เช้านี้ TASCO ดีดทำนิวไฮรอบ 8 เดือน หลังต้นทุนน้ำมันลด – สหรัฐฯเริ่มคลายคว่ำบาตรเวเนซุเอลา อาจหนุน TASCO กลับเข้าซื้อน้ำมันดิบราคาถูกอีกครั้ง ขณะที่โบรกฯมองกำไร Q4/65 จ่อฟื้นทั้ง YoY - QoQ หลังตลาดในประเทศเข้าไฮซีซั่น แถมอัพเป้ากำไรปีนี้อีก 17% รับราคายางมะตอยทรงตัวสูง แต่ราคาหุ้น ณ ปัจจุบัน แพงไปหรือยัง ต้องติดตาม !
*** นิวไฮรอบ 8 เดือน รับราคาน้ำมันลด
ราคาหุ้น บมจ.ทิปโก้แอสฟัลท์ (TASCO) ช่วงเช้าวันนี้ (28 พ.ย.65) ดีดขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ราคา 18.30 บาท เพิ่มขึ้น 3.38% จากวันทำการก่อนหน้า ทำระดับราคาหุ้นสูงสุดใหม่ (นิวไฮ) รอบ 8 เดือน ก่อนปิดซื้อขายภาคเช้าด้วยราคา 18 บาท เพิ่มขึ้น 0.3 บาท หรือ 1.69% มีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น 226.29% จาก 5 วันทำการก่อนหน้า
สาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้น TASCO เช้านี้ ปรับตัวขึ้นทำนิวไฮรอบ 8 เดือน สวนทางดัชนีหุ้นไทย (SET Index) ที่ปิดลบ 3.16 จุด หรือ -0.19% เนื่องจากกำลังได้รับ Sentiment เชิงบวก จากทิศทางราคาน้ำมันดิบโลกที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง จากความกังวลจีนใช้มาตรการควบคุมโควิด-19 เป็นศูนย์
*** มีลุ้นซื้อน้ำมันดิบเวเนฯ หนุนกำไร
ขณะเดียวกัน เมื่อวันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศคลายมาตรการคว่ำบาตรบางส่วนให้กับรัฐบาลเวเนซุเอล่า โดยอนุญาตให้ Chevron สามารถนำเข้าน้ำมันจากเวเนซุเอลาเข้าสหรัฐฯได้นานครึ่งปี หลังตัวแทนคาราคัส และตัวแทนการเมืองฝ่ายเวเนซุเอลาร่วมลงนามข้อตกลงการปกป้องทางสังคม เพื่อสร้างกองทุนที่มาจากสหประชาชาติเพื่อมอบความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมให้แก่ประชาชนเวเนซุเอลา
ขณะที่ บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หยวนต้า (ประเทศไทย) ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า จากประเด็นที่สหรัฐฯเริ่มผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรเวเนซุเอล่าบางส่วน ทำให้มีโอกาสที่สหรัฐฯจะยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรเวเนซุเอลาทั้งหมดในระยะถัดไป
ซึ่งหากสหรัฐฯ ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรเวเนซุเอลาจริง จะทำให้ TASCO สามารถกลับไปใช้น้ำมันดิบที่มาจากเวเนซุเอลาในการผลิตได้อีกครั้ง ซึ่งจะทำให้อัตรากำไรขั้นต้น และผลประกอบการของ TASCO ฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากน้ำมันดิบจากเวเนซุเอลามีต้นทุนต่ำกว่าแหล่งอื่น และเหมาะสมกับกรกลั่นเป็นยางมะตอยมากที่สุด
*** งบ Q4/65 โตแกร่ง หลังเข้าไฮซีซั่น
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) มองว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 4/65 ของ TASCO มีแนวโน้มเติบโตแข็งแกร่งกว่าไตรมาสที่ผ่านมา โดยเบื้องต้นประเมินกำไรปกติช่วงดังกล่าวไว้ที่ 400 – 500 ล้านบาท เทียบกับไตรมาสก่อน อยู่ที่ 380 ล้านบาท มีปัจจัยหนุนจากตลาดในประเทศเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นในการก่อสร้าง และซ่อมแซมถนนของปีงบประมาณใหม่
ส่วนตลาดต่างประเทศ จะเข้าสู่ช่วงโลว์ซีซั่น แต่จะได้แรงหนุนจากตลาดเวียดนาม และอินโดนีเซีย ที่มีความต้องการสูงขึ้น ขณะที่ ราคายางมะตอย ยังทรงตัวอยู่ในระดับสูงราว 550 – 560 เหรียญ/ตัน สวนทางกับราคาน้ำมันดิบ (ต้นทุนหลัก) ที่อ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่อง ช่วยหนุนอัตราการทำกำไรสูงขึ้น
นอกจากนี้ TASCO ยังมีซัพพลายน้ำมันดิบเข้ามากลั่นมากขึ้นในช่วงไตรมาส 4/65 จำนวน 3 Cargo ซึ่งจะช่วยทำให้บริษัทฯรองรับยอดขายได้ถึงช่วงไตรมาส 1/66
สอดคล้อกับ บล.พาย ที่ประเมินว่า กำไรสุทธิไตรมาส 4/65 ของ TASCO จะเติบโตขึ้นทั้งเทียบปีก่อน และไตรมาสก่อน โดยการเติบโตจากปีก่อน ได้แรงหนุนจากฐานต่ำเพราะค่าใช้จ่ายการดำเนินงานที่ลดลง ส่วนการเติบโตจากไตรมาสก่อน ได้แรงหนุนจากปริมาณการขายที่ฟื้นตัว หลังตลาดในประเทศ (40% ของยอดขายทั้งหมด) เข้าสู่ช่วงการซ่อมแซมพื้นถนน ตามงบประมาณปี 66 ที่เริ่มเบิกจ่าย
*** กูรูอัพเป้า รับราคายางมะตอยสูงต่อ
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุว่า ได้ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 65 ของ TASCO ขึ้นจากเดิม 17% เป็น 1.7 พันล้านบาท แต่ยังลดลง 23% จากปีก่อน เนื่องจากแหล่งน้ำมันดิบหลักอย่างเวเนซุเอล่ายังถูกแทรกแซง แต่สาเหตุของการปรับประมาณการกำไรสุทธิขึ้น เนื่องจากผลการดำเนินงานไตรมาส 3/65 ดีกว่าคาด
นอกจากนี้ TASCO ยังมีปริมาณน้ำมันดิบเข้ามากลั่นมากขึ้นในช่วงไตรมาส 4/65 ประกอบกับ ราคายางมะตอยยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง แต่ต้นทุนหลักของบริษัทอย่างราคาน้ำมันดิบ ปรับตัวลงต่อเนื่อง
สอดคล้องกับ บล.โนมูระ พัฒนสิน ที่ระบุว่า ได้ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 65 – 66 ของ TASCO ขึ้นเฉลี่ย 33% ต่อปี มีปัจจัยหนุนจากราคายางมะตอย ปรับตัวสูงขึ้นกว่าคาดการณ์เดิม ส่งผลให้กำไรสุทธิปี 65 – 66 ใหม่ จะอยู่ที่ 1.71 พันล้านบาท หดตัว 22% จากปีก่อน และ 1.73 พันล้านบาท ขยายตัว 1% จากปีก่อน ตามลำดับ
ขณะที่ นักวิเคราะห์อีก 2 ราย ประเมินกำไรสุทธิปี 65 - 66 ของ TASCO ไว้ดังนี้
บล. |
กำไรสุทธิปี 65 (ลบ.) |
%chg YoY |
กำไรสุทธิปี 66 (ลบ.) |
%chg YoY |
เอเชีย พลัส |
1,676 |
-24 |
1,789 |
7 |
พาย |
1,692 |
-24 |
1,743 |
3 |
*** หุ้นยังมีอัพไซด์ หากซื้อน้ำมันเวเนฯได้
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า ยังคงราคาเหมาะสมของราคาหุ้น TASCO ไว้ที่ 16.50 บาท/หุ้น อย่างไรก็ตาม ราคาเหมาะสมของ TASCO ยังมีอัพไซด์อีก 7.5 บาท/หุ้น หรือจะถูกกปรับเพิ่มเป็น 24 บาท/หุ้นทันที หาก TASCO สามารถกลับเข้าซื้อน้ำมันดิบจากเวเนซุเอลาได้อีกครั้ง
เช่นเดียวกับ บล.โนมูระ พัฒนสิน ที่มองว่า หาก TASCO สามารถกลับเข้าซื้อน้ำมันดิบราคาถูกจากเวเนซุเอลาได้อีกครั้ง จะเป็นอัพไซด์ต่อกำไรสุทธิของ TASCO อย่างมีนัยสำคัญ และจะช่วยหนุนให้ราคาเหมาะสมขยับขึ้นอยู่แถวบริเวณ 25 บาท/หุ้น (ปัจจุบัน 18.30 บาท/หุ้น)
*** แต่ส่วนใหญ่ยังแนะนำแค่"ถือ"เท่านั้น
จากการสำรวจความคิดเห็นนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ พบว่ายังคงแนะนำเพียงแค่"ถือ" TASCO เท่านั้น แม้จะมองว่า ผลการดำเนินงานในระยะสั้น มีโอกาสฟื้นตัวขึ้นได้ แต่ราคาหุ้น ณ ปัจจุบัน กลับเกินมูลค่าเหมาะสมไปแล้วราว 6% เมื่อเทียบกับราคาเหมาะสมเฉลี่ยของโบรกเกอร์ อีกทั้งระยะยาว ยังมีปัจจัยเสี่ยงด้านวัตถุดิบที่ยังไม่มีความแน่นอนอีกด้วย
บล. |
คำแนะนำ |
ราคาเหมาะสม (บ.) |
โนมูระฯ |
ถือ |
18.30 |
กสิกรฯ |
ถือ |
17.60 |
หยวนต้า |
ซื้อเก็งกำไร |
16.50 |
พาย |
ถือ |
16.00 |
เมย์แบงก์ฯ |
ขาย |
15.70 |
ราคาเฉลี่ย |
16.82 |
ดูเหมือนว่าราคาหุ้น TASCO ที่ปรับตัวขึ้นทำนิวไฮรอบ 8 เดือน เช้านี้ จะมาจากความคาดหวังกลับเข้าซื้อน้ำมันดิบจากเวเนซุเอลาได้อีกครั้ง หลังเห็นสัญญาณที่ดีขึ้นจากรัฐบาลสหรัฐฯค่อยๆคลายมาตรการคว่ำบาตร อย่างไรก็ตาม ปัจจัยดังกล่าวยังมีความไม่แน่นอนว่าจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ ซึ่งหากระยะสั้น – กลาง ยังไม่มีสัญญาณชัดเจนขึ้น ราคาหุ้น ก็อาจจะตอบสนองเชิงลบจากความผิดหวังของตลาดได้เช่นกัน ....