เช้านี้หุ้น CK บวกสูงสุด 4.08% สวน SET ปิดลบ 17 จุด หลัง 2 วันทำการก่อนหน้าดิ่งแรง 12% รับกังวลตั้งรัฐบาลช้า แต่โบรกฯคาดงบ Q2/66 จ่อโตแรง ทำให้เริ่มมีแรงซื้อกลับ จับตาช่วง Q3/66 Backlog อาจทะลุถึง 2.5 แสนล้านบาท พอบุ๊ครายได้อีก 7 ปี มองธุรกิจก่อสร้างกำลัง Turnaround หนุนงบปี 66 ทุบนิวไฮรอบ 4 ปี แถมอัพไซด์ยังเหลือเพียบ !
*** บวกสูงสุด 4.08% หลังดิ่งแรงกังวลตั้งรัฐบาล
ราคาหุ้น บมจ.ช.การช่าง (CK) ช่วงเช้าวันนี้ (17 พ.ค.66) ดีดขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ราคา 20.40 บาท เพิ่มขึ้น 4.08% จากวันทำการก่อนหน้า ก่อนปิดซื้อขายภาคเช้าด้วยราคา 19.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.1 บาท หรือ 0.51% มีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น 139.05% จาก 5 วันทำการก่อนหน้า
โดยราคาหุ้น CK เช้านี้ที่ปรับตัวขึ้นสูงสุด 4.08% สวนทางดัชนีหุ้นไทย (SET Index) ที่ปิดซื้อขายภาคเช้าลบ 17.45 จุด หรือ -1.13% เป็นผลจากราคาหุ้นในช่วง 2 วันทำการก่อนหน้า ปรับตัวลงแรงถึง 12% จากความกังวลตั้งรัฐบาลใหม่ล่าช้า อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานในระยะถัดไป ยังมีแนวโน้มเติบโตโดดเด่น จึงทำให้เริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามาอีกครั้ง
*** โบรกฯคาดงบ Q2-Q3/66 จ่อโตแรงต่อเนื่อง
บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หยวนต้า (ประเทศไทย) ประเมินว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 2-3/66 ของ CK ยังมีแนวโน้มเติบโตโดดเด่นต่อเนื่อง มีปัจจัยหนุนจากการรับรู้รายได้ของโครงการที่เซ็นสัญญาเข้ามาใหม่ ได้แก่โครงการรถไฟทางคู่ และโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงส่วนต่อขยาย
นอกจากนี้ ยังคาดว่า CK จะมีกำไรจากการลงทุนที่เพิ่มขึ้น จากผลการดำเนินงานของ BEM ที่มีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ตามจำนวนนักท่องเที่ยว และปริมาณการเดินทางฟื้นตัว หลังการแพร่ระบาดโควิด-19 คลี่คลาย อีกทั้ง จะมีการกลับมารับเงินปันผลจาก TTW อีกครั้ง
เช่นเดียวกับ บล.กรุงศรี พัฒนสิน ที่ประเมินว่า กำไรสุทธิไตรมาส 2/66 ของ CK มีแนวโน้มเติบโตขึ้นทั้งเทียบปีก่อน และไตรมาสก่อน มีปัจจัยหนุนจากรายได้ธุรกิจก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น หลังปัญหาขาดแคลนแรงงานคลี่คลาย ประกอบกับ มีการรับรู้งานใหม่เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ยังคาดว่าจะรับรู้ส่วนแบ่งกำไรเงินลงทุนจาก CKP เพิ่มขึ้น ตามปัจจัยฤดูกาล หลังเข้าสู่ฤดูฝน หนุนปริมาณน้ำในการผลิตไฟฟ้าของ CKP เพิ่มขึ้น อีกทั้ง คาดว่า จะได้รับเงินปันผลจาก TTW ราว 232 ล้านบาท อีกด้วย
*** Backlog จ่อทะลุ 2.5 แสนลบ. พอบุ๊ครายได้อีก 7 ปี
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า ณ สิ้นไตรมาส 1/66 ทาง CK มีงานในมือ (Backlog) มูลค่า 5.5 หมื่นล้านบาท โดยมีงานที่เตรียมเซ็นสัญญาช่วงไตรมาส 2/66 ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำหลวงพระบาง มูลค่าโรงการ 9.8 หมื่นล้านบาท, งานส่วนเพิ่มของรถไฟฟ้าสายสีม่วง และสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย มูลค่า 1.6 พันล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมีงานถนนไฮเวย์ เส้นทางเชียงใหม่ – เชียงราย มูลค่าโครงการ 800 ล้านบาท ซึ่งหาก CK สามารถเซ็นสัญญางานดังกล่าวได้ จะทำให้ Backlog ณ สิ้นไตรมาส 2/66 ขยับขึ้นมาสูงราว 1.5 แสนล้านบาท
ขณะที่ บล.เอเซีย พลัส ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า หาก BEM มีการลงนามสัญญาร่วมทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก กับรถไฟฟ้ามหานคร (รฟม.) ได้หลังการตัดตั้งรัฐบาลใหม่แล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 3/66 และว่าจ้าง CK ให้ทำงานก่อสร้างและออกแบบ ติดตั้งและจัดหาระบบรถไฟฟ้า มูลค่า 1.09 แสนล้านบาท
จะทำให้ Backlog ของ CK เพิ่มขึ้นทะลุ 2.5 แสนล้านบาท ขยับขึ้นมาเป็นเบอร์หนึ่งในอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย และจำนวน Backlog ดังกล่าว ก็จะเพียงพอให้ CK รับรู้เป็นรายได้ไปอีกอย่างน้อยราว 7 ปี เลยทีเดียว
*** ส่องกำไรปี 66 คาดทุบนิวไฮรอบ 4 ปี
บล.ดาโอ (ประเทศไทย) ประเมินกำไรสุทธิปี 66 ของ CK ไว้ที่ 1.6 พันล้านบาท (ทำระดับกำไรสุทธิสูงสุดใหม่รอบ 4 ปี)เติบโตขึ้น 45% จากปีก่อน มีปัจจัยหนุนจากรายได้ก่อสร้างทำได้ 2.3 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้น 29% จากปีก่อน อย่างไรก็ตาม กำไรสุทธิดังกล่าว ยังมีอัพไซด์ หากโครงการหลวงพระบางสามารถเร่งงานได้เร็วกว่าคาด
ขณะที่ นักวิเคราะห์อีก 2 ราย ประเมินกำไรสุทธิปี 66 ของ CK ดังนี้
บล. |
กำไรสุทธิปี 66 (ลบ.) |
%chg YoY |
เอเชีย พลัส |
1,451 |
31 |
กรุงศรีฯ |
1,440 |
30 |
*** แถมปี 67 มีลุ้นได้ Backlog อีก 6.2 หมื่นลบ.
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) มองว่า ผลการดำเนินงานปี 67 ของ CK ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากปี 66 ท่ามกลางเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว อีกทั้ง ในช่วงดังกล่าว ยังมีความเป็นไปได้ที่ CK จะได้รับ Backlog เพิ่ม คิดเป็นมูลค่า 6.2 หมื่นล้านบาท จากการับงาน 2 โครงการ คือ Double Deck และงาน M&E รถไฟฟ้าสายสีม่วงส่วนต่อขยาย
*** กูรูเลือกเป็น Top pick กลุ่มก่อสร้าง
บล.กรุงศรี พัฒนสิน ระบุว่า เลือก CK เป็นหุ้น Top pick ในกลุ่มก่อสร้าง จากจุดเด่นเฉพาะตัวที่ Backlog มีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จากการรับงานใหม่ที่มีมูลค่าสูง สะท้อนว่า ธุรกิจก่อสร้างกำลังจะ Turnaround ขณะที่ CK มีศักยภาพแข็งแกร่ง และมีโอกาสได้รับงานเพิ่มเติมในอนาคต ตามแนวโน้มการประมูลงานที่จะมีมากขึ้นหลังการเลือกตั้ง
เช่นเดียวกับ บล.เอเซีย พลัส ที่ยังคงแนะนำซื้อ CK เนื่องจากมองว่า พื้นฐานธุรกิจยังมีความมั่นคงอยู่มาก และกำลังอยู่ในช่วงที่ดีที่สุดครับหนึ่งตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา ภายใต้ Backlog ที่เพียงพอรับรู้รายได้อีกถึง 7 ปี โดยมีบริษัทลูก 3 แห่ง คือ BEM, CKP และ TTW ช่วยสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับ CK ส่งผลให้ทิศทางกำไร 3 ปีข้างหน้า ค่อนข้างสดใส
*** โบรกฯส่วนใหญ่ยังคงแนะนำ"ซื้อ"
จากการสำรวจความคิดเห็นนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังคงแนะนำ"ซื้อ" เนื่องจาก CK มีทิศทาง Backlog ที่ดี มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และทำสถิติสูงสุดใหม่ได้อีกด้วย ซึ่งเพียงพอที่จะทำให้บริษัทรับรู้เป็นรายได้อย่างน้อยอีกถึง 7 ปี โดยที่ไม่มีการรับงานใหม่เพิ่มเข้ามา
บล. |
คำแนะนำ |
ราคาเหมาะสม (บ.) |
หยวนต้า |
ซื้อ |
28.00 |
กรุงศรีฯ |
ซื้อ |
27.00 |
เอเชีย พลัส |
ซื้อ |
27.00 |
ดาโอ |
ซื้อ |
26.00 |
ราคาเฉลี่ย |
27.00 |
ราคาหุ้น CK ช่วง 2 วันทำการก่อนหน้าที่ปรับตัวลงราว 12% จากความกังวลตั้งรัฐบาลใหม่ล่าช้า ส่งผลให้ราคาหุ้น CK ที่ซื้อขาย ณ ปัจจุบัน เหลืออัพไซด์ให้นักลงทุนได้ลุ้นสูงถึง 37% เมื่อเทียบกับราคาเหมาะสมเฉลี่ยของโบรกเกอร์ ขณะที่ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ ยังมั่นใจว่าผลการดำเนินงานของ CK ในช่วง 3 – 4 ปี จากนี้ กำลังเข้าสู่ภาวะเติบโตรอบใหม่ ...