เช้านี้ CRC บวกสูงสุด 8.21% ด้วยปริมาณการซื้อขายหนาแน่น รับภาพการเมืองเริ่มชัด ด้านโบรกฯคาดงบ Q2/66 จ่อโตแกร่ง ชี้ผลงานดีสุดปีนี้อยู่ H2/66 หลังมีลุ้นเวียดนามฟื้น – ธุรกิจเข้าไฮซีซั่นปลายปี ดันกำไรปี 66 โตแรง 20 – 29% แถมมองกำไรยังมีอัพไซด์ หาก EBITDA ทำได้ดีกว่าคาด ชี้หุ้นรับอานิสงส์ท่องเที่ยวฟื้นมากสุดในกลุ่ม – อัพไซด์เหลืออีกบาน !
*** บวกสูงสุด 8.21% รับการเมืองเริ่มชัด
ราคาหุ้น บมจ.เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น (CRC) ช่วงเช้าวันนี้ (30 มิ.ย.66) ดีดขึ้นทำจุดสูงสุดที่ราคา 39.50 บาท เพิ่มขึ้น 8.21% จากวันทำการก่อนหน้า ก่อนปิดซื้อขายภาคเช้าด้วยราคา 39.25 บาท เพิ่มขึ้น 7.53% จากวันทำการก่อนหน้า มีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น 123.28% จาก 5 วันทำการก่อนหน้า
นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กรุงศรี พัฒนสิน ระบุสาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้น CRC เช้านี้ ปรับตัวขึ้นสูงสุด 8.21% เนื่องจากกำลังได้รับ Sentiment เชิงบวก หลังภาพการเมืองในประเทศชัดเจนขึ้น และมองแรงกดดันจากนโยบายพรรคก้าวไกลที่จะปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็นปัจจัยลบระยะสั้น แต่ก็จะมีนโยบายชดเชยหรือลดค่าใช้จ่าย เช่นการปรับลดค่าไฟ
*** เวียดนามทรุด แต่งบ Q2/66 ยังโต YoY
บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ ประเมินว่ากำไรปกติไตรมาส 2/66 ของ CRC ยังมีแนวโน้มเติบโตขึ้นจากปีก่อน (YoY) แม้ว่ายอดขายในประเทศเวียดนาม (24% ของยอดขายทั้งหมด) จะลดลงก็ตาม แต่ยังมีปัจจัยชดเชยจากอัตราการเติบโตยอดขายสาขาเดิม (SSSG) รวม ตั้งแต่ต้นไตรมาส (QTD) เติบโตราว 5%
แรงหนุนสำคัญเกิดจากการเติบโตของยอดขายในประเทศไทย และอิตาลี รวมถึงรายได้จากการให้บริการเช่าพื้นที่เพิ่มขึ้น หนุนให้มาร์จิ้นปรับตัวขึ้นตามไปด้วย
สอดคล้องกับ บล.กรุงศรี ที่ประเมินกำไรปกติไตรมาส 2/66 ของ CRC ไว้ในกรอบ 1.8 – 2 พันล้านบาท ซึ่งเป็นระดับที่ยังเติบโตจากปีก่อน หนุนโดยภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัว โดยเฉพาะในประเทศไทย และอิตาลี ทำให้ SSSG ตั้งแต่ต้นไตรมาส เติบโตราว 5%
อีกทั้งยอดขายสาขาเดิมสินค้ากลุ่มแฟชั่น (ปกติมาร์จิ้นสูงสุดในกลุ่มธุรกิจของ CRC) มีอัตราการเติบโตในระดับสูงราว 16 – 19% ซึ่งเป็นระดับที่มากกว่าค่าเฉลี่ยของบริษัท จะยิ่งช่วยหนุนอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) เติบโตได้ดีว่าคาด เบื้องต้นเราคาดว่าจะเติบโตจากปีก่อนราว 50 bps
*** โบรกฯคาดช่วงที่ดีสุด รออยู่ H2/66
บล.เอเซีย พลัส ประเมินว่า ผลการดำเนินงานช่วงครึ่งหลังปี 66 (H2/66) ของ CRC มีแนวโน้มเติบโตโดดเด่นกว่าช่วงครึ่งปีแรก (H1/66) มีปัจจัยหนุนจากเติบโตที่ดีขึ้นในทุก ๆ ตลาด โดยเฉพาะตลาดเวียดนามที่คาดจะทยอยฟื้นตัวได้ อีกทั้ง ในช่วงไตรมาส 4/66 จะได้รับแรงหนุนตามปัจจัยฤดูกาล ซึ่งเป็นช่วงที่ผู้บริโภคมีการจับจ่ายที่สูงกว่าช่วงอื่น ๆ
ด้าน บล.กรุงศรี ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในช่วงครึ่งปีหลัง คาดจะเห็น CRC ขยายสาขาเพิ่มขึ้น นำโดยในประเทศไทย ที่คาดว่าจะเปิดไทวัสดุเพิ่มอีก 8 แห่ง, โรบินสัน 2 แห่ง และท็อปส์ 8 – 10 แห่ง เทียบกับช่วงครึ่งปีแรก ที่เปิดไทวัสดุเพิ่ม 6 แห่ง และท็อปส์ราว 5 แห่ง เท่านั้น
ในขณะที่ ตลาดเวียดนาม คาดว่า CRC จะเปิดสาขามินิโก (supermarket) อีกราว 5 แห่ง เทียบกับช่วงครึ่งปีแรกที่เปิดเพิ่ม 2 แห่ง เท่านั้น โดยคาดว่า การขยายสาขาที่มากกว่าช่วงครึ่งปีแรก จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญช่วยขับเคลื่อนผลการดำเนินงานของ CRC ให้โดดเด่นมากขึ้น
ทั้งนี้ นักมีนักวิเคราะห์ 2 ราย ประเมินกำไรสุทธิปี 66 ของ CRC ไว้ดังนี้
บล. | กำไรสุทธิปี 66 (ลบ.) | %chg YoY |
เอเชีย พลัส | 9,291 | 29 |
หยวนต้า | 8,638 | 20 |
*** กูรูชี้รับประโยชน์ท่องเที่ยวฟื้นกว่ากลุ่ม
บล.กรุงศรี ระบุว่า ยังคงแนะนำซื้อ CRC ที่ราคาเหมาะสม 50 บาท/หุ้น เนื่องจากมองว่า CRC จะเป็นหุ้นในกลุ่มค้าปลีกที่ได้รับประโยชน์มากที่สุด จากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว โดยข้อมูลล่าสุด CRC มียอดขายจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศคิดเป็น 8% จากยอดขายทั้งหมดแล้ว เทียบกับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 มีสัดส่วนยอดขายดังกล่าว 5% เท่านั้น
นอกจากนี้ กำไรสุทธิปี 66 ของ CRC ยังมีแนวโน้มจะเกิดอัพไซด์ได้อีกด้วย หาก EBITDA ปี 66 เติบโตได้ดีกว่าที่เราคาดไว้ 13% โดยทุก ๆ 1% ที่ดีกว่าคาดการณ์เดิม จะเป็นอัพไซด์ต่อประมาณการกำไรสุทธิปี 66 ที่เราคาดไว้ 8.6 พันล้านบาท 3%
ทั้งนี้ มีนักวิเคราะห์ 5 ราย ให้คำแนะนำการลงทุน CRC ไว้ดังนี้
บล. | คำแนะนำ | ราคาเหมาะสม (บ.) |
เอเชีย พลัส | ซื้อ | 55.00 |
อินโนเวสท์ฯ | ซื้อ | 52.00 |
กรุงศรี | ซื้อ | 50.00 |
ดาโอ | ซื้อ | 50.00 |
หยวนต้า | ซื้อเก็งกำไร | 49.80 |
ราคาเฉลี่ย | 51.36 |
แม้เช้านี้ ราคาหุ้น CRC จะปรับตัวขึ้นสูงสุดกว่า 7% แต่ราคาหุ้นที่ซื้อขาย ณ ปัจจุบัน ยังเหลืออัพไซด์ให้นักลงทุนได้ลุ้นถึง 30% เมื่อเทียบกับราคาเหมาะสมเฉลี่ยของนักวิเคราะห์ อีกทั้ง โบรกเกอร์ส่วนใหญ่ มองว่า ราคาหุ้นที่ปรับตัวลงในช่วงก่อนหน้านี้ ได้สะท้อนปัจจัยลบที่กระทบต่อราคาหุ้นไปมากพอสมควรแล้ว พร้อมทั้ง ยังคาดหวังผลการดำเนินงานฟื้นตัวได้ด้วย