เช้านี้ RATCH บวกสูงสุด 1.9% รับโบรกฯคาดผลการดำเนินงาน Q1/66 จ่อพลิกกำไร หลังจ่อบุ๊ครายได้ NEJV เต็มไตรมาสครั้งแรก ส่วนโรงไฟฟ้า Paiton คาดดีลเสร็จ Q2/66 บุ๊ครายได้เต็มที่ Q3/66 แถมปีนี้ไม่มีค่าที่ปรึกษาทำ M&A สูงเหมือนปีก่อน คาดทั้งปีงบฟื้นแรง 69 – 75% ชี้หุ้นยังอยู่ในโซนน่าสะสม – ปันผลยังแจ่ม !
*** บวกสูงสุด 1.9% รับงบ Q1/66 จ่อพลิกกำไร
ราคาหุ้น บมจ.ราช กรุ๊ป (RATCH) ช่วงเช้าวันนี้ (7 มี.ค.66) ดีดขึ้นทำจุดสูงสุดที่ราคา 40 บาท เพิ่มขึ้น 1.9% จากวันทำการก่อนหน้า ก่อนปิดซื้อขายภาคเช้าด้วยราคา 39.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ 0.64% มีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น 61.97% จาก 5 วันทำการก่อนหน้า
สาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้น RATCH เช้านี้ ปรับตัวขึ้นสูงสุด 1.9% เนื่องจากกำลังได้รับ Sentiment เชิงบวก หลังนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/66 ของ RATCH มีแนวโน้มจะกลับมารายงานกำไรสุทธิได้อีกครั้ง หลังไตรมาสก่อนรายงานขาดทุนสุทธิ 241 ล้านบาท
ปัจจัยที่ทำให้ผลการดำเนินงานไตรมาสก่อนของ RATCH ขาดทุนสุทธิ เป็นเพราะค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) ที่สูงขึ้น จากค่าที่ปรึกษาในการซื้อกิจการ (M&A) สำหรับดีล NEJV และ Paiton ซึ่งเป็นการลงทุนขนาดใหญ่
*** เปิดสาเหตุทำไมงบ Q1/66 ถึงจ่อพลิกกำไรได้
บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หยวนต้า (ประเทศไทย) ประเมินว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/66 ของ RATCH มีแนวโน้มพลิกกลับมารายกำไรสุทธิได้อีกครั้ง โดยมีปัจจัยหนุนที่สำคัญ คือ ในช่วงไตรมาส 1/66 จะไม่มีการปิดซ่อมบำรุงบางส่วนของโรงไฟฟ้าหงสาที่เป็นแหล่งกำไรหลักของบริษัท เหมือนกับช่วงไตรมาสก่อน และปีก่อน
นอกจากนี้ RATCH จะเริ่มรับรู้รายได้จากการเข้าลงทุนใน NEJV แบบเต็มไตรมาสเป็นครั้งแรก (ธุรกรรมเสร็จสิ้นในช่วงไตรมาส 4/65) ประกอบกับ อัตรากำไรขั้นต้น ของโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ SCG เริ่มฟื้นตัว หลังต้นทุนก๊าซธรรมชาติเริ่มปรับตัวลดลง อีกทั้ง ค่าใช้จ่าย SG&Aมีแนวโน้มลดลงจากไตรมาสก่อนที่อยู่ในระดับสูงเพียงครั้งเดียว
สอดคล้องกับ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ที่มองว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/66 ของ RATCH มีแนวโน้มดีขึ้นทั้งเทียบปีก่อน และไตรมาสก่อนอย่างน่าประทับใจ หนุนโดยการเริ่มรับรู้กำไรจาก NEJV เต็มไตรมาสครั้งแรก ประกอบกับ RG กลับมาดำเนินการอีกครั้ง
อีกทั้ง ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทในเครือเพิ่มขึ้น จะช่วยชดเชยผลกระทบช่วงโลว์ซีซั่นของโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำได้บ้าง ประกอบกับ คาดว่ามาร์จิ้นของโครงการ SPPs มีแนวโน้มดีขึ้น หลังมีการปรับขึ้นค่า Ft ในขณะที่ราคาก๊าซธรรมชาติยังทรงตัว
*** แถมโครงการ Paiton จ่อบุ๊ครายได้ต้นปีนี้
บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุว่า RATCH จะเริ่มรับรู้ผลการดำเนินงาน จากโครงการ Paiton กำลังผลิต 736 เมกะวัตต์ เป็นครั้งแรก หลังปิดดีลดังกล่าวเสร็จสิ้นภายในช่วงต้นปี 66 ตามที่ผู้บริหารให้ข้อมูล
โดย บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า การลดสัดส่วนลงทุนในโครงการ Paiton หน่วยที่ 3, 7 และ 8 จะส่งผลให้จำนวนเงินที่ใช้ลดลงตามสัดส่วนการถือหุ้น (ไม่ส่งผลกระทบต่อ IRR) โดยคาดธุรกรรมดังกล่าวจะเสร็จสิ้นในช่วงไตรมาส 2/66 และ RATCH จะเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโครงการดังกล่าวที่มีนัยมากขึ้น ในช่วงไตรมาส 3/66
*** ส่องกำไรปี 66 คาดโตแรง 69 - 75%
บล.ฟินันเซีย ไซรัส ประเมินกำไรสุทธิปี 66 ของ RATCH ไว้ที่ 1.01 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้น 75% จากปีก่อน มีปัจจัยหนุนจากอัตราการใช้กำลังการผลิตที่คาดว่าจะอยู่ในระดับสูงราว 85 – 90% สำหรับ HPC อีกทั้ง กำลังการผลิตจะเพิ่มขึ้นในปีนี้ ตามสัดส่วนการลงทุนที่เพิ่มขึ้นจาก RATCH Cogen expansion และ Ecowin อีก 31 เมกะวัตต์ และ 15 เมกะวัตต์ ตามลำดับ
สอดคล้องกับ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ที่ประเมินกำไรสุทธิปี 66 ของ RATCH ไว้ที่ 9.8 พันล้านบาท เติบโตขึ้น 69% จากปีก่อน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะฐานกำไรปีก่อนอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่ปีนี้ จะไม่มีค่าที่ปรึกษาในการทำ M&A สูงเหมือนปีก่อนแล้ว ประกอบกับ จะมีการรับรู้รายได้จาก NEJV เข้ามาเต็มปี และรับรู้รายได้จาก Paiton หลังธุรกรรมจบลงในช่วงต้นปีนี้
*** โบรกฯชี้ราคาหุ้นอยู่ในโซนน่าสะสม
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า ราคาหุ้น RATCH ที่ซื้อขาย ณ ปัจจุบัน อยู่ในโซนน่าสะสม หลังราคาหุ้นก่อนหน้านี้ปรับตัวลดลงตอบรับผลการดำเนินงานไตรมาส 4/65 อ่อนแอไปมากพอสมควรแล้ว ส่งผลให้ราคาหุ้นปัจจุบัน เทรดอยู่บน P/E ปี 66 เพียง 9 เท่า อีกทั้ง ราคาหุ้นยังมีอัพไซด์ถึง 35% เทียบกับราคาเหมาะสมของเราที่ 53 บาท/หุ้น
นอกจากนี้ ยังคาดว่า RATCH จะจ่ายเงินปันผลงวดผลการดำเนินงานปี 66 ที่อัตรา 2 บาท/หุ้น (เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่จ่ายในระดับ 1.6 บาท/หุ้น) คิดเป็นอัตราผลตอบแทนเงินปันผล (Dividend Yield) ระดับ 5.1% ทำให้ดาวน์ไซด์ของราคาหุ้นเริ่มจำกัด จึงยังคงแนะนำ"ซื้อ"
เช่นเดียวกับ บล.เอเซีย พลัส ที่แนะนำนักลงทุน ค่อย ๆ ทยอยเข้าสะสมหุ้น RATCH เพื่อรับผลการดำเนินงานปี 66 ที่มีแนวโน้มฟื้นตัวโดดเด่น จากการทยอยรับรู้โครงการใหม่ ๆ ในมือ อีกทั้งระยะสั้น ยังมีปัจจัยหนุนราคาหุ้น หลังประกาศจ่ายเงินปันผลงวดผลการดำเนินงานครึ่งหลังปี 65 ที่อัตรา 0.8 บาทหุ้น คิดเป็น Dividend Yield ราว 2.5% ขึ้นเครื่องหมายไม่ได้สิทธิรับเงินปันผล (XD) วันที่ 17 มี.ค.นี้ ส่วนปี66คาดจ่ายเงินปันผล 2 บาท/หุ้น
*** ส่วนใหญ่แนะนำ"ซื้อ"
จากการสำรวจความคอดเห็นนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังคงแนะนำ"ซื้อ" เนื่องจากมองว่าผลการดำเนินงานปี 66 ของ RATCH มีแนวโน้มฟื้นตัวโดดเด่น อีกทั้ง ราคาหุ้น ณ ปัจจุบัน มีดาวน์ไซด์จำกัด และยังอยู่ในโซนที่ค่อนข้างน่าสะสม รับผลการดำเนินงานปีนี้ฟื้นตัวอีกด้วย
บล. | คำแนะนำ | ราคาเหมาะสม (บ.) |
ยูโอบีฯ | ถือ | 55.00 |
หยวนต้า | ซื้อ | 53.00 |
ดีบีเอสฯ | ซื้อ | 51.50 |
เอเชีย พลัส | ซื้อ | 51.00 |
ดาโอ | ซื้อ | 47.00 |
ราคาเฉลี่ย | 51.50 |
หากอ้างอิงข้อมูลของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ จะพบว่าราคาหุ้น RATCH ณ ปัจจุบัน ยังค่อนข้าง Laggard โดยมีอัพไซด์สูงถึง 30% เมื่อเทียบกับราคาเหมาะสมเฉลี่ยของโบรกเกอร์ หลังก่อนหน้านี้ถูกผลการดำเนินงานไตรมาส 4/65 กดดัน แต่ส่วนใหญ่มองว่า ในระยะถัดไป RATCH มีแนวโน้มกลับมา Outperform ได้ จากผลการดำเนินงานปีนี้ ที่จะฟื้นตัวขึ้นเรื่อย ๆ