เช้านี้ SVI ดีดทำนิวไฮรอบ 30 ปี รับแผนโตปี 66 เร้าใจ แถมได้อานิสงส์สงครามการค้าสหรัฐฯ – จีน ขณะที่โบรกฯอัพเป้ากำไรปี 65 คาดพลิกโต 17 – 23% หลังเห็นสัญญาณขาขึ้นต่อเนื่อง แถมคาดปันผลแจกยีลด์ 3 % แต่ติงระวังงบ Q4/65 ชะลอตัวเล็กน้อย เหตุหมดไฮซีซั่น ส่อง Valuation หุ้นแพงไปหรือยัง หลัง 2 วันทำการล่าสุดพุ่งแรงกว่า 19% !
*** นิวไฮ 30 ปี รับแผนโตปี 66 เร้าใจ
ราคาหุ้น บมจ.เอสวีไอ (SVI) ช่วงเช้าวันนี้ (2 ธ.ค.65) ดีดขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ราคา 12.40 บาท เพิ่มขึ้น 11.71% จากวันทำการก่อนหน้า ทำสถิติราคาหุ้นสูงสุดใหม่ (นิวไฮ) ในรอบ 30 ปี ก่อนปิดซื้อขายภาคเช้าด้วยราคา 11.6 บาท เพิ่มขึ้น 0.5 บาท หรือ 4.5% มีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น 326.09% จาก 5 วันทำการก่อนหน้า
สาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้น SVI เช้านี้ ยังปรับตัวขึ้นแรงต่อเนื่องจากวันทำการก่อนหน้า เนื่องจากยังคงได้รับ Sentiment เชิงบวก จากแผนการเติบโตของบริษัท ที่คาดว่า จะสามารถสร้างรายได้ปี 66 เพิ่มเป็น 3 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 65 ที่คาดว่าจะทำได้ 2.6 หมื่นล้านบาท ตามการเติบโตของลูกค้าในภาคอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์
ด้าน “เพลินใจ จิระจรัส” ผู้อำนวยการสายงานวิจัยและบริการการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) โนมูระ พัฒนสิน ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ช่วงนี้หุ้นกลุ่มอิล็กทรอนิกส์มีแรงซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จากภาพสงครามการค้าสหรัฐฯและจีนที่มีความเข้มข้นขึ้น หลังสหรัฐฯประกาศเงื่อนไขไม่ให้ขายสินค้าเซมิคอนดักเตอร์สหรัฐฯให้กับจีน
และล่าสุดสหรัฐฯก็ไม่ซื้อสินค้าเซมิคอนดักเตอร์จากจีน ดังนั้น มองว่าประเทศที่อยู่ตรงกลางหรือผู้ผลิต Non China และ สหรัฐฯ มีโอกาสย้ายฐานการผลิตออกมาจากสหรัฐฯและจีน เพราะมีเงื่อนไขคลุมเครือในระยะสั้น ทำให้ผู้ผลิตญี่ปุ่น เกาหลี, และทวีปเอเชีย ได้ประโยชน์จากปัจจัยดังกล่าว
*** กูรูอัพเป้า หลังเห็นสัญญาณเติบโต
บล.เอซีย พลัส ระบุว่า ได้ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 65 ของ SVI ขึ้นจากเดิมอีก 20% เป็น 1.6 พันล้านบาท เติบโตขึ้น 17% จากปีก่อน เพื่อสะท้อนแนวโน้มรายได้รวม และประสิทธิภาพการทำกำไรที่ดีกว่าคาดการณ์เดิมก่อนหน้า
ทั้งนี้ ได้ปรับสมมติฐานรายได้ปีนี้ขึ้นอีก 4% สะท้อนคำสั่งซื้อของลูกค้าที่เติบโตมากกว่าคาด และเพื่อให้สอดคล้องกับรายได้รวมของผลการดำเนินงาน 9 เดือน ที่ทำได้ 1.9 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้น 60% จากปีก่อน นอกจากนี้ ได้ปรับเพิ่ม Gross Margin ขึ้นเป็น 8.7% สะท้อนประสิทธิภาพการทำกำไรที่ดีกว่าคาด จาก Product Mix ที่เพิ่มขึ้น
ขณะเดียวกัน ยังได้ปรับลดสมมติฐานค่าใช้จ่าย (SG&A/Sales) ลงมาอยู่ที่ 3% จากการประหยัดต่อขนาด และให้สอดคล้องกับ SG&A/Sales งวด 9 เดือน ที่อยู่ในระดับต่ำเพียง 2.9% เท่านั้น ประกอบกับ ได้ปรับเพิ่มสมมติฐานกำไรอัตราแลกเปลี่ยนที่เกิดขึ้นจริงในงวด 9 เดือน จำนวน 208 ล้านบาท มาไว้ในประมาณการกำไรสุทธิใหม่ด้วย
เช่นเดียวกับ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ที่ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 65 ของ SVI ขึ้นจากเดิมอีก 24% เป็น 1.7 พันล้านบาท เติบโตขึ้น 23% จากปีก่อน หลังประเมินว่า อุปสงค์ในตลาดยังมีแนวโน้มแข็งแกร่งต่อเนื่องอีกอย่างน้อย 12 – 18 เดือนข้างหน้า
*** แต่งบ Q4/65 จ่อชะลอตัว หลังหมดไฮซีซั่น
บล.บัวหลวง มองว่า ปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วนจะยังคงยืดเยื้อต่อในช่วงไตรมาส 4/65 ขณะที่ อุปสงค์ต่อสินค้าที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ และไม่โครอิเล็กทรอนิกส์ (ป้านราคาดิจิทัล) ยังคงแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม อุปสงค์ต่อสินค้าผู้บริโภคและที่เกี่ยวกับ 5G มีแนวโน้มอ่อนตัวลงในช่วงไตรมาส 4/65 ทำให้ยอดขายมีแนวโน้มอ่อนตัวลงทั้งเทียบปีก่อน และไตรมาสก่อน
ขณะที่ อัตรากำไรขั้นต้นในช่วงไตรมาส 4/65 มีแนวโน้มลดลงมาอยู่ในกรอบ 8 – 8.5% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ระดับ 12.5% (เป็นผลจากการกลับมาเป็นปกติของอัตรากำไรขั้นต้น) ส่งผลให้กำไรสุทธิไตรมาส 4/65 ของ SVI มีแนวโน้มชะลอตัวลงทั้งเทียบปีก่อน และไตรมาสก่อน
เช่นเดียวกับ บล.เอเซีย พลัส ที่ประเมินว่า กำไรสุทธิไตรมาส 4/65 ของ SVI มีแนวโน้มชะลอตัวลงจากไตรมาสก่อน เนื่องจากได้ผ่านช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจในไตรมาส 3/65 ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะที่ ประสิทธิภาพการทำกำไร ก็มีแนวโน้มลดลงจากไตรมาสก่อนด้วยเช่นกัน
*** โบรกฯมองรับรู้ข่าวร้ายหมดแล้ว
“ธันย์ จิระสิทธิกร” นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ บล.กสิกรไทย ระบุว่า ราคาหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ปรับตัวขึ้นได้ดีหลังจากราคาปรับตัวลงไปมากตั้งแต่ต้นปี เพราะกังวลภาวะเศรษฐกิจถดถอย จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจ ซึ่งปัจจุบันตลาดรับรู้ไปมากแล้ว
สำหรับ ราคาหุ้น SVI ในระยะถัดไปจะได้รับปัจจัยหนุน จากการประกาศกำไรสุทธิไตรมาส 3/65 เติบโตเกินคาด ประกอบกับ มีคำสั่งซื้อเข้ามาใหม่อย่างต่อเนื่อง ช่วยสนับสนุน
ส่วน บล.เอเซีย พลัส เสริมว่า มูลค่า (Valuation) หุ้น SVI ณ ปัจจุบัน ยังมีความน่าสนใจ สะท้อนจากการซื้อ – ขาย ที่ PER ปี 66 ระดับ 11 เท่า อีกทั้ง นักลงทุนยังสามารถคาดหวังเงินปันผลงวดปี 65 คิดเป็นอัตราผลตอบแทนเงินปันผล ( ) ที่น่าสนใจ ระดับ 3% จึงยังคงแนะนำ”ซื้อ”
ขณะที่ นักวิเคราะห์อีก 2 ราย ประเมิน Dividend Yield งวดปี 65 ของ SVI ไว้ดังนี้
บล. |
%ยีลด์งวดปี 65 |
บัวหลวง |
3.00 |
เคจีไอ |
3.00 |
*** ส่วนใหญ่ยังคงแนะนำซื้อ
จากการสำรวจความเห็นนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังคงแนะนำซื้อ เนื่องจากมองว่า ความต้องการในตลาดที่ยังอยู่ในระดับสูงอีกอย่างน้อยราว 18 เดือน จะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนผลการดำเนินงานของ SVI ให้เติบโตในระยะถัดไปได้
บล. |
คำแนะนำ |
ราคาเหมาะสม (บ.) |
กสิกรฯ |
ซื้อ |
11.50 |
ดีบีเอสฯ |
ซื้อ |
11.00 |
เอเชีย พลัส |
ซื้อ |
10.50 |
ทิสโก้ |
ซื้อ |
10.20 |
บัวหลวง |
เก็งกำไร |
9.40 |
ราคาเฉลี่ย |
10.52 |
แม้ว่านักวิเคราะห์ส่วนใหญ่จะยังมีมุมมองเชิงบวกต่อผลการดำเนินงานของ SVI แต่ราคาหุ้นในช่วง 2 วันทำการล่าสุดที่ปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรงกว่า 19% ส่งผลให้ราคาหุ้น SVI ที่ซื้อ - ขาย ณ ปัจจุบัน ปรับตัวขึ้นเกินกว่ามูลค่าพื้นฐานราว 9% เมื่อเทียบกับราคาเหมาะสมเฉลี่ยของโบรกเกอร์แล้ว จึงอาจทำให้การเข้าลงทุนหลังจากนี้ คงต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น ...