efinancethai

หุ้นเด่นวันนี้

16 หุ้น 1 เดือนดิ่งเกิน 10% สวนทางกำไรจ่อโตแกร่ง-อัพไซด์เพียบ

16 หุ้น 1 เดือนดิ่งเกิน 10% สวนทางกำไรจ่อโตแกร่ง-อัพไซด์เพียบ

กูรูแนะจับตาสงครามอิสราเอล - ฮามาสใกล้ชิด ชี้เป็นปัจจัยหลักกระทบตลาดหุ้นช่วงนี้ แนะกลยุทธ์เก็บหุ้นราคาลงลึก แต่แนวโน้มผลการดำเนินงานแกร่ง พบมี 16 บจ.เข้าข่าย ราคาหุ้น 1 เดือนหลังลงลึกสุด 21.97% แต่กำไรปี 66 จ่อโตสูงสุดถึง 1,292.86% ตะลึง ! มีถึง 9 บริษัท ราคาหุ้นล่าสุด มีอัพไซด์มากกว่า 50%

 

*** กูรูชี้สงครามยังกดหุ้นช่วงนี้ แนะเก็บหุ้นลงลึก - งบแกร่ง

บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ดาโอ (ประเทศไทย) ระบุว่า ทิศทางการเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET Index) ช่วงนี้ ยังขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงบนความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล - ฮามาส เป็นหลัก


อย่างไรก็ตาม ตลาดต่างประเทศส่วนใหญ่ยังเชื่อว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะไม่รุนแรง แต่ตลาดไทยมีปัจจัยลบอื่น ๆ เข้ามาสอดแทรก เราจึงแนะนำให้ถือ"เงินสด"ไว้ก่อน หรือควรพร้อมซื้อ/ขาย ตามสถานการณ์รายวัน จุดรับสำคัญของดัชนีฯ ยังเป็น 1,420 จุด เหมือนเดิม


ขณะที่ นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้พอสมควร กลยุทธ์ในการเข้าสะสมหุ้นที่ราคาปรับตัวลงมามากในช่วงก่อนหน้านี้ แต่ผลประกอบการยังมีแนวโน้มเติบโตแข็งแกร่ง ก็เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ลงทุนที่น่าสนใจเช่นกัน เนื่องจากมองว่าหุ้นประเภทดังกล่าว จะเป็นเป้าหมายในการซื้อเมื่อหุ้นวกตัวกลับ 

 

*** พบ 16 บจ.ราคาลงลึกช่วง 1 เดือนหลัง แต่งบยังแกร่ง

ทั้งนี้ "สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" จึงสำรวจข้อมูลราคาหุ้นบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในช่วง 1 เดือนล่าสุด ผ่านโปรแกรม SETSMART พบว่ามี 276 บริษัท ที่ราคาหุ้นช่วงดังกล่าว ปรับตัวลงมากกว่า 10% ขณะเดียวกันในกลุ่มนี้ มี 16 บริษัท มีบทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ จาก IAA Consensus คาดการณ์ว่า กำไรสุทธิปี 66 มีแนวโน้มเติบโตขึ้นมากกว่า 10% ประกอบด้วย
 

16 บจ. ราคาหุ้น 1 เดือนหลังลงลึก แต่แนวโน้มกำไรโตแกร่ง

ชื่อย่อหุ้น

%chg 1 m.

บล.

กำไรปี 66 (ลบ.)

%chg YoY

ราคาเหมาะสม (บ.)

%อัพไซด์*

SHR

-11.72

กรุงศรี

195

1,292.86

3.8

53

พาย

189

1,250.00

4

61

หยวนต้า

106

657.14

3.9

57

GPSC

-16.00

พาย

3,929

340.97

68

69

ฟินันเซียฯ

3,861

333.33

59

47

หยวนต้า

3,631

307.52

64

59

เมย์แบงก์ฯ

2,875

222.67

57.75

43

SISB

-14.58

ดาโอ

673

82.38

40

29

ฟินันเซียฯ

592

60.43

42

35

CHAYO

-13.43

ดาโอ

384

52.99

8

29

กรุงศรี

336

33.86

8.7

40

หยวนต้า

302

20.32

10.8

74

OSP

-15.86

บีวายดี

2,852

47.47

34

42

กรุงศรี

2,807

45.14

35

46

หยวนต้า

2,585

33.66

34

42

ฟินันเซียฯ

2,578

33.30

33

38

EA

-21.31

บีวายดี

10,778

41.74

84

82

เอเชีย พลัส

8,140

7.05

65

41

พาย

8,119

6.77

64

38

SIRI

-11.58

ฟินันเซียฯ

5,984

39.81

2.3

39

กรุงศรี

5,532

29.25

2.2

33

อินโนเวสท์ฯ

4,952

15.70

2.2

33

JMT

-17.84

ลิเบอร์เรเตอร์

2,329

33.39

70

106

บัวหลวง

2,260

29.44

46

35

ฟินันเซียฯ

2,227

27.55

60

76

กรุงศรี

2,135

22.28

56

65

PLANB

-13.9

ดาโอ

909

29.30

11

39

เคจีไอ

904

28.59

10.7

35

กรุงศรี

876

24.61

10.2

29

ทิสโก้

846

20.34

10.7

35

BJC

-11.28

พาย

6,020

20.16

45

58

กรุงศรี

5,736

14.49

44

54

อินโนเวสท์ฯ

5,541

10.60

42

47

ZEN

-15.5

อินโนเวสท์ฯ

185

20.13

17

63

เคจีไอ

185

20.13

17

63

ฟินันเซียฯ

172

11.69

15.5

49

CPAXT

-15.38

ดาโอ

9,110

18.36

40

34

ฟินันเซียฯ

8,835

14.78

38

28

หยวนต้า

8,827

14.68

40

34

กรุงศรี

8,629

12.11

38

28

SCB

-10.34

เมย์แบงก์ฯ

43,357

15.48

135

30

พาย

42,735

13.82

138

33

เอเชีย พลัส

41,976

11.80

132

28

กรุงศรี

41,334

10.09

125

21

MEB

-15.33

กรุงศรี

381

15.45

37

19

บัวหลวง

381

15.45

37

19

หยวนต้า

369

11.82

45.5

47

BGRIM

-21.97

แลนด์แอนด์เฮ้าส์

2,570

พลิกกำไร

45

82

กรุงศรี

2,365

พลิกกำไร

48

94

เคจีไอ

2,275

พลิกกำไร

42

70

หยวนต้า

1,674

พลิกกำไร

46

86

AAV

-20.28

บีวายดี

1,284

พลิกกำไร

3.7

70

หยวนต้า

1,147

พลิกกำไร

3.5

61

กรุงศรี

1,076

พลิกกำไร

3.64

67

พาย

602

พลิกกำไร

3.8

74

*อัพไซด์เทียบราคาปิด 16 ต.ค.66


16 บริษัทดังกล่าว ส่วนใหญ่เป็นหุ้นในดัชนี SET100 จำนวน 12 บริษัท โดยหุ้นในกลุ่มธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค และอาหารและเครื่องดื่ม ติดโผสูงสุด จำนวน 3 บริษัท เท่ากัน รองลงมา คือ กลุ่มธุรกิจเงินทุนและหลักทรัพย์ และพาณิชย์ จำนวน 2 บริษัท เท่ากัน 

 

*** มี 2 บจ.กำไรปี 66 จ่อโตเกิน 100% แต่หุ้นดิ่ง 11 - 16% 

2 จาก 16 บริษัทในกลุ่มนี้ กำไรปี 66 มีแนวโน้มเติบโตขึ้นมากกว่า 100% จากปีก่อน โดย บมจ.เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท (SHR) ถูกนักวิเคราะห์ คาดการณ์ว่า กำไรสุทธิปี 66 มีแนวโน้มเติบโตมากที่สุดถึง 657.14 - 1,292.86% จากปีก่อน หลังถูกประเมินกำไรสุทธิไว้ที่ 106 - 195 ล้านบาท สวนทางราคาหุ้น 1 เดือนหลังที่ปรับตัวลง 11.72%


ปัจจัยหนุนการเติบโตของ SHR ส่วนหนึ่งเป็นเพราะฐานกำไรปีก่อนอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากยังคงได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ขณะที่ปีนี้ เริ่มเห็นสัญญณฟื้นตัวมากขึ้น สะท้อนจากราคาเฉลี่ยห้องพัก (Rev Par) เดือน ก.ค. - ส.ค.66 เฉลี่ยอยู่ที่ 4 พันบาท/ห้อง เพิ่มขึ้น 19% จากปีก่อน และเพิ่มขึ้น 10% จากไตรมาสก่อน ขณะที่ไตรมาส 4/66 ก็จะเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ อีกด้วย 


รองลงมา คือ บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) ที่ถูกคาดการร์กำไรปี 66 ไว้ที่ 2.8 - 3.9 พันล้านบาท เติบโตขึ้น 222.67 - 340.97% จากปีก่อน ส่วนหนึ่งเพราะฐานกำไรปีก่อนอยู่ในระดับต่ำกว่าปกติเช่นกัน และแม้ผลการดำเนินงานปี 66 จะได้รับผลกระทบจากมาตรการลดค่าไฟฟ้าบ้างก็ตาม 


แต่ก็คาดว่าช่วงครึ่งหลังของปี 66 ทาง GPSC จะได้แรงหนุนจากการปรับตัวลงของต้นทุนเชื้อเพลิง, การเข้าสู่ไฮซีซั่นของการผลิตไฟฟ้าจากเขื่อนในประเทศลาว, การรับรู้กำลังการผลิตใหม่โครงการ Avaada และโรงไฟฟ้า Glow Phase 5 กลับมาเดินเครื่องตามปกติ อีกครั้ง ช่วยขับเคลื่อนผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังเด่นกว่าครึ่งปีแรก 

 

*** อีก 2 บจ.กำไรปี 66 จ่อโตมากกว่า 50% แต่หุ้นดิ่ง 13 - 14%

นอกจากนี้ ยังมีอีก 2 บริษัท ที่ถูกนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า กำไรสุทธิปี 66 มีแนวโน้มเติบโตขึ้นมากกว่า 50% แต่ราคาหุ้นช่วง 1 เดือนหลัง ปรับตัวลง 13 - 14% คือ บมจ.เอสไอเอสบี (SISB) ที่ถูกคาดกำไรสุทธิไว้ที่ 592 - 673 ล้านบาท เติบโตขึ้น 60.43 - 82.38% หนุนโดยจำนวนนักเรียนที่เพิ่มขึ้นสูงกว่าคาด สะท้อนจาก SISB เพิ่งปรับเป้าหมายจำนวนนักเรียนปี 66 ขึ้นเป็น 4.1 พันคน (เดิม 3.7 พันคน) นอกจากนี้ SISB ยังสามารถปรับขึ้นค่าเทอมได้อีก 5% ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้แล้ว


ขณะที่ บมจ.ชโย กรุ๊ป (CHAYO) ถูกคาดกำไรสุทธิปี 66 ไว้ที่ 302 - 384 ล้านบาท เติบโตขึ้น 20.32 - 52.99% จากปีก่อน หนุนโดยยอดจัดเก็บเงินสด (Cash Collector) ที่ปรับตัวขึ้นจากปีก่อน ตามการขยายพอร์ตหนี้เสียภายใต้การบริหารที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง ช่วงไตรมาส 4/66 ทาง CHAYO จะปิดการขายที่ดินย่านคู้บอนมูลค่า 100 ล้านบาท ซึ่งจะบันทึกเป็นกำไรในช่วงดังกล่าวอีก 40 - 50 ล้านบาท 

 

*** ตะลึง ! มีถึง 9 บจ. ราคาหุ้นมีอัพไซด์มากกว่า 50%

ทั้งนี้ มีถึง 9 บริษัท ที่ราคาหุ้นที่ซื้อขาย ณ ปัจจุบัน มีอัพไซด์มากกว่า 50% ประกอบด้วย บมจ.เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส (JMT) ราคาหุ้นมีอัพไซด์ 35 - 106% หลังราคาหุ้น 1 เดือนล่าสุด ปรับตัวลง 17.84%, บมจ.บี.กริม เพาเวอร์ (BGRIM) ราคาหุ้นมีอัพไซด์ 70 - 94% หลังราคาหุ้น 1 เดือนล่าสุด ปรับตัวลง 21.97%


ด้าน บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) ราคาหุ้นมีอัพไซด์ 38 - 82% หลังราคาหุ้น 1 เดือนล่าสุด ปรับตัวลง 21.31%, บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น (AAV) ราคาหุ้นมีอัพไซด์ 61 - 74% หลังราคาหุ้น 1 เดือนล่าสุด ปรับตัวลง 20.28%, บมจ.ชโย กรุ๊ป (CHAYO) ราคาหุ้นมีอัพไซด์ 29 - 74% หลังราคาหุ้น 1 เดือนล่าสุด ปรับตัวลง 13.43%


ส่วน บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) ราคาหุ้นมีอัพไซด์ 43 - 69% หลังราคาหุ้น 1 เดือนล่าสุด ปรับตัวลง 16.00%, บมจ.เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป (ZEN) ราคาหุ้นมีอัพไซด์ 49 - 63% หลังราคาหุ้น 1 เดือนล่าสุด ปรับตัวลง 15.50%, บมจ.เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท (SHR) ราคาหุ้นมีอัพไซด์ 53 - 61% หลังราคาหุ้น 1 เดือนล่าสุด ปรับตัวลง 11.72% และ บมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC) ราคาหุ้นมีอัพไซด์ 47 - 58% หลังราคาหุ้น 1 เดือนล่าสุด ปรับตัวลง 11.28%







ข่าวหุ้นอื่นๆที่น่าสนใจ

RECOMMENDED NEWS

ข่าวหุ้นยอดนิยม

Refresh




LATEST NEWS

ข่าวหุ้นล่าสุด

Refresh

ดูข่าวทั้งหมด