เช้านี้ KBANK ดิ่งสวน SET ที่ปิดบวก 9.9 จุด หลังงบ Q3/65 ต่ำกว่าตลาดคาด 4.7% ส่งผลให้โบรกฯต้องหั่นเป้ากำไรปีนี้ลงราว 3% แต่คาดงบ Q4/65 พลิกโตทั้ง YoY – QoQ หลังคาด NIM – ค่าธรรมเนียมฟื้นตามภาวะเศรษฐกิจ หนุนกำไรปี 65 ยังโตได้ 11 – 14% แถมอัพไซด์ยังเปิดกว้าง !
*** ดิ่งสวน SET รับงบ Q3/65 ต่ำคาด
ราคาหุ้น ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) เช้านี้ (25 ต.ค.65) ร่วงไปทำจุดต่ำสุดที่ราคา 141.50 บาท ลดลง 3.08% จากวันทำการก่อนหน้า ก่อนปิดซื้อขายภาคเช้าด้วยราคา 142 บาท ลดลง 4 บาท หรือ -2.74% มีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น 196.35% จาก 5 วันทำการก่อนหน้า
บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเชีย พลัส ระบุสาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้น KBANK เช้านี้ ปรับตัวลงต่ำสุด 3.08% สวนทางดัชนีหุ้นไทย (SET Index) ที่ปิดภาคเช้าบวก 9.9 จุด หรือ 0.62% เนื่องจากกำลังได้รับ Sentiment เชิงลบ จากการประกาศงบการเงินไตรมาส 3/65 ที่มีกำไรสุทธิ 1.06 หมื่นล้านบาท ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ราว 4.7%
ปัจจัยหลักที่ทำให้กำไรสุทธิไตรมาส 3/65 ของ KBANK ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์เป็นเพราะ Non – NII เท่ากับ 8.6 พันล้านบาท หดตัว 6% จากปีก่อน และหดตัว 9% จากไตรมาสก่อน ต่ำกว่าตลาดคาดการณ์ 12% หลังธุรกิจประกันมีรายได้ค่าธรรมเนียมลดลง 5% จากปีก่อน และมีค่าใช้จ่ายการตั้งสำรองฯสูงกว่าที่ตลาดคาดไว้เดิม
*** กูรูหั่นเป้ากำไรรับงบ Q3/65 ต่ำคาด
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า ได้ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 65 ของ KBANK ลงจากเดิม 3.3% เหลือ 4.3 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้น 14% จากปีก่อน เพื่อให้สอดคล้องกับกำไรสุทธิไตรมาส 3/65 ที่ต่ำกว่าตลาดคาดการณ์ โดยมองว่า ผลการดำเนินงานในระยะสั้นของ KBANK จะยังถูกกดดันด้วยค่าใช้จ่ายการตั้งสำรองฯที่ลดลงได้ยาก
หลัง KBANK มีการปรับคุณภาพสินทรัพย์โดยรวมให้แข็งแกร่งขึ้นเพื่อรองรับความเสี่ยงในอนาคต ซึ่งจะเริ่มเห็นผลในช่วงปี 66 หลังแรงกดดันในการตั้งสำรองฯมีแนวโน้มลดลงในช่วงดังกล่าว
เช่นเดียวกับ บล.กรุงศรี ที่ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 65 ของ KBANK ลงจากเดิม 3% เหลือ 4.2 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้น 11% จากปีก่อน จากการปรับสมมติฐาน nonNII และ ECL ลง เพื่อให้สอดคล้องกับงบการเงินไตรมาส 3/65 ที่ประกาศออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ก่อนหน้า
ขณะที่นักวิเคราะห์อีก 2 ราย ประเมินกำไรสุทธิปี 65 ของ KBANK ไว้ดังนี้
บล. | กำไรสุทธิปี 65 (ลบ.) | %chg YoY |
บัวหลวง | 42,579 | 12 |
เอเชีย พลัส | 42,479 | 11 |
*** แต่กำไร Q4/65 มีลุ้นโต YoY – QoQ
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ประเมินว่า กำไรสุทธิไตรมาส 4/65 ของ KBANK มีแนวโน้มกลับมาเติบโตทั้งเทียบปีก่อน และไตรมาสก่อนได้อีกครั้ง โดยมองว่าการตั้งสำรองฯยังทรงตัวในระดับสูง เพื่อรองรับการปล่อยสินเชื่อในกลุ่มลูกหนี้ที่มีความเสี่ยงสูงขึ้น แต่กำไรจากการดำเนินงานในช่วงดังกล่าวมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น
ปัจจัยหนุน คือ รายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่มีแนวโน้มเติบโตดีขึ้น ตามพอร์ตสินเชื่อที่จะขยายตัวตามภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวขึ้น รวมทั้งได้รับอานิสงส์จากการปรับขึ้นดอกเบี้ย หนุนให้ส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) มีทิศทางขยายตัวต่อเนื่อง ส่วนรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยคาดฟื้นตัวขึ้นเช่นกัน หลังผลขาดทุนของธุรกิจประดันชีวิตมีแนวโน้มลดลง และรายได้ค่าธรรมเนียมเติบโตตามปริมาณการปล่อยสินเชื่อ
สอดคล้องกับ บล.เอเซีย พลัส ที่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในช่วงไตรมาส 4/65 รายได้ค่าธรรมเนียมของ KBANK จะมีแรงขับเคลื่อนจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวกลับมาสู่ระดับเกือบปกติ รวมทั้งยังเป็นช่วงที่เข้าสู่การใช้จ่าย และต่อเนื่องถึงการซื้อผลิตภัณฑ์ทางการเงินเพื่อลดหย่อนภาษี จะเป็นปัจจัยที่ช่วยกระตุ้นกำไรสุทธิในช่วงสุดท้ายของ KBANK ได้
*** กูรูชอบการคุม NPL เด่นกว่าคู่แข่ง
บล.ดาโอ (ประเทศไทย) ระบุว่า KBANK เป็นธนาคารที่มีศักยภาพลด NPL ได้ดีกว่าคู่แข่ง โดยล่าสุด NPL ของ KBANK อยู่ที่ระดับ 3.07% ลดลงจากไตรมาสก่อนที่อยู่ในระดับ 3.8% โดยมีการ write-off เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 3 หมื่นล้านบาท จากไตรมาสก่อนอยู่ที่ 1.4 หมื่นล้านบาท และขาย NPL ให้ JK AMC อีก 2.5 หมื่นล้านบาท
ขณะที่ บล.เอเซีย พลัส ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า จากการประชุมนักวิเคราะห์รอบล่าสุด ผู้บริหาร KBANK มองว่า NPL Ratio ณ สิ้นปี 65 จะดีกว่าเป้าหมายที่คาดไว้ราว 3.7 – 4% อันเป็นผลมาจากการเก็บกวาด NPL เชิงรุก ทั้งการ write-off และขายหนี้เชิงรุกให้กับ JK AMC ได้ตามแผนแล้วกว่า 5 หมื่นล้านบาท
*** โบรกฯมอง Valuation ยังน่าสนใจ
บล.ดาโอ (ประเทศไทย) ระบุว่า ราคาหุ้น KBANK ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 1% เมื่อเทียบกับ SET Index ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา จากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ขณะที่มูลค่า (Valuation) ยังมีความน่าสนใจ และไม่แพง สะท้อนจากการเทรด PBV ที่ระดับ 0.72 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปี และต่ำกว่าคู่แข่งอย่าง SCB ที่เทรด PBV ที่ระดับ 0.81 เท่า
เช่นเดียวกับ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ที่มองว่า Valuation ของหุ้น KBANK ยังมีความน่าสนใจ สะท้อนจากราคาหุ้น ณ ปัจจุบัน มีอัพไซด์สูงถึง 28.1% เมื่อเทียบกับราคาเหมาะสมของเราที่ 187 บาท/หุ้น จึงยังคงแนะนำ"ซื้อ"
*** ส่วนใหญ่ยังเชียร์"ซื้อ"
จากการสำรวจความคิดเห็นนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังคงแนะนำ"ซื้อ" เนื่องจากมองว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/65 ที่อ่อนแอกว่าตลาดคาด เกิดจากปัจจัยกระทบในช่วงสั้นเท่านั้น ขณะที่ในระยะถัดไป กำไรสุทธิมีแนวโน้มเติบโตชัดขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 4/65 จากเทรนด์ดอกเบี้ยขาขึ้น อีกทั้ง ยังมองว่า Valuation หุ้น ณ ปัจจุบัน ค่อนข้างถูก
บล. | คำแนะนำ | ราคาเหมาะสม (บ.) |
ดาโอ | ซื้อ | 195.00 |
หยวนต้า | ซื้อ | 187.00 |
เอเชีย พลัส | ซื้อ | 180.00 |
กรุงศรี | ซื้อ | 180.00 |
อินโนเวสท์ฯ | ซื้อ | 173.00 |
ราคาเฉลี่ย | 183.00 |
ราคาหุ้น KBANK เช้านี้ ที่ปรับตัวลงต่ำสุดกว่า 3% ตามความกังวลงบไตรมาส 3/65 ต่ำกว่าคาด ส่งผลให้ราคาหุ้น KBANK ที่ซื้อขาย ณ ปัจจุบัน เหลืออัพไซด์ให้นักลงทุนได้ลุ้นอีกราว 28% เมื่อเทียบกับราคาเหมาะสมเฉลี่ยของโบรกเกอร์ อีกทั้ง นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ ยังมีมุมมองเชิงบวกต่อผลการดำเนินงานไตรมาส 4/65 ที่คาดกลับมาเติบโตแกร่งตามภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัวได้ ...