TLI ธุรกิจเข้าไฮซีซั่น ...จับตา ! งบโค้งท้ายจ่อโตแกร่ง

เช้านี้ TLI บวกสูงสุด 3.4% หลังถูกนำเข้าคำนวณ FTSE รอบเดือน ธ.ค.นี้ คาดหนุนเม็ดเงินลงทุนกองทุนต่างชาติอีกราว 3 พันลบ. ขณะที่กำไร Q4/65 จ่อพลิกโตทั้ง YoY – QoQ หลังธุรกิจเข้าไฮซีซั่น หนุนเบี้ยประกันโต – ดอกเบี้ยขาขึ้นดันกำไรเงินลงทุนพุ่ง มองปี 66 รับอานิสงส์เศรษฐกิจฟื้นเต็มที่ ดันกำไรเดินหน้าโตต่อ 13 – 15%  
 

*** บวกสูงสุด 3.4% หลังเข้า FTSE ธ.ค.นี้
 

ราคาหุ้น บมจ.ไทยประกันชีวิต (TLI) เช้านี้ (21 พ.ย.65) ดีดขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ราคา 15.20 บาท เพิ่มขึ้น 3.4% จากวันทำการก่อนหน้า ก่อนปิดซื้อขายภาคเช้าด้วยราคา 15.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.4 บาท หรือ 2.72% มีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น 127.72% จาก 5 วันทำการก่อนหน้า 

สาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้น TLI เช้านี้ ปรับตัวขึ้นสูงสุด 3.4% เนื่องจากกำลังได้รับ Sentiment เชิงบวก จากการถูกนำเข้าคำนวณในดัชนี FTSE กลุ่ม Mid Cap โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค.นี้

ขณะที่ โบรกเกอร์ในตลาดให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า การเข้าคำนวณดัชนี FTSE ในกลุ่ม Mid Cap ของ TLI รอบนี้ มีโอกาสที่จะดึงเม็ดเงินกองทุนต่างชาติเข้าลงทุนในหุ้นดังกล่าวราว 80.6 ล้านเหรียญฯ (ประมาณ 3.9 พันล้านบาท) ได้อีกด้วย 
 

*** ธุรกิจเข้าไฮซีซั่น ดันกำไร Q4/65 แกร่ง 
 

บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟินันเซีย ไซรัส ประเมินว่า กำไรสุทธิไตรมาส 4/65 ของ TLI มีแนวโน้มกลับมาเติบโตขึ้นจากปีก่อน (YoY) จาก FYP ที่เพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจ และความพยายามในการเพิ่มผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพของบริษัทฯ อีกทั้ง รายได้การลงทุนมีแนวโน้มสูงขึ้น ตามทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น 

ขณะเดียวกัน ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) มีแนวโน้มลดลง เนื่องจากไตรมาสนี้ จะไม่มี ECL พิเศษ ประกอบกับ อัตรากำไร VONB ยังมีแนวโน้มทรงตัวอยู่ในระดับสูง จากการเพิ่มสัดส่วนผลิตภัณฑ์ที่ให้อัตรากำไรสูงขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน  

สอดคล้องกับ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ที่ประเมินว่า กำไรสุทธิไตรมาส 4/65 ของ TLI มีแนวโน้มเร่งตัวขึ้นทั้งเทียบปีก่อน และไตรมาสก่อน หลังเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจประกันภัย ส่งผลให้เบี้ยประกันมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ บริษัทยังกลับมาทำกิจกรรมการขายผ่านช่องทางตัวแทน, สถาบันการเงิน และดิจิทัล เพื่อเข้าถึงลูกค้าใหม่

โดย TLI พยายามใช้นโยบายส่งเสริมการขายผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรสูง (Value of New Business) เช่นประกันสุขภาพ และประกันประเภท Unit Link อีกทั้งกำไรจากเงินลงทุน มีแนวโน้มปรับขึ้นได้ต่อ จากผลของการลงทุนตราสารหนี้ชุดใหม่ ๆ ที่ให้ผลตอบแทนสูงขึ้นจากเดิม ส่งผลให้กำไรสุทธิปี 65 จะอยู่ที่ 1.04 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้น 25% จากปีก่อน 
 

*** โบรกฯคาดกำไรปี 66 ยังโตได้ 13 -15%
 

บล.เอเซีย พลัส ประเมินกำไรสุทธิปี 66 ของ TLI ไว้ที่ 1.21 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้น 13% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมองว่า ปี 66 ธุรกิจประกันชีวิตจะได้รับอานิสงส์เต็มที่ จากสภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัว หนุนกำลังซื้อผู้บริโภคเพิ่มขึ้น อีกทั้ง คาดว่า TLI จะรับรู้รายได้ จากการเน้นกลยุทธ์ขายผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพำกำไรสูงต่อเนื่อง 

ขณะที่นักวิเคราะห์อีก 2 ราย ประเมินกำไรสุทธิปี 66 ของ TLI ไว้ดังนี้

*** กูรูชี้พื้นฐาน – Valuation ยังน่าสนใจ
 

บล.โนมูระ พัฒนสิน มองว่า ปัจจัยทางพื้นฐาน และ เชิงมูลค่า (Valuation) ของ TLI ยังมีความน่าสนใจ สะท้อนจากกำไรสุทธิปี 65 – 67 มีแนวโน้มเติบโตเฉลี่ย 15% ต่อปี อีกทั้ง ราคาหุ้น ณ ปัจจุบัน ซื้อ – ขาย บน P/EV ปี 66 ที่ระดับ 0.95 เท่า สะท้อน valuation ไม่แพง สามารถซื้อตอบรับแนวโน้มอุตสาหกรรมประกันชีวิตไทย มีโอกาสเติบโตอีกมาก

อีกทั้งทิศทางผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (bond yield) เป็นขาขึ้น และพื้นฐานแข็งแกร่งโดยเฉพาะ % VONB margin

ขณะที่ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า TLI มีความน่าสนใจจากการฟื้นตัวของผลการดำเนินงาน อีกทั้ง ยังเป็นหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเทรนด์ดอกเบี้ยขาขึ้น หนุนให้ค่าใช้จ่ายตั้งสำรองประกันระยะยาวไม่เร่งตัวขึ้นมาก และช่วยให้ผลตอบแทนจากเงินลงทุนปรับตัวขึ้นตามลำดับ 

นอกจากนี้ ราคาหุ้น ณ ปัจจุบัน ยังมีอัพไซด์ค่อนข้างสูงราว 36.1% เมื่อเทียบกับราคาเหมาะสมของเราที่ 20 บาท/หุ้น อีกทั้ง นักลงทุนยังสามารถคาดหวังเงินปันผล คิดเป็นอัตราผลตอบแทน (Dividend Yield) อีกราว 1.9% จึงยังคงคำแนะนำ"ซื้อ" 
 

*** ส่วนใหญ่แนะนำ"ซื้อ"
 

จากการสำรวจความคิดเห็นนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังคงแนะนำ"ซื้อ" เนื่องจากมองว่าผลการดำเนินงานช่วงไตรมาส 4/65 ของ TLI มีแนวโน้มพลิกกลับมาเติบโตโดดเด่น หลังการเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น ขณะที่กำไรสุทธิปี 66 ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในระดับเลข 2 หลัก เป็นผลจากการรับอานิสงส์การฟื้นตัวของเศรษฐกิจปีดังกล่าวเต็มที่
 

แม้เช้านี้ ราคาหุ้น TLI จะปรับตัวขึ้นสวนดัชนีหุ้นไทย แต่ราคาหุ้นที่ซื้อ – ขาย ณ ปัจจุบัน ยังมีอัพไซด์เหลือให้นักลงทุนได้ลุ้นอีกกว่า 30% เมื่อเทียบกับราคาเหมาะสมเฉลี่ยของโบรกเกอร์ 

อีกทั้ง นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ ยังมีมุมมองเชิงบวกต่อผลการดำเนินงานไตรมาสสุดท้ายปีนี้ของ TLI ต่อเนื่องไปจนถึงปี 66 เป็นอย่างน้อย เพราะจะได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และการมุ่งเน้นขายผลิตภัณฑ์ที่ให้อัตราการทำกำไรสูง ปัจจัยดังกล่าว จะหนุนให้กำไรสุทธิของ TLI เติบโตขึ้นจากปีก่อนได้ต่อเนื่อง ....