เช้านี้หุ้น BAM ดิ่งทำจุดต่ำสุดตั้งแต่เข้าซื้อขายในตลาดหุ้น หลังยังมีหลายปัจจัยลบรุมเร้า แต่โบรกคาดงบ Q2/66 เป็นจุดเริ่มต้นฟื้นตัว ก่อนทำจุดสูงสุดช่วง H2/66 หลังคาดรับอานิสงส์รัฐบาลใหม่ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ดันงบปี 66 ยังโตได้ราว 5 – 6% ชี้หุ้นรับปัจจัยลบมากแล้ว แถมอัพไซด์เหลือบาน !
*** ดิ่งทำจุดต่ำสุด หลายปัจจัยลบรุมเร้า
ราคาหุ้น บมจ.บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ (BAM) ช่วงเช้าวันนี้ (22 พ.ค.66) ร่วงทำจุดต่ำสุดที่ราคา 10.50 บาท ลดลง 5.4% จากวันทำการก่อนหน้า ทำราคาหุ้นต่ำสุดตั้งแต่ข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ก่อนปิดซื้อขายภาคเช้าด้วยราคา 10.90 บาท ลดลง 0.2 บาท หรือ -1.8% มีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น 299.18% จาก 5 วันทำการก่อนหน้า
สาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้น BAM เช้านี้ ปรับตัวลงต่ำสุด 4.5% เนื่องจากกำลังได้รับ Sentiment เชิงลบ หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) และคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ยังมีแนวโน้มขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในรอบถัดไป อีกทั้งผลการดำเนินงานไตรมาส 1/66 ยังประกาศออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ด้วย
*** แต่กูรูคาดงบ Q2/66 จุดเริ่มต้นฟื้นตัว
บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บัวหลวง ประเมินว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/66 ของ BAM เริ่มมีแนวโน้มฟื้นตัวจากไตรมาสก่อนได้ เบื้องต้นคาดกำไรสุทธิไว้ที่ 700 ล้านบาท แม้จะหดตัว 16% จากปีก่อน แต่ฟื้นตัวขึ้น 163% จากไตรมาสก่อน เนื่องจากผ่านช่วงโลว์ซีซั่นของธุรกิจในช่วงต้นปีไปแล้ว
ขณะเดียวกัน ประเมินว่า BAM จะกลับมารายงานกำไรสุทธิ เติบโตขึ้นทั้งเทียบปีก่อน (YoY) และไตรมาสก่อน (QoQ) ได้ในช่วงไตรมาส 3-4/66 มีปัจจัยหนุนจากขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาชำระหนี้สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ขนาดกลางและขนาดใหญ่ และสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ มีแนวโน้มขยายตัวในปลายปีนี้
สอดคล้องกับ บล.ดาโอ (ประเทศไทย) ที่มองว่า ผลการดำเนินงานปีนี้ของ BAM มีแนวโน้มเติบโตเด่นสุดในช่วงครึ่งหลังของปี 66 (H2/66) เนื่องจากคาดว่า BAM จะได้รับปัจจัยหนุนจากการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่าง ๆ ของรัฐบาลชุดใหม่ หลังการเลือกตั้งผ่านพ้น
*** โบรกฯคาดดีลร่วมทุน AMC ชัด H2/66
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า BAM เริ่มเจรจาตั้งบริษัทร่วมทุน (JV) บริหารหนี้ (AMC) กับธนาคารพาณิชย์รายใหม่แล้ว แต่ยังมีมุมมองเป็นกลางต่อประเด็นดังกล่าว เนื่องจากการเจรจาตั้ง JVAMC แม้จะมีความชัดเจน หรือได้ข้อสรุปในช่วงครึ่งหลังของปี 66 แต่การจัดตั้งบริษัท และการโอนพอร์ตหนี้เสีย คาดว่าจะเกิดขึ้นในปี 67
นอกจากนี้ ยังคงต้องติดตามประเด็นโครงสร้างของ JVAMC และปริมาณหนี้ที่สถาบันการเงินจะขายเข้ามาให้กับ JVAMC ว่าจะมีมูลค่ามากน้อยแค่ไหนในช่วงปีแรก ๆ และจะส่งผลบวกต่อผลการดำเนินงานของ BAM อย่างมีนัยสำคัญหรือไม่ ?
*** กูรูแนะขยายพอร์ตหนี้ไม่มีหลักประกัน ช่วยดันงบ
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า ประเด็นที่น่าสนใจของ BAM ณ ปัจจุบัน คือ การขยายธุรกิจบริหารจัดการหนี้ไม่มีหลักประกันส่วนที่เหลือจากการฟ้องร้อง ซึ่ง BAM ระบุว่า พอร์ตลูกหนี้เบื้องต้นมีมูลค่าราว 2.1 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นติดตามเอง 1.4 พันล้านบาท จ้างติดตาม 7.2 พันล้านบาท และตัดขาย 1.3 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ เราประเมินว่า หาก BAM มีการเริ่มต้นธุรกิจดังกล่าว จะช่วยให้ Outlook ของผลการดำเนินงานขยายตัวได้อย่างมีนัยสำคัญ
*** ส่องกำไรปี 66 คาดยังโตได้ราว 5 - 6%
บล.ดาโอ (ประเทศไทย) ประเมินกำไรสุทธิปี 66 ขอ ง BAM ไว้ที่ 2.9 พันล้านบาท เติบโตขึ้น 6% จากปีก่อน มีปัจจัยหนุนจากรายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 3% จากปีก่อน ตามการลงทุนซื้อหนี้เสียเพิ่มขึ้น 9 พันล้านบาท (ปี 65 ซื้อหนี้เสีย 8.1 พันล้านบาท) ขณะที่ ต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้นเป็น 3.5% จากการออกหุ้นกู้ที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงตามอุตสาหกรรม
อีกทั้ง คาดว่า Credit cost ทรงตัวที่ระดับ 5% โดยประเมินว่า เป็นผลจากการตั้งสำรองฯเพิ่มขึ้นเพื่อ offset รายได้ดอกเบี้ยรับที่จะอยู่ในระดับสูงในช่วงครึ่งแรกของปี 66 ที่เราเชื่อว่าการเรียกเก็บจะทรงตัว ก่อนจะดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 66ตามการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลังเลือกตั้ง
ขณะที่ นักวิเคราะห์อีก 2 ราย ประเมินกำไรสุทธิปี 66 ของ BAM ดังนี้
บล. | กำไรสุทธิปี 66 (ลบ.) | %chg YoY |
ทรีนีตี้ | 2,866 | 5 |
บัวหลวง | 2,852 | 5 |
*** โบรกฯชี้หุ้นตอบรับปัจจัยลบไปมากแล้ว
บล.ทรีนีตี้ ระบุว่า แม้ผลการดำเนินงานปีนี้ของ BAM มีแนวโน้มเติบโตในระดับต่ำ แต่มองว่าราคาหุ้น ณ ปัจจุบันได้สะท้อนปัจจัยลบไปมากแล้ว สะท้อนจากราคาหุ้น ณ ปัจจุบัน ซื้อขายบน Forward PBV เพียง 0.9 เท่า ซึ่งยังต่ำกว่าระดับ NAV ที่เราคำนวณไว้ที่ 15 บาท อีกด้วย จึงยังคงแนะนำ"ซื้อ"
สอดคล้องกับ บล.ดาโอ (ประเทศไทย) ที่ยังคงแนะนำซื้อ แม้ราคาหุ้น BAM จะ Underperform SET ราว 17% ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา จากผลการดำเนินงานไตรมาส 1/66 อ่อนแอ แต่ยังมองว่า ผลการดำเนินงานของ BAM จะเร่งตัวขึ้นในช่วงครึ่งหลังปี 66 หลังผ่านการเลือกตั้ง อีกทั้งปัจจุบัน หุ้นยังเทรด P/BV ปี 66 เพียง 0.9 เท่า
นอกจากนี้ นักลงทุนยังสามารถคาดหวังเงินปันผล คิดเป็นอัตราผลตอบแทน (Dividend Yield) ที่สูงราว 5% ได้อีกด้วย
*** ส่วนใหญ่ยังคงแนะนำ"ซื้อ"
จากการสำรวจความคิดเห็นนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังคงแนะนำ"ซื้อ" เนื่องจากมองว่า มูลค่า (Valuation) ของหุ้น BAM ยังมีความน่าสนใจ หลังราคาหุ้นช่วงก่อนหน้านี้ปรับตัวลงแรง สะท้อนปัจจัยลบที่มีผลต่อผลการดำเนินงานไปมากพอสมควรแล้ว อีกทั้ง หุ้นยังมีอัตราการจ่ายเงินระดับสูง อีกด้วย
บล. | คำแนะนำ | ราคาเหมาะสม (บ.) |
หยวนต้า | ซื้อเก็งกำไร | 18.00 |
ทรีนีตี้ | ซื้อ | 17.00 |
ดาโอ | ซื้อ | 16.00 |
อินโนเวสท์ฯ | ถือ | 14.00 |
บัวหลวง | ถือ | 13.00 |
ราคาเฉลี่ย | 15.60 |
ราคาหุ้น BAM ตั้งแต่ต้นปี (YTD) ปรับตัวลงแรงถึง 32% ส่งผลให้ราคาหุ้นที่ซื้อขาย ณ ปัจจุบัน มีอัพไซด์ให้นักลงทุนได้ลุ้นถึง 45% เมื่อเทียบกับราคาเหมาะสมเฉลี่ยของโบรกเกอร์ ขณะที่ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังมีมุมมองคล้ายกัน คือ คาดว่า ผลการดำเนินงานของ BAM จะกลับมาฟื้นตัวได้อย่างมีนัยสำคัญช่วงครึ่งหลังของปี 66