โบรกฯมองระยะสั้นหุ้นยัง Sideways เหตุปัจจัยลบใน - นอกกดดันหนัก แต่ยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่หนุน แนะสะสมหุ้น P/BV ต่ำ แนวโน้มกำไรโต ถือลงทุนระยะกลาง - ยาว เจาะข้อมูลหุ้น SET100 เรียงตัว พบ 21 บจ.เข้าเงื่อนไขดังกล่าว พบเทรด P/BV ต่ำสุด 0.45 เท่า กำไรจ่อโตสูงสุด 553% แถมอัพไซด์สูงสุด 90%
*** โบรกฯแนะสะสมหุ้น P/BV ต่ำ - กำไรโต
บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า ภาวะตลาดหุ้นไทย (SET Index) ช่วงสั้น ยังมีแนวโน้มแกว่งตัว Sideways จากบรรยากาศการลงทุนที่เป็นลบหลังตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯเดือน ม.ค.67 อยู่ที่ 3.1% (สูงกว่าคาดที่ระดับ 2.9%) ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯรุ่น 10 ปี ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 4.33% สูงสุดในรอบ 3 เดือน
นอกจากนี้ การประกาศผลการดำเนินงานบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ไทย ช่วงไตรมาส 4/66 เริ่มหนาแน่นขึ้น แต่ส่วนใหญ่ทิศทางกำไรยังดูไม่สดใสนัก ส่งผลให้นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มีแนวโน้มปรับประมาณการกำไรปี 67 ลงจากเดิมด้วย
ทั้งนี้กลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้ แนะนำ เข้าสะสมหุ้นเพื่อถึงลงทุนระยะกลาง - ยาว โดยเลือกหุ้นที่มีอัตราส่วนราคาตลาดต่อมูลค่าตามบัญชี (P/BV) อยู่ในระดับต่ำ ประกอบกับ ผลการดำเนินงานปี 67 มีแนวโน้มเติบโต
*** พบ 21 หุ้นใหญ่เทรดต่ำบุ๊ค กำไรจ่อโต
"สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" จึงได้สำรวจข้อมูลราคาหุ้น - งบการเงินบริษัทจดทะเบียนในดัชนี SET100 ผ่านโปรแกรม SETSMART ณ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา พบ 21 บริษัท ราคาหุ้นที่ซื้อ - ขายล่าสุด ต่ำกว่าอัตราส่วน P/BV ประกอบกับ มีอัพไซด์ และกำไรสุทธิปี 67 มีแนวโน้มเติบโตขึ้นจากปีก่อน ประกอบด้วย
ชื่อย่อหุ้น
|
ราคาปิด 13 ก.พ.67 (บ.)
|
BVPS (บ.)
|
P/BV (เท่า)
|
ช่วงราคาเหมาะสม (บ.)
|
%อัพไซด์
|
กำไรปี 67 (ลบ.)
|
%chg YoY
|
BAM
|
8.4
|
13.36
|
0.63
|
8.9 - 16
|
5.95 - 90.48
|
1,779 - 2,073
|
18.68 - 29.40
|
CPF
|
18.2
|
28.62
|
0.64
|
24 - 26.5
|
31.87 - 45.60
|
6,177 - 6,429
|
พลิกกำไร
|
SPRC
|
8.25
|
10.06
|
0.82
|
10 - 12
|
21.21 - 45.45
|
4,277 - 6,972
|
พลิกกำไร
|
AP
|
11
|
12.53
|
0.88
|
13 - 16
|
18.18 - 45.45
|
6,283 - 6,306
|
3.85 - 4.2
|
KTB
|
16
|
27.98
|
0.57
|
20 - 23
|
25 - 43.75
|
37,603 - 43,791
|
2.7 - 19.6
|
BBL
|
142
|
276.67
|
0.51
|
191 - 202
|
34.51 - 42.25
|
43,950 - 45,106
|
5.56 - 8.33
|
PTTGC
|
35.75
|
63.37
|
0.56
|
42 - 50
|
17.48 - 39.86
|
2,170 - 6,524
|
117.22 - 553.05
|
KBANK
|
120.5
|
221.65
|
0.54
|
150 - 162
|
24.48 - 34.44
|
44,510 - 46,390
|
4.96 - 9.4
|
TCAP
|
50.5
|
66.46
|
0.76
|
64 - 67.1
|
26.73 - 32.87
|
7,185
|
10.76
|
RCL
|
25.5
|
56.94
|
0.45
|
33
|
29.41
|
3,430
|
37.97
|
PTT
|
35
|
39.34
|
0.89
|
40 - 45
|
14.29 - 28.57
|
107,568 - 108,943
|
6.44 - 6.55
|
SPALI
|
19.7
|
24.71
|
0.8
|
23.4 - 25.3
|
18.78 - 28.43
|
6,480 - 6,612
|
12.19 - 14.39
|
SCB
|
102
|
138.51
|
0.74
|
115 - 128
|
12.75 - 25.49
|
44,063 - 46,037
|
1.24 - 5.78
|
STGT
|
6.95
|
13.06
|
0.53
|
8.7
|
25.18
|
349
|
37.40
|
RATCH
|
29.75
|
47.87
|
0.62
|
37
|
24.37
|
6,515
|
29.83
|
TU
|
15.7
|
16.94
|
0.93
|
17.5 - 19.4
|
11.46 - 23.57
|
5,511 - 6,330
|
พลิกกำไร
|
TTB
|
1.81
|
2.31
|
0.79
|
1.98 - 2.2
|
9.36 - 21.55
|
19,675 - 20,175
|
6.57 - 9.28
|
BCPG
|
8.25
|
10.46
|
0.79
|
9 - 10
|
9.09 - 21.21
|
3,065 - 3,162
|
174 - 244.77
|
IVL
|
24.7
|
33.77
|
0.73
|
27 - 29
|
9.31 - 17.41
|
9,739 - 12,072
|
221.10 - 228.85
|
KKP
|
49.5
|
70.98
|
0.7
|
52 - 54.75
|
5.05 - 10.61
|
5,508 - 6,522
|
1.19 - 19.82
|
STA
|
16.4
|
33.19
|
0.49
|
17.9
|
9.15
|
1,120
|
พลิกกำไร
|
21 บริษัทดังกล่าว ส่วนใหญ่เป็นหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ จำนวน 7 บริษัท รองลงมา คือ หุ้นในกลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค จำนวน 4 บริษัท
*** "RCL" เทรด P/BV ต่ำสุด 0.45 เท่า
บมจ.อาร์ ซี แอล (RCL) เป็นบริษัทที่ซื้อ - ขาย ด้วยอัตราส่วน P/BV ต่ำสุด ที่ระดับ 0.45 เท่า รองลงมา คือ บมจ.ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี (STA) ที่ซื้อ - ขาย บน P/BV ระดับ 0.49 เท่า
นอกจากนี้ ยังมีอีก 6 บริษัท ที่ล่าสุดซื้อ - ขาย ด้วยอัตราส่วน P/BV ต่ำกว่า 0.6 เท่า ประกอบด้วย ธนาคารกรุงเทพ (BBL) ที่ซื้อ - ขาย บน P/BV ระดับ 0.51 เท่า, บมจ.ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) หรือ STGT ซื้อ - ขาย บน P/BV ระดับ 0.53 เท่า
ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ซื้อ - ขาย บน P/BV ระดับ 0.54 เท่า, บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) ซื้อ - ขาย บน P/BV ระดับ 0.56 เท่า และ ธนาคารกรุงไทย (KTB) ซื้อ - ขาย บน P/BV ระดับ 0.57 เท่า
*** พบ 3 บจ. กำไรปี 67 จ่อโตเกิน 100%
ขณะเดียวกัน มีถึง 3 บริษัท ที่ผลการดำเนินงานปี 67 มีแนวโน้มเติบโตจากปีก่อน มากกว่า 100% ประกอบด้วย บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) ที่ถูกคาดกำไรสุทธิปี 67 ไว้ที่ 2,170 - 6,524 ล้านบาท เติบโตขึ้น 117.22 - 553.05% จากปีก่อน
รองลงมา คือ บมจ.บีซีพีจี (BCPG) ที่ถูกคาดกำไรสุทธิปี 67 ไว้ที่ 3,065 - 3,162 ล้านบาท เติบโตขึ้น 174 - 244.77% จากปีก่อน และ บมจ.อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL) ที่ถูกคาดกำไรสุทธิปี 67 ไว้ที่ 9,739 - 12,072 ล้านบาท เติบโตขึ้น 221.10 - 228.85% จากปีก่อน
*** มีอีก 4 บจ. งบปี 67 จ่อเทิร์นอะราวด์
นอกจากนี้ ยังมีอีก 4 บริษัท ที่ผลการดำเนินงานปี 67 มีแนวโน้มพลิกกลับมารายงานกำไรสุทธิ (เทิร์นอะราวด์) ประกอบด้วยบมจ.สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง (SPRC) ที่ถูกคาดกำไรสุทธิปี 67 ไว้ที่ 4,277 - 6,972 ล้านบาท เทียบกับปี 66 ที่คาดรายงานขาดทุนสุทธิ 910 - 944 ล้านบาท
บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) ที่ถูกคาดกำไรสุทธิปี 67 ไว้ที่ 6,177 - 6,429 ล้านบาท เทียบกับปี 66 ที่คาดรายงานขาดทุนสุทธิ 5,197 - 7,888 ล้านบาท, บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) ถูกคาดกำไรสุทธิปี 67 ไว้ที่ 5,511 - 6,330 ล้านบาท เทียบกับปี 66 ที่คาดรายงานขาดทุนสุทธิ 12,924 - 13,797 ล้านบาท และ บมจ.ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี (STA) ถูกคาดกำไรสุทธิปี 67 ไว้ที่ 1,120 ล้านบาท เทียบกับปี 66 ที่คาดรายงานขาดทุนสุทธิ 67 ล้านบาท
*** "BAM" อัพไซด์เหลือบานถึง 90%
ขณะที่ บมจ.บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ (BAM) เป็นบริษัทที่ราคาหุ้นล่าสุด มีอัพไซด์สูงสุด 5.95 - 90.48% หลังถูกนักวิเคราะห์ประเมินราคาเหมาะสมไว้ที่ 8.9 - 16 บาท/หุ้น
รองลงมา คือ บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) ที่ราคาหุ้น มีอัพไซด์ 31.87 - 45.60% หลังถูกนักวิเคราะห์ประเมินราคาเหมาะสมไว้ที่ 24 - 26.5 บาท/หุ้น
ขณะเดียวกัน มีอีก 4 บริษัท ที่ราคาหุ้นล่าสุด มีอัพไซด์มากกว่า 40% ประกอบด้วย บมจ.สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง (SPRC) ที่ราคาหุ้น มีอัพไซด์ 21.21 - 45.45% หลังถูกนักวิเคราะห์ประเมินราคาเหมาะสมไว้ที่ 10 - 12 บาท/หุ้น
บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) หรือ AP ราคาหุ้น มีอัพไซด์ 18.18 - 45.45% หลังถูกนักวิเคราะห์ประเมินราคาเหมาะสมไว้ที่ 13 - 16 บาท/หุ้น, ธนาคารกรุงไทย (KTB) ราคาหุ้น มีอัพไซด์ 25 - 43.75% หลังถูกนักวิเคราะห์ประเมินราคาเหมาะสมไว้ที่ 20 - 23 บาท/หุ้น
ปิดท้ายด้วย ธนาคารกรุงเทพ (BBL) ราคาหุ้น มีอัพไซด์ 34.51 - 42.25% หลังถูกนักวิเคราะห์ประเมินราคาเหมาะสมไว้ที่ 191 - 202 บาท/หุ้น