14 บจ.กำไร Q2/66 จ่อโตทั้ง YoY - QoQ

โบรกฯคาดกำไร บจ. Q2/66 วูบ เหตุฐานปีก่อนสูงเพราะราคาน้ำมันพุ่ง - ส่วนใหญ่เข้าโลว์ซีซั่น แต่สำรวจความเห็นนักวิเคราะห์พบ 14 บจ. (ไม่รวมหุ้นแบงก์) กำไรจ่อโตทั้ง YoY - QoQ ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอาหารเครื่องดื่ม กำไรพุ่งเพราะเข้าฤดูร้อน SUN กำไรจ่อโต YoY สูงสุดถึง 288% ส่วน SISB - SIRI - SAPPE - ICHI - BEM จ่อโตเกิน 50%

*** กูรูมองกำไร บจ. Q2/66 วูบ เหตุปีก่อนฐานสูง - เข้าโลว์ซีซั่น

ใกล้เข้ามาแล้วสำหรับฤดูประกาศงบการเงินไตรมาส 2/66 ของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) โดยนักวิเคราะห์ในตลาดคาดการณ์ว่าหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ จะเป็นกลุ่มแรกที่เริ่มทยอยประกาศผลการดำเนินงานงวดดังกล่าว ตั้งแต่ 12 ก.ค.เป็นต้นไป

ขณะที่ บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส ประเมินว่า แนวโน้มกำไร บจ.ไตรมาส 2/66 อาจชะลอตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากฐานกำไรปีก่อนอยู่ในระดับสูงถึง 3.55 แสนล้านบาท จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 110 - 120 เหรียญ/บาร์เรล

นอกจากนี้ ยังคาดว่า กำไร บจ.ในช่วงดังกล่าว จะชะละตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนด้วย เนื่องจากช่วงไตรมาส 2 ของทุกปี มักเป็นช่วงโลว์ซีซั่นของธุรกิจบริษัทจดทะเบียนไทย ทำให้ในช่วงดังกล่าว จะมีหุ้นที่กำไรสุทธิเติบโตโดดเด่นค่อนข้างน้อย

*** แต่ผลสำรวจ IAA Consensus คาดมี 14 บจ. กำไรโต YoY - QoQ

อย่างไรก็ตาม "สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" สำรวจบทวิเคราะห์จาก IAA Consensus (อัพเดทล่าสุดถึง 10 ก.ค.66) พบว่า มี 14 บริษัท ที่ถูกนักวิเคราะห์ คาดการณ์ว่า กำไรสุทธิไตรมาส 2/66 มีแนวโน้มเติบโตขึ้นทั้งเทียบปีก่อน (YoY) และไตรมาสก่อน (QoQ) ประกอบด้วย 
 

14 บริษัทดังกล่าวเป็นหุ้นในดัชนี SET100 และนอกดัชนี SET100 จำนวน 7 บริษัท เท่ากัน โดยกลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดิ่มติดโผมากสุด จำนวน 4 บริษัท รองลงมา คือ กลุ่มธุรกิจพาณิชย์ที่ติดโผจำนวน 3 บริษัท 

*** จับตา ! "SUN" - "SISB" กำไรจ่อโต YoY เกิน100% 

บมจ.ซันสวีท (SUN) เป็นบริษัทที่ถูกคาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 2/66 มีแนวโน้มเติบโตจากปีก่อนมากที่สุดถึง 288% หลังถูกคาดกำไรสุทธิไว้ที่ 97 ล้านบาท มีปัจจัยหนุนจากรายได้ที่มีแนวโน้มทำจุดสูงสุดใหม่ (นิวไฮ) ที่ระดับ 1 พันล้านบาท เติบโตขึ้น 18% จากปีก่อน และเติบโตขึ้น 17% จากไตรมาสก่อน จากคำสั่งซื้อลูกค้าหลักฟื้นตัวต่อเนื่อง

โดยเฉพาะลูกค้าในประเทศ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ สอดคล้องกับตัวเลขการส่งออกข้าวโพดหวานบรรจุกระป๋องเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ไปญี่ปุ่น เติบโตขึ้น 42% จากปีก่อน และไปเกาหลีใต้ เติบโตขึ้น 62% จากปีก่อน ตามลำดับ ประกอบกับ เงินบาทอ่อนค่า หนุนความได้เปรียบด้านการส่งออกสูงขึ้น 

ขณะที่ อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) คาดเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 20.2% (ไตรมาสก่อน 19.8%) ตามอัตราการใช้กำลังผลิตสูงขึ้น และต้นทุนบรรจุภัณฑ์กระป๋องลดลงราว 3 - 4% จากไตรมาสก่อน 

ด้าน บมจ.เอสไอเอสบี (SISB) ถูกคาดกำไรสุทธิไตรมาส 2/66 ไว้ที่ 165 ล้านบาท เติบโตขึ้น 111% จากปีก่อน และเติบโตขึ้น 4% จากไตรมาสก่อน หนุนโดยนักเรียนใหม่ที่จะเพิ่มขึ้น 116 คน จากทั้ง 4 โรงเรียน ส่งผลให้ SISB จะมีนักเรียนทั้งหมด 3.4 พันคน เพิ่มขึ้น 25% จากปีก่อน และเพิ่มขึ้น 4% จากไตรมาสก่อน 

ทั้งนี้ ให้สมมติฐานค่าบำรุงการศึกษาเฉลี่ยต่อรายอยู่ที่ 5 แสนบาท (ใกล้เคียงไตรมาส 1/66) คาดว่ารายได้บริการรวมจะอยู่ที่ 438 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45% จากปีก่อน และเพิ่มขึ้น 3% จากไตรมาสก่อน จาก Operating leverage และประสิทธิภาพในการควบคุมต้นทุนของโรงเรียนดีขึ้น ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้น และอัตรากำไรสุทธิ จะทำนิวไฮที่ 55.8% และ 37.7% ตามลำดับ 

*** พบอีก 4 บจ. กำไรจ่อโต YoY มากกว่า 50%

นอกจากนี้ ยังมีอีก 4 บริษัท ที่กำไรสุทธิไตรมาส 2/66 มีแนวโน้มเติบโตจากปีก่อน มากกว่า 50% ประกอบด้วย บมจ. แสนสิริ (SIRI) ที่ถูกคาดกำไรสุทธิไตรมาส 2/66 ไว้ที่ 1.7 พันล้านบาท เติบโตขึ้น 85% จากปีก่อน และเติบโตขึ้น 8% จากไตรมาสก่อน หนุนโดยยอดขายที่คาดทำได้กว่า 1 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้น 37% จากปีก่อน และเติบโตขึ้น 23% จากไตรมาสก่อน

แรงส่งสำคัญ เป็นเพราะการเปิดตัวโครงการใหม่ 11 แห่ง มูลค่ารวม 1.6 หมื่นล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่เปิดโครงการใหม่ มูลค่าเพียง 2.4 พันล้านบาท เท่านั้น หรือคิดเป็นการเติบโตขึ้นถึง 566% อีกทั้ง ยังมีกำไรจากการขายที่ดินให้กับโครงการร่วมทุน (JV) ราว 300 - 400 ล้านบาท 

ด้าน บมจ.เซ็ปเป้ (SAPPE) ถูกคาดรายงานกำไรสุทธิระหว่าง 298 - 302 ล้านบาท เติบโตขึ้น 78 - 81% จากปีก่อน และเติบโตขึ้น 8 - 10% จากไตรมาสก่อน มีปัจจัยหนุนจากธุรกิจเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น และยังมีฤดูร้อนที่มากกว่าปีก่อน ๆ หนุนความต้องการสินค้าเพิ่มขึ้น อีกทั้ง ยังขยายช่องทางจัดจำหน่ายต่างประเทศ ทั้งฝรั่งเศส และอังกฤษ เพื่อรองรับความต้องการสินค้าที่เพิ่มขึ้น อีกด้วย 

ฟาก บมจ.อิชิตัน กรุ๊ป (ICHI) ถูกคาดกำไรสุทธิระหว่าง 245 - 247 ล้านบาท เติบโตขึ้น 61 - 62% จากปีก่อน และเติบโตขึ้น 10 - 11% จากไตรมาสก่อน หนุนโดยอัตรากำลังการผลิตที่คาดสูงขึ้นเป็น 70% (ไตรมาสก่อน 62%) ประกอบกับ ต้นทุนวัสดุบรรจุภัณฑ์ลดลง หนุนให้ GPM ปรับตัวขึ้นเป็น 21.5% เทียบปีก่อน และไตรมาสก่อน ที่ระดับ 18% และ 20.8% ตามลำดับ

ส่วน บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) ถูกคาดกำไรสุทธิระหว่าง 900 ล้านบาท - 1 พันล้านบาท เติบโตขึ้น 42 - 58% จากปีก่อน และเติบโตขึ้น 20 - 34% จากไตรมาสก่อน หนุนโดยยอดใช้บริการทางด่วนของ (วันธรรมดา) ช่วงเดือน มิ.ย.66 อยู่ที่ 1.17 ล้านเที่ยว/วัน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนที่อยู่ในระดับ 1.1 ล้านเที่ยว/วัน 

ขณะที่ ผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (วันธรรมดา) เฉลี่ยอยู่ที่ 4.3 แสนเที่ยว/วัน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนที่อยู่ในระดับ 3.45 แสนเที่ยว/วัน อีกทั้ง ไตรมาสนี้ ยังจะมีเงินปันผลรับจาก CKP และ TTW เข้ามาช่วยหนุน อีกด้วย