หุ้น CK กลับเข้าเรดาร์นักลงทุนอีกครั้งหลังโบรกฯคาดงบ Q3/65 จ่อพีคสุดปีนี้ รับรายได้งานก่อสร้าง - ส่วนแบ่งกำไรบริษัทร่วมพุ่ง หนุนต้องอัพเป้ากำไร คาดปีนี้โต 2 – 9% แถม Backlog ปีนี้ จ่อทำนิวไฮทะลุ 2 แสนลบ. พอบุ๊ครายได้อีก 7 ปี หลังจ่อเซ็นสัญญาโครงการใหญ่อีก 2 โปรเจ็ค
*** เข้าเรดาร์ รับงบ Q3/65 พีคสุดปีนี้
หุ้น บมจ.ช.การช่าง (CK) กลับเข้าเรดาร์นักลงทุนอีกครั้ง หลังถูกนักวิเคราะห์ในตลาดประเมินว่า การรายงานงบการเงินงวดไตรมาส 3/65 ที่ใกล้จะถึงนี้ กำไรสุทธิงวดดังกล่าวของ CK จะสามารถเติบโตได้อย่างโดดเด่น โดยทำจุดสูงสุด (พีค) ของปีนี้
บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเชีย พลัส ประเมินกำไรสุทธิไตรมาส 3/65 ของ CK ไว้ที่ 607 ล้านบาท เติบโตขึ้น 136% จากปีก่อน มีปัจจัยหนุนจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่มีรายได้เติบโต 57% จากปีก่อน มาอยู่ที่ 3.95 พันล้านบาท หลังรับรู้รายได้โครงการใหม่ที่รับเข้ามาในปีนี้มากขึ้น
โดยเฉพาะโครงการรถไฟทางคู่เด่นชัย – เชียงของ ที่มีการเร่งงานสำรวจพื้นที่และออกแบบ เพื่อให้สามารถเริ่มงานโยธาได้ในปี 66 ขณะที่ ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม ก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเช่นกัน สะท้อนจาก BEM ที่เริ่มได้รับผลบวกเต็มที่จากการคลายล็อกดาวน์ ส่งผลให้จำนวนผู้ใช้รถไฟฟ้า และทางด่วนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ส่วน CKP จะเป็นไตรมาสที่ทำกำไรได้สูงสุดของปี ตามฤดูกาลที่โรงไฟฟ้าไซยะบุรีใน สปป.ลาว สามารถผลิตไฟฟ้าได้มากขึ้น ตามปริมาณน้ำที่ไหลผ่านฝายน้ำล้นในแม่น้ำโขง โดยคาด CK จะได้รับส่วนแบ่งกำไรตามส่วนได้เสียจาก BEM และ CKP รวมกันอยู่ที่ 720 ล้านบาท และยังได้รับเงินปันผลจาก TTW อีก 232 ล้านบาท
*** งบ Q4/65 ยังโต YoY แต่ชะลอ QoQ
บล.ดาโอ (ประเทศไทย) ประเมินว่า กำไรสุทธิไตรมาส 4/65 ของ CK ยังมีแนวโน้มเติบโตขึ้นจากปีก่อนได้ ตามการฟื้นตัวของธุรกิจก่อสร้างและบริษัทร่วม โดยเฉพาะ BEM แต่คาดการณ์ว่า กำไรสุทธิงวดดังกล่าว จะชะลอตัวจากไตรมาสก่อน สาเหตุหลักเป็นเพราะปัจจัยทางฤดูกาลของ CKP ประกบกับ ไม่มีเงินปันผลจาก TTW ที่ปกติจะบันทึกไตรมาส 2 – 3 ของทุกปี
เช่นเดียวกับ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ที่ประเมินว่า กำไรสุทธิไตรมาส 4/65 ของ CK มีแนวโน้มเติบโตจากปีก่อนต่อเนื่อง หลังรายได้ธุรกิจก่อสร้างฟื้นตัวจากฐานต่ำของปีก่อน แต่สาเหตุที่กำไรสุทธิจะชะลอตัวลงจากไตรมาสก่อน เนื่องจากจะไม่มีเงินปันผลรับจาก TTW เข้ามาในไตรมาสดังกล่าว
*** โบรกฯอัพเป้า รับส่วนแบ่งกำไรฟื้น
บล.พาย ระบุว่า ได้ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 65 ของ CK ขึ้นจากเดิมอีก 23% เป็น 926 ล้านบาท เติบโตขึ้น 3% จากปีก่อน หลังส่วนแบ่งกำไรจาก BEM และ CKP มีแนวโน้มสูงกว่าที่เคยคาดไว้เดิม
ขณะที่ นักวิเคราะห์อีก 2 ราย ประเมินกำไรสุทธิปี 65 ของ CK ไว้ดังนี้
บล. | กำไรสุทธิปี 65 (ลบ.) | %chg YoY |
หยวนต้า | 988 | 9 |
ดาโอ | 911 | 2 |
*** Backlog จ่อนิวไฮ ทะลุ 2 แสนลบ.
บล.พาย ระบุว่า งานในมือ (Backlog) ณ สิ้นไตรมาส 2/65 อยู่ที่ 5.9 หมื่นล้านบาท โดยในเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา เพิ่งมีการเซ็นสัญญางานใหม่มูลค่า 3.2 พันล้านบาท ทั้งนี้ ในปี 65 ทาง CK มีโอกาสได้รับงานขนาดใหญ่เพิ่มอีก 2 โครงการ อาทิ งานเขื่อนหลวงพระบาง มูลค่า 7 – 8 หมื่นล้านบาท
อีกทั้งยังมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตะวันตก) ที่ BEM เป็นผู้ชนะการประมูล มีมูลค่างานโยธากว่า 9 หมื่นล้านบาท ซึ่งเราคาดว่า BEM จะให้ CK เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างหลัก ซึ่งจะทำให้ Backlog ของ CK มีโอกาสเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 2 แสนล้านบาท ได้อีกด้วย
เช่นเดียวกับ บล.เอเซีย พลัส ที่มองว่า ปีนี้ มีโอกาสสูงที่ Backlog ของ CK จะทำจุดสูงสุดใหม่ จากปี 55 ที่เคยทำไว้ 1.53 แสนล้านบาท หลังปัจจุบัน CK มี Backlog ราว 5.9 หมื่นล้านบาท และกำลังได้รับงานก่อสร้างและออกแบบ ติดตั้งและจัดหาระบบรถไฟฟ้า โครงการสายสีส้มต่อจาก BEM มูลค่า 1.09 แสนล้านบาท
รวมทั้งโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าหลวงพระบาง ต่อจาก CKP อีกราว 8 หมื่นล้านบาท ซึ่งหากทั้ง 2 โครงการมีการลงนามสัญญาในปีนี้ จะทำให้ Backlog ของ CK มีโอกาสปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 2.5 แสนล้านบาท รองรับการสร้างรายได้ไปอีกอย่างน้อย 7 ปี
*** โบรกฯมองหุ้นยังมีอัพไซด์ไปต่อ
บล.ดาโอ (ประเทศไทย) มองว่า ในระยะสั้น ราคาหุ้น CK ยังมีปัจจัยหนุนรออยู่ จากการลงนามสัญญาโครงการหลวงพระบาง และรถไฟฟ้าสายสีส้ม ที่จะมีความชัดเจนภายในไตรมาส 4/65 หรือ ไตรมาส 1/66 ซึ่งทั้ง 2 โครงการดังกล่าว จะเป็นอัพไซด์ต่อราคาหุ้น CK ราว 6 – 7 บาท/หุ้น
*** ส่วนใหญ่ยังคงแนะนำ"ซื้อ"
จากการสำรวจความคิดเห็นนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังคงแนะนำ"ซื้อ"หุ้น CK เนื่องจากมองว่า ระยะสั้นยังมีปัจจัยหนุนราคาหุ้น อาทิ กำไรสุทธิไตรมาส 3/65 มีแนวโน้มทำจุดสูงสุดของปี และการรับงานโครงการใหญ่ใหม่อีก 2 โครงการ ในช่วงปลายปี 65 – ต้นปี 66 จะช่วยหนุนราคาหุ้นให้ปรับตัวขึ้นได้
บล. | คำแนะนำ | ราคาเหมาะสม (บ.) |
พาย | ซื้อ | 27.60 |
กรุงศรี | ซื้อ | 27.50 |
เอเชีย พลัส | ซื้อ | 27.00 |
หยวนต้า | ซื้อ | 25.70 |
ดาโอ | ซื้อ | 25.00 |
ราคาเฉลี่ย | 26.56 |
หากพิจาณาข้อมูลของโบรกเกอร์ ดูเหมือนว่านักลงทุนระยะสั้น คงถูกใจสิ่งนี้ เพราะมุมมองโบรกเกอร์ส่วนใหญ่ประเมินว่า การเข้าลงทุนหุ้น CK ในช่วงนี้ สามารถเข้าไปเก็งกำไรระยะสั้น จากงบการเงินไตรมาส 3/65 ที่มีแนวโน้มเป็นจุดพีคปีนี้ และการประกาศรับงานใหม่อีก 2 โปรเจ็ค ที่จะเปิดอัพไซด์ให้ราคาหุ้น CK ได้อีกราว 6 – 7 บาท/หุ้น ...