36 |
TQM | 33.5 | 44 - 45 | 31 - 34 |
กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง |
SEAFCO | 3.1 | 4 - 4.5 | 29 - 45 |
PYLON | 2.76 | 3.08 - 3.72 | 12 - 35 |
STEC | 9.75 | 12 - 12.8 | 23 - 31 |
CK | 21 | 26 - 27 | 24 - 29 |
ITD | 1.38 | 1.76 | 28 |
กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม |
SAPPE | 81.25 | 88 - 117 | 8 - 44 |
TFG | 3.74 | 4.5 - 5.2 | 20 - 39 |
OSP | 26.5 | 29 - 36 | 9 - 36 |
TU | 14.3 | 17.8 - 19 | 24 - 33 |
CPF | 20.6 | 22.3 - 27.2 | 8 - 32 |
ASIAN | 7.2 | 9.5 | 32 |
SNNP | 20.5 | 24 - 26 | 17 - 27 |
RBF | 10.7 | 11.8 - 13.5 | 10 - 26 |
CBG | 82.25 | 95 - 97.5 | 16 - 19 |
ICHI | 16.8 | 18.9 - 19 | 13 |
กลุ่มธนาคารพาณิชย์ |
KKP | 54.5 | 62 - 77.5 | 14 - 42 |
SCB | 102 | 122 - 140 | 20 - 37 |
KBANK | 123 | 133 - 167 | 8 - 36 |
KTB | 18.6 | 21.9 - 25 | 18 - 34 |
BAY | 31.25 | 38 | 22 |
BBL | 162.5 | 181 - 197 | 11 - 21 |
TTB | 1.66 | 1.7 - 1.9 | 2 - 14 |
TISCO | 99 | 105 - 111 | 6 - 12 |
กลุ่มค้าปลีก |
HMPRO | 12.7 | 16 - 18 | 26 - 42 |
CRC | 39.25 | 48 - 52 | 22 - 32 |
CPALL | 61 | 77 - 80 | 26 - 31 |
COM7 | 31 | 35 - 40 | 13 - 29 |
CPAXT | 32.5 | 38 - 40 | 17 - 23 |
กลุ่มการแพทย์ |
BDMS | 27.25 | 33.4 - 37.5 | 23 - 38 |
PR9 | 17.1 | 22 - 22.7 | 29 - 33 |
CHG | 3.3 | 3.8 - 4 | 15 - 21 |
BCH | 19.8 | 22 - 23.5 | 11 - 19 |
BH | 267 | 280 - 300 | 5 - 12 |
กลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศฯ |
TRUE | 7.3 | 8.1 - 10 | 11 - 37 |
ADVANC | 225 | 250 - 269 | 11 - 20 |
กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม |
AMATA | 25.75 | 28 - 30 | 9 - 17 |
WHA | 5.45 | 5.8 - 6 | 6 - 10 |
กลุ่ม mai |
DITTO | 28.25 | 55 | 95 |
FSMART | 9.35 | 16 | 71 |
IP | 10.2 | 16 - 17.2 | 57 - 69 |
WARRIX | 9.05 | 14.25 - 14.5 | 57 - 60 |
TACC | 4.36 | 6.6 - 6.95 | 51 - 59 |
HL | 12 | 18 | 50 |
BBIK | 111 | 140 - 160 | 26 - 44 |
AUCT | 10.1 | 12 - 13.2 | 19 - 31 |
AU | 10 | 11.3 - 12.8 | 13 - 28 |
XO | 29 | 32.3 - 36 | 11 - 24 |
SPA | 12.8 | 13.2 - 15 | 3 - 17 |
*ราคาเหมาะสมจาก IAA Consensus **อัพไซด์เทียบราคาปิด 26 ก.ย.66 หมายเหตุ : เฉพาะหุ้นที่มีบทวิเคราะห์รองรับอัพเดทตั้งแต่ 15 ส.ค.66 |
จากการสำรวจข้อมูลพบว่า 127 บริษัทดังกล่าว ที่มีบทวิเคราะห์รองรับ เป็นหุ้นจาก 21 กลุ่มอุตสาหกรรม โดยเป็นหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) จำนวน 116 บริษัท และเป็นหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) จำนวน 11 บริษัท ซึ่งทั้งหมด มีช่วงอัพไซด์สูงสุดตั้งแต่ 10 - 95%
*** กลุ่มพลังงานฯอัพไซด์สูงสุดถึง 89%
โดยหุ้นในกลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภคมีอัพไซด์สูงสุด ซึ่ง บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) เป็นบริษัทที่ราคาหุ้นซื้อขาย ณ ปัจจุบัน มีอัพไซด์สูงสุดระหว่าง 60 - 89% ขณะที่ ราคาหุ้นตั้งแต่ต้นเดือน (MTD) ปรับตัวลงถึง 11.11% ซึ่งราคาเหมาะสมของ GUNKUL ที่ถูกโบรกเกอร์ประเมินไว้ อยู่ในกรอบ 5.25 - 6.2 บาท/หุ้น
ส่วนหุ้นในกลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค ที่มีอัพไซด์สูงสุดรองจาก GUNKUL อีก 2 อันดับ ประกอบด้วย บมจ.บีซีพีจี (BCPG) ที่มีอัพไซด์ 27 - 62% หลังราคาหุ้น MTD ลดลง 4.41% ขณะที่ ราคาเหมาะสม อยู่ระหว่าง 12.4 - 15.9 บาท/หุ้น
ด้าน บมจ.บี.กริม เพาเวอร์ (BGRIM) มีอัพไซด์ 40 - 60% โดยราคาหุ้น MTD ลดลง 11.76% ขณะที่ ราคาเหมาะสม อยู่ระหว่าง 42 - 48 บาท/หุ้น
*** กลุ่มแพคเกจจิ้ง อัพไซด์สูงรองลงมา 85%
ฟากหุ้นในกลุ่มแพคเกจจิ้ง เป็นกลุ่มที่มีอัพไซด์สูงสุดเป็นอันดับ 2 ประกอบด้วย บมจ.สตาร์เฟล็กซ์ (SFLEX) ที่มีอัพไซด์ 60 - 85% หลังราคาหุ้น MTD ลดลง 12.30% ขณะที่ ราคาเหมาะสม อยู่ระหว่าง 5.5 - 6.35 บาท/หุ้น
รองลงมา คือ บมจ.เอสซีจี แพคเกจจิ้ง (SCGP) ที่มีอัพไซด์ 16 - 36% หลังราคาหุ้น MTD ลดลง 3.65% ขณะที่ ราคาเหมาะสม อยู่ระหว่าง 46 - 54 บาท/หุ้น
*** ฝั่งท่องเที่ยว "SHR" เหลืออัพไซด์สูงสุด 79%
ฟากหุ้นในกลุ่มการท่องเที่ยวและสันทนาการ พบว่า บมจ.เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท (SHR) มีอัพไซด์สูงสุด 42 - 79% หลังราคาหุ้น MTD ลดลง 8.78% ขณะที่ ราคาเหมาะสม อยู่ระหว่าง 3.8 - 4.8 บาท/หุ้น
ส่วนหุ้นในกลุ่มการท่องเที่ยว ที่มีอัพไซด์สูงสุดรองจาก SHR อีก 2 อันดับ ประกอบด้วย บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น (AAV) มีอัพไซด์ 42 - 49% หลังราคาหุ้น MTD ลดลง 9.02% ขณะที่ ราคาเหมาะสม อยู่ระหว่าง 3.7 - 3.88 บาท/หุ้น
ด้าน บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) มีอัพไซด์ 28 - 41% หลังราคาหุ้น MTD ลดลง 6.01% ขณะที่ ราคาเหมาะสม อยู่ระหว่าง 40 - 44 บาท/หุ้น
*** กลุ่มอสังหาฯ "AWC" เหลืออัพไซด์สูงสุด 76%
ขณะที่ หุ้นในกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ พบว่า บมจ.แอสเสท เวิรด์ คอร์ป (AWC) เป็นบริษัทที่มีอัพไซด์สูงสุดระหว่าง 36 - 73% โดยราคาหุ้น MTD ปรับตัวลง 11.92% ขณะที่ ราคาเหมาะสม อยู่ระหว่าง 5.4 - 6.9 บาท/หุ้น
ส่วนหุ้นในกลุ่มพัฒนาอสังหาฯ ที่มีอัพไซด์สูงสุดรองจาก AWC อีก 2 อันดับ ประกอบด้วย บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) ที่มีอัพไซด์ 31 - 40% หลังราคาหุ้น MTD ลดลง 6.13% ขณะที่ ราคาเหมาะสม อยู่ระหว่าง 13 - 13.9 บาท/หุ้น
ด้าน บมจ.แสนสิริ (SIRI) มีอัพไซด์ระหว่าง 14 - 33% โดยราคาหุ้น MTD ปรับตัวลง 14.21% ขณะที่ ราคาเหมาะสม อยู่ระหว่าง 2 - 2.32 บาท/หุ้น
*** กลุ่มเงินทุนฯ "KTC" มีอัพไซด์สูงสุด 72%
ฟาก หุ้นในกลุ่มเงินทุนและหลักทรัพย์ฯ พบว่า บมจ.บัตรกรุงไทย (KTC) เป็นบริษัทที่มีอัพไซด์สูงสุดระหว่าง 33 - 72% โดยราคาหุ้น MTD ปรับตัวลง 9.27% ขณะที่ ราคาเหมาะสม อยู่ระหว่าง 58 - 75 บาท/หุ้น
ส่วนหุ้นในกลุ่มเงินทุนฯ ที่มีอัพไซด์สูงสุดรองจาก KTC อีก 2 อันดับ ประกอบด้วย บมจ.ชโย กรุ๊ป (CHAYO) ที่มีอัพไซด์ 14 - 67% หลังราคาหุ้น MTD ลดลง 12.82% ขณะที่ ราคาเหมาะสม อยู่ระหว่าง 8 - 11.7 บาท/หุ้น
ขณะที่ บมจ.เมืองไทย แคปปิตอล (MTC) มีอัพไซด์ 50 - 59% หลังราคาหุ้น MTD ลดลง 9.81% ขณะที่ ราคาเหมาะสม อยู่ระหว่าง 38.5 - 41 บาท/หุ้น
*** กลุ่มวัสดุฯ "TPIPL" อัพไซด์สูงสุด 68%
ขณะที่ หุ้นในกลุ่มวัสดุก่อสร้าง พบว่า บมจ.ทีพีไอ โพลีน (TPIPL) มีอัพไซด์สูงสุด ระหว่าง 52 - 68% หลังราคาหุ้น MTD ปรับตัวลง 4.6% ขณะที่ ราคาเหมาะสม อยู่ระหว่าง 2.2 - 2.44 บาท/หุ้น
ด้าน หุ้นในกลุ่มวัสดุฯ ที่มีอัพไซด์สูงสุดรองจาก TPIPL อีก 2 อันดับ ประกอบด้วย บมจ.ทิปโก้แอสฟัลท์ (TASCO) มีอัพไซด์ระหว่าง 29 - 63% โดยราคาหุ้น MTD ปรับตัวลง 6.39% ขณะที่ ราคาเหมาะสม อยู่ระหว่าง 20.6 - 26 บาท/หุ้น
ฟาก บมจ.อีสเทิร์นโพลีเมอร์ (EPG) มีอัพไซด์ระหว่าง 15 - 56% โดยราคาหุ้น MTD ปรับตัวลง 7.69% ขณะที่ ราคาเหมาะสม อยู่ระหว่าง 7.6 - 10.3 บาท/หุ้น
*** กลุ่มสื่อฯ "VGI" อัพไซด์สูงสุด 67%
ด้าน หุ้นในกลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ พบว่า บมจ.วีจีไอ (VGI) มีอัพไซด์สูงสุด ระหว่าง 45 - 67% หลังราคาหุ้น MTD ปรับตัวลง 16.89% ขณะที่ ราคาเหมาะสม อยู่ระหว่าง 3.7 - 4.27 บาท/หุ้น
ขณะที่ หุ้นในกลุ่มสื่อฯ ที่มีอัพไซด์สูงสุดรองจาก VGI อีก 2 อันดับ ประกอบด้วย บมจ.แพลน บี มีเดีย (PLANB) มีอัพไซด์ระหว่าง 17 - 26% โดยราคาหุ้น MTD ปรับตัวลง 9.09% ขณะที่ ราคาเหมาะสม อยู่ระหว่าง 10.2 - 11 บาท/หุ้น
ส่วน บมจ.บีอีซี เวิลด์ (BEC) มีอัพไซด์ระหว่าง 12 - 25% โดยราคาหุ้น MTD ปรับตัวลง 21.14% ขณะที่ ราคาเหมาะสม อยู่ระหว่าง 7.8 - 8.7 บาท/หุ้น
*** กลุ่มยานยนต์ "AH" อัพไซด์สูงสุด 61%
ด้าน หุ้นในกลุ่มยานยนต์ พบว่า บมจ.อาปิโก ไฮเทค (AH) มีอัพไซด์สูงสุด ระหว่าง 31 - 61% หลังราคาหุ้น MTD ปรับตัวลง 4.16% ขณะที่ ราคาเหมาะสม อยู่ระหว่าง 44 - 54.1 บาท/หุ้น
ขณะที่ หุ้นในกลุ่มยานยนต์ ที่มีอัพไซด์สูงสุดรองจาก AH อีก 2 อันดับ ประกอบด้วย บมจ.ไทยสแตนเลย์การไฟฟ้า (STANLY) มีอัพไซด์ระหว่าง 29 - 31% โดยราคาหุ้น MTD ปรับตัวลง 2.64% ขณะที่ ราคาเหมาะสม อยู่ระหว่าง 240 - 243.6 บาท/หุ้น
ส่วน บมจ.สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี (SAT) มีอัพไซด์ระหว่าง 8 - 27% โดยราคาหุ้น MTD ปรับตัวลง 4.21% ขณะที่ ราคาเหมาะสม อยู่ระหว่าง 20 - 23.5 บาท/หุ้น
*** กลุ่มชิ้นส่วน "NEX" อัพไซด์สูงสุด 58%
ด้าน หุ้นในกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ พบว่า บมจ.เน็กซ์ พอยท์ (NEX) มีอัพไซด์สูงสุด ระหว่าง 18 - 58% หลังราคาหุ้น MTD ปรับตัวลง 15.94% ขณะที่ ราคาเหมาะสม อยู่ระหว่าง 13.5 - 18 บาท/หุ้น
ขณะที่ หุ้นในกลุ่มชิ้นส่วนฯ ที่มีอัพไซด์สูงสุดรองจาก NEX อีก 2 อันดับ ประกอบด้วย บมจ.ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส (HANA) มีอัพไซด์ระหว่าง 3 - 20% โดยราคาหุ้น MTD ปรับตัวลง 2.81% ขณะที่ ราคาเหมาะสม อยู่ระหว่าง 61 - 71.5 บาท/หุ้น
ส่วน บมจ.เอสวีไอ (SVI) มีอัพไซด์ระหว่าง 1 - 19% แต่ราคาหุ้น MTD ปรับตัวขึ้น 1.25% ขณะที่ ราคาเหมาะสม อยู่ระหว่าง 8 - 9.5 บาท/หุ้น
*** กลุ่มเกษตรฯ "GFPT" อัพไซด์สูงสุด 57%
ด้าน หุ้นในกลุ่มเกษตรฯ พบว่า บมจ.จีเอฟพีที (GFPT) มีอัพไซด์สูงสุด ระหว่าง 31 - 57% หลังราคาหุ้น MTD ปรับตัวลง 2.75% ขณะที่ ราคาเหมาะสม อยู่ระหว่าง 13.5 - 16.2 บาท/หุ้น
ขณะที่ หุ้นในกลุ่มเกษตรฯ ที่มีอัพไซด์สูงสุดรองจาก GFPT อีก 2 อันดับ ประกอบด้วย บมจ.นอร์ทอีส รับเบอร์ (NER) มีอัพไซด์ระหว่าง 16 - 55% โดยราคาหุ้น MTD ปรับตัวลง 4.16% ขณะที่ ราคาเหมาะสม อยู่ระหว่าง 5.3 - 7.1 บาท/หุ้น
ส่วน บมจ.ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี (STA) มีอัพไซด์ 31% โดยราคาหุ้น MTD ปรับตัวขึ้น 8.9% ขณะที่ ราคาเหมาะสม อยู่ที่ 20.9 บาท/หุ้น
*** กลุ่มขนส่งฯ "BEM" อัพไซด์สูงสุด 49%
ด้าน หุ้นในกลุ่มขนส่งและโลจิสติกส์ พบว่า บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) มีอัพไซด์สูงสุด ระหว่าง 30 - 49% หลังราคาหุ้น MTD ปรับตัวลง 4.04% ขณะที่ ราคาเหมาะสม อยู่ระหว่าง 10.8 - 12.4 บาท/หุ้น
ขณะที่ หุ้นในกลุ่มขนส่ง ที่มีอัพไซด์สูงสุดรองจาก BEM อีก 2 อันดับ ประกอบด้วย บมจ.พริมา มารีน (PRM) มีอัพไซด์ระหว่าง 15 - 44% โดยราคาหุ้น MTD ปรับตัวขึ้น 9.44% ขณะที่ ราคาเหมาะสม อยู่ระหว่าง 8 - 10 บาท/หุ้น
ส่วน บมจ.ไวส์ โลจิสติกส์ (WICE) มีอัพไซด์ 25% โดยราคาหุ้น MTD ปรับตัวลง 10.17% ขณะที่ ราคาเหมาะสม อยู่ที่ 9.35 บาท/หุ้น
*** กลุ่มปิโตรฯ "IVL" อัพไซด์สูงสุด 50%
ฟาก หุ้นในกลุ่มปิโตรเคมีภัณฑ์ พบว่า บมจ.อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL) เป็นบริษัทที่มีอัพไซด์สูงสุด 35 - 50% โดยราคาหุ้น MTD ปรับตัวลง 6.89% ขณะที่ ราคาเหมาะสม อยู่ระหว่าง 36 - 40 บาท/หุ้น
รองลงมา คือ บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) ที่มีอัพไซด์ 1 - 19% โดยราคาหุ้น MTD ปรับตัวลง 6.71% ขณะที่ ราคาเหมาะสม อยู่ระหว่าง 35 - 41 บาท/หุ้น
*** กลุ่มประกัน "BLA" อัพไซด์สูงสุด 48%
ด้าน หุ้นในกลุ่มประกันภัย พบว่า บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต (BLA) มีอัพไซด์สูงสุด ระหว่าง 19 - 48% หลังราคาหุ้น MTD ปรับตัวขึ้น 15.30% ขณะที่ ราคาเหมาะสม อยู่ระหว่าง 32 - 40 บาท/หุ้น
ขณะที่ หุ้นในกลุ่มประกัน ที่มีอัพไซด์สูงสุดรองจาก BLA อีก 2 อันดับ ประกอบด้วย บมจ.ทยประกันชีวิต (TLI) มีอัพไซด์ระหว่าง 12 - 36% โดยราคาหุ้น MTD ปรับตัวขึ้น 11.01% ขณะที่ ราคาเหมาะสม อยู่ระหว่าง 14.5 - 17.5 บาท/หุ้น
ส่วน บมจ.ทีคิวเอ็ม อัลฟา (TQM) มีอัพไซด์ระหว่าง 31 - 34% โดยราคาหุ้น MTD ปรับตัวขึ้น 11.47% ขณะที่ ราคาเหมาะสม อยู่ที่ 44 - 45 บาท/หุ้น
*** กลุ่มรับเหมาฯ "SEAFCO" อัพไซด์สูงสุด 45%
ด้าน หุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง พบว่า บมจ.ซีฟโก้ (SEAFCO) มีอัพไซด์สูงสุด ระหว่าง 29 - 45% หลังราคาหุ้น MTD ปรับตัวลง 11.11% ขณะที่ ราคาเหมาะสม อยู่ระหว่าง 4 - 4.5 บาท/หุ้น
ขณะที่ หุ้นในกลุ่มรับเหมาฯ ที่มีอัพไซด์สูงสุดรองจาก SEAFCO อีก 2 อันดับ ประกอบด้วย บมจ.ไพลอน (PYLON) มีอัพไซด์ระหว่าง 12 - 35% โดยราคาหุ้น MTD ปรับตัวลง 14.90% ขณะที่ ราคาเหมาะสม อยู่ระหว่าง 3.08 - 3.72 บาท/หุ้น
ส่วน บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น (STEC) มีอัพไซด์ระหว่าง 23 - 31% โดยราคาหุ้น MTD ปรับตัวลง 17.91% ขณะที่ ราคาเหมาะสม อยู่ระหว่าง 12 - 12.8 บาท/หุ้น
*** กลุ่มอาหาร "SAPPE" อัพไซด์สูงสุด 44%
ด้าน หุ้นในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม พบว่า บมจ.เซ็ปเป้ (SAPPE) มีอัพไซด์สูงสุด ระหว่าง 8 - 44% หลังราคาหุ้น MTD ปรับตัวลง 17.75% ขณะที่ ราคาเหมาะสม อยู่ระหว่าง 88 - 117 บาท/หุ้น
ขณะที่ หุ้นในกลุ่มอาหารฯ ที่มีอัพไซด์สูงสุดรองจาก SAPPE อีก 2 อันดับ ประกอบด้วย บมจ.ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป (TFG) มีอัพไซด์ระหว่าง 20 - 39% โดยราคาหุ้น MTD ปรับตัวลง 5.07% ขณะที่ ราคาเหมาะสม อยู่ระหว่าง 4.5 - 5.2 บาท/หุ้น
ส่วน บมจ.โอสถสภา (OSP) มีอัพไซด์ระหว่าง 9 - 36% โดยราคาหุ้น MTD ปรับตัวลง 14.16% ขณะที่ ราคาเหมาะสม อยู่ระหว่าง 29 - 36 บาท/หุ้น
*** กลุ่มธนาคาร "KKP" อัพไซด์สูงสุด 42%
ด้าน หุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ พบว่า ธนาคารเกียรตินาคินภัทร (KKP) มีอัพไซด์สูงสุด ระหว่าง 14 - 42% หลังราคาหุ้น MTD ปรับตัวลง 6.6% ขณะที่ ราคาเหมาะสม อยู่ระหว่าง 62 - 77.5 บาท/หุ้น
ขณะที่ หุ้นในกลุ่มธนาคารฯ ที่มีอัพไซด์สูงสุดรองจาก KKP อีก 2 อันดับ ประกอบด้วย บมจ.เอสซีบี เอกซ์ (SCB) มีอัพไซด์ระหว่าง 20 - 37% โดยราคาหุ้น MTD ปรับตัวลง 12.28% ขณะที่ ราคาเหมาะสม อยู่ระหว่าง 122 - 140 บาท/หุ้น
ส่วน ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) มีอัพไซด์ระหว่าง 8 - 36% โดยราคาหุ้น MTD ปรับตัวลง 3.83% ขณะที่ ราคาเหมาะสม อยู่ระหว่าง 133 - 167 บาท/หุ้น
*** กลุ่มค้าปลีก "HMPRO" อัพไซด์สูงสุด 42%
ด้าน หุ้นในกลุ่มค้าปลีก พบว่า บมจ.โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ (HMPRO) มีอัพไซด์สูงสุด ระหว่าง 26 - 42% หลังราคาหุ้น MTD ปรับตัวลง 6.56% ขณะที่ ราคาเหมาะสม อยู่ระหว่าง 16 - 18 บาท/หุ้น
ขณะที่ หุ้นในกลุ่มค้าปลีก ที่มีอัพไซด์สูงสุดรองจาก HMPRO อีก 2 อันดับ ประกอบด้วย บมจ.เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น (CRC) มีอัพไซด์ระหว่าง 22 - 32% โดยราคาหุ้น MTD ปรับตัวลง 7.27% ขณะที่ ราคาเหมาะสม อยู่ระหว่าง 48 - 52 บาท/หุ้น
ส่วน บมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) มีอัพไซด์ระหว่าง 26 - 31% โดยราคาหุ้น MTD ปรับตัวลง 6.51% ขณะที่ ราคาเหมาะสม อยู่ระหว่าง 77 - 80 บาท/หุ้น
*** กลุ่มการแพทย์ "BDMS" อัพไซด์สูงสุด 38%
ด้าน หุ้นในกลุ่มการแพทย์ พบว่า บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) มีอัพไซด์สูงสุด ระหว่าง 23 - 38% หลังราคาหุ้น MTD ปรับตัวลง 3.57% ขณะที่ ราคาเหมาะสม อยู่ระหว่าง 33.4 - 37.5 บาท/หุ้น
ขณะที่ หุ้นในกลุ่มการแพทย์ ที่มีอัพไซด์สูงสุดรองจาก BDMS อีก 2 อันดับ ประกอบด้วย บมจ.โรงพยาบาลพระรามเก้า (PR9) มีอัพไซด์ระหว่าง 29 - 33% โดยราคาหุ้น MTD ปรับตัวลง 1.13% ขณะที่ ราคาเหมาะสม อยู่ระหว่าง 22 - 22.7 บาท/หุ้น
ส่วน บมจ.โรงพยาบาลจุฬารัตน์ (CHG) มีอัพไซด์ระหว่าง 15 - 21% โดยราคาหุ้น MTD ปรับตัวขึ้น 3.18% ขณะที่ ราคาเหมาะสม อยู่ระหว่าง 3.8 - 4 บาท/หุ้น
*** กลุ่มเทคโนฯ "TRUE" อัพไซด์สูงสุด 37%
ด้าน หุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร พบว่า บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) มีอัพไซด์สูงสุด ระหว่าง 11 - 37% โดยราคาหุ้น MTD ปรับตัวขึ้น 5.07% ขณะที่ ราคาเหมาะสม อยู่ระหว่าง 8.1 - 10 บาท/หุ้น
รองลงมา คือ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) ที่มีอัพไซด์ระหว่าง 11 - 20% โดยราคาหุ้น MTD ปรับตัวขึ้น 4.62% ขณะที่ ราคาเหมาะสม อยู่ระหว่าง 250 - 269 บาท/หุ้น
*** กลุ่มนิคมฯ "AMATA" อัพไซด์สูงสุด 17%
ด้าน หุ้นในกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม พบว่า บมจ.อมตะ คอร์ปอเรชัน (AMATA) มีอัพไซด์สูงสุด ระหว่าง 9 - 17% โดยราคาหุ้น MTD ปรับตัวขึ้น 0.98% ขณะที่ ราคาเหมาะสม อยู่ระหว่าง 28 - 30 บาท/หุ้น
รองลงมา คือ บมจ.ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) ที่มีอัพไซด์ระหว่าง 6 - 10% โดยราคาหุ้น MTD ปรับตัวขึ้น 4.8% ขณะที่ ราคาเหมาะสม อยู่ระหว่าง 5.8 - 6 บาท/หุ้น
*** กลุ่ม mai พบ "DITTO" อัพไซด์สูงสุด 95%
ส่วนหุ้นในกลุ่ม mai พบว่า บมจ.ดิทโต้ (ประเทศไทย) หรือ DITTO มีอัพไซด์สูงสุด 95% โดยราคาหุ้น MTD ปรับตัวลง 15.03% ขณะที่ ราคาเหมาะสม อยู่ที่ 55 - 95 บาท/หุ้น
ขณะที่ หุ้นในกลุ่ม mai ที่มีอัพไซด์สูงสุดรองจาก DITTO อีก 2 อันดับ ประกอบด้วย บมจ.ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส (FSMART) มีอัพไซด์ 71% โดยราคาหุ้น MTD ปรับตัวลง 13.51% ขณะที่ ราคาเหมาะสม อยู่ระหว่าง 16 บาท/หุ้น
ส่วน บมจ.อินเตอร์ ฟาร์มา (IP) มีอัพไซด์ระหว่าง 57 - 69% โดยราคาหุ้น MTD ปรับตัวลง 2.85% ขณะที่ ราคาเหมาะสม อยู่ระหว่าง 57 - 69 บาท/หุ้น