SET Index ตั้งแต่ต้นปี ดิ่งแรงกว่า 287.67 จุด ส่งผลให้มีถึง 24 บจ.ประกาศรับซื้อหุ้นคืน ส่วนใหญ่เป็นหุ้นนอก SET100 กลุ่มพลังงานฯ - บริการแห่ติดโผเพียบ พบทั้งหมดใช้เงินซื้อหุ้นคืนรวมกันกว่า 5.9 พันล้านบาท แต่ส่วนใหญ่ผลตอบแทนราคาหุ้นระหว่างโครงการกลับติดลบเฉลี่ย 8.62% หนักสุดถึง 87.54%
*** ปีนี้ SET ดิ่งแรง มีถึง 24 บจ.รับซื้อหุ้นคืน
ดัชนีหุ้นไทย (SET Index) ตั้งแต่ต้นปี (YTD) ปรับตัวลงถึง 287.67 จุด หรือ -17.23% ส่งผลให้ช่วงดังกล่าว มีถึง 24 บริษัท ที่ประกาศโครงการรับซื้อหุ้นคืนออกมา เพื่อหวังพยุงราคาหุ้นไม่ให้ปรับตัวลงตามภาวะตลาดหุ้น ประกอบด้วย
24 บจ.ซื้อหุ้นคืนตั้งแต่ต้นปี มูลค่ารวม 5.9 พันลบ.
|
ชื่อย่อหุ้น
|
เป้าหมายซื้อคืน (ลห.)
|
วงเงิน (ลบ.)
|
ซื้อทั้งหมด (ลบ.)
|
ช่วงราคา (บ.)
|
มูลค่า (ลบ.)
|
ช่วงเวลาซื้อคืน
|
TU
|
200
|
3,000
|
200
|
13.5 - 16
|
2,976
|
3 ม.ค.66 - 30 มิ.ย.66
|
WICE
|
13
|
170
|
10.09
|
7.95 - 8.85
|
96.44
|
19 ม.ค. - 18 ก.ค.66
|
LEE
|
90
|
240
|
8.99
|
2.26 - 2.44
|
20.71
|
2 มี.ค. - 1 ก.ย.66
|
ASEFA
|
17
|
70
|
15.7
|
3.84 - 4.14
|
59.85
|
1 มี.ค. - 31 ส.ค.66
|
SABUY
|
87.2
|
1,090
|
87.2
|
11.1 - 12.8
|
1,042
|
8 พ.ค. - 14 ก.ค.66
|
JMART
|
16
|
400
|
7.73
|
13.4 - 19.1
|
128.96
|
15 พ.ค. - 31 ส.ค.66
|
ITNS
|
11
|
38.5
|
11
|
3.3 - 3.5
|
38.08
|
15 พ.ค.66 - 12 ต.ค.66
|
NV
|
30
|
70
|
24.01
|
2.24 - 2.9
|
69.99
|
18 พ.ค. - 17 พ.ย.66
|
KOOL
|
72.27
|
36
|
72.27
|
0.44 - 0.47
|
32.03
|
19 พ.ค.66 - 17 พ.ย.66
|
GENCO*
|
112.22
|
8
|
13.58
|
0.5 - 0.58
|
7.5
|
21 ก.ค.66 - 20 ม.ค.67
|
III*
|
25
|
300
|
18.59
|
10.2 - 12.4
|
208.05
|
15 ส.ค.66 - 14 ก.พ.67
|
TACC*
|
11
|
50
|
5.4
|
4.2 - 4.52
|
24.47
|
17 ส.ค.66 - 16 ก.พ.67
|
WP*
|
15.5
|
60
|
7.99
|
3.68 - 4.36
|
32.6
|
9 ต.ค.66 - 8 มี.ค.67
|
MAJOR*
|
72
|
1,000
|
52.65
|
15 - 16.3
|
804.7
|
16 ต.ค.66 - 15 ม.ค.67
|
SMT*
|
55
|
250
|
2.63
|
3.78 - 4.58
|
10.72
|
7 พ.ย.66 - 3 พ.ค.67
|
GUNKUL*
|
380
|
1,120
|
31.95
|
2.54 - 2.6
|
82.61
|
16 พ.ย.66 - 15 พ.ค.67
|
SONIC*
|
80
|
150
|
1.22
|
1.66 - 1.7
|
2.07
|
16 พ.ย.66 - 15 มี.ค.67
|
SSP*
|
90
|
810
|
3.56
|
6.9 - 7.25
|
25.54
|
17 พ.ย.66 - 16 พ.ค.67
|
EA*
|
58
|
3,000
|
5.62
|
44.5 - 46.75
|
254.68
|
17 พ.ย.66 - 17 ก.พ.67
|
NEX**
|
28.71
|
290
|
N/A
|
N/A
|
N/A
|
17 พ.ย.66 - 17 พ.ค.67
|
TOA**
|
60
|
1,500
|
N/A
|
N/A
|
N/A
|
20 พ.ย.66 - 17 พ.ค.67
|
FVC*
|
22
|
20
|
0.05
|
0.77 - 0.78
|
0.04
|
20 พ.ย.66 - 20 พ.ค.67
|
WARRIX*
|
11
|
70
|
0.07
|
6.3
|
0.48
|
21 พ.ย.66 - 20 พ.ค.67
|
UKEM**
|
80
|
66
|
N/A
|
N/A
|
N/A
|
6 ธ.ค.66 - 5 มิ.ย.67
|
ที่มา : SETSMART ณ 7 ธ.ค.66
*ยังไม่สิ้นสุดโครงการ
**ยังไม่ซื้อหุ้นคืนและยังไม่สิ้นสุดโครงการ
|
24 บริษัทดังกล่าว ส่วนใหญ่เป็นบริษัทนอกดัชนี SET100 จำนวน 21 บริษัท และเป็นบริษัทในดัชนี SET100 จำนวน 4 บริษัท กลุ่มธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค ติดโผมากสุด จำนวน 4 บริษัท รองลงมา คือ กลุ่มธุรกิจบริการ ที่ติดโผ จำนวน 3 บริษัท
ทั้งนี้ 24 บริษัทดังกล่าว ใช้เงินซื้อหุ้นคืนรวมกันไปแล้วถึง 5,918 ล้านบาท โดยมี 9 บริษัทที่สิ้นสุดโครงการรับซื้อหุ้นคืนแล้ว ส่วนที่เหลือยังอยู่ระหว่างรับซื้อหุ้นคืนถึงช่วงกลางปีหน้า
*** "TU" - "EA" วางงบซื้อหุ้นคืนมากสุด 3 พันลบ.
บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) และ บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) เป็น 2 บริษัท ที่วางงบประมาณสำหรับโครงการรับซื้อหุ้นคืนปี 2566 มากที่สุด จำนวน 3,000 ล้านบาท เท่ากัน
โดย TU สิ้นสุดโครงการไปแล้ว ซึ่งซื้อหุ้นคืนได่้มากที่สุด ณ ขณะนี้ถึง 2,976 ล้านบาท จากการประกาศรับซื้อหุ้นคืน 200 ล้านหุ้น ตั้งแต่ 2 ม.ค.2566 - 30 มิ.ย.2566 ซึ่งเมื่อจบโครงการปรากฏว่า TU สามารถซื้อหุ้นคืนได้ตามเป้าหมาย 200 ล้านหุ้น ที่ช่วงราคา 13.5 - 16 บาท/หุ้น
ส่วน EA ยังอยู่ระหว่างโครงการรับซื้อหุ้นคืน โดยจะสิ้นสุดในวันที่ 17 ก.พ.2567 โดยล่าสุด EA เพิ่งซื้อหุ้นคืนไปเพียง 5.62 ล้านหุ้น ที่ช่วงราคา 44.5 - 46.75 บาท/หุ้น รวมเป็นเงิน 254.68 ล้านบาท เทียบกับเป้าหมายที่ตั้งเป้าจะซื้อหุ้นคืน 58 ล้านหุ้น ด้วยวงเงินไม่เกิน 3,000 ล้านบาท
*** มีอีก 2 บจ.ใช้เงินซื้อหุ้นคืนแล้วมากกว่า 500 ลบ.
นอกจากนี้ ยังมีอีก 2 บริษัท ที่ปีนี้ใช้เงินซื้อหุ้นคืนไปแล้วมากกว่า 500 ล้านบาท ประกอบด้วย บมจ.สบาย เทคโนโลยี (SABUY) ที่ตั้งเป้าซื้อหุ้นคืน 87.2 ล้านหุ้น ด้วยวงเงินไม่เกิน 1,090 ล้านบาท โดย SABUY สิ้นสุดโครงการไปแล้ว ตั้งแต่ 14 ก.ค.2566 ซื้อหุ้นคืนได้ตามเป้าหมาย 87.2 ล้านหุ้น ที่ช่วงราคา 11.1 - 12.8 บาท/หุ้น รวมเป็นเงิน 1,042 ล้านบาท
ด้าน บมจ.เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ (MAJOR) ที่ยังไม่สิ้นสุดโครงการ โดยประกาศซื้อหุ้นคืน 72 ล้านหุ้น วงเงินไม่เกิน 1,000 ล้านบาท ตั้งแต่ 16 ต.ค.2566 - 15 ม.ค.2567 โดยล่าสุด MAJOR ซื้อหุ้นคืนไปแล้ว 52.65 ล้านหุ้น ที่ช่วงราคา 15 - 16.3 บาท/หุ้น รวมเป็นเงิน 804.70 ล้านบาท
*** อีก 3 บจ.เปิดโครงการท้ายปี แต่ยังไม่ช้อนคืน
ขณะเดียวกัน มีอีก 3 บริษัท ที่เพิ่งประกาศโครงการรับซื้อหุ้นคืน ตั้งแต่ช่วง 17 พ.ย. - 6 ธ.ค.ที่ผ่านมา แต่ข้อมูลล่าสุด ยังไม่มีการซื้อหุ้นคืน ประกอบด้วย บมจ.ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) หรือ TOA ที่ตั้งเป้าซื้อหุ้นคืน 60 ล้านหุ้น วงเงินไม่เกิน 1,500 ล้านบาท ตั้งแต่ 20 พ.ย.2566 - 17 พ.ค.2567
ฟาก บมจ.เน็กซ์ พอยท์ (NEX) ตั้งเป้าซื้อหุ้นคืน 28.71 ล้านหุ้น วงเงินไม่เกิน 290 ล้านบาท ตั้งแต่ 17 พ.ย.2566 - 17 พ.ค.2567 และ บมจ.ยูเนี่ยน ปิโตรเคมีคอล (UKEM) ที่ตั้งเป้าซื้อหุ้นคืน 28.71 ล้านหุ้น วงเงินไม่เกิน 290 ล้านบาท ตั้งแต่ 17 พ.ย.2566 - 17 พ.ค.2567
*** หลังรับซื้อหุ้นคืน ผลตอบแทนติดลบเฉลี่ย 8.62%
ทั้งนี้ หากอ้างอิงราคาหุ้นของทั้ง 24 บริษัท ตั้งแต่ประกาศรับซื้อหุ้นคืน - ราคาหุ้น ณ วันสิ้นสุดโครงการซื้อหุ้นคืน พบว่าส่วนใหญ่ผลตอบแทนราคาหุ้นในช่วงดังกล่าวติดลบถึง 15 บริษัท ส่งผลให้ผลตอบแทนรวมเฉลี่ยติดลบ 8.62% ดังนี้
ชื่อย่อหุ้น
|
ราคาเริ่มโครงการ (บ.)
|
ราคาวันสิ้นสุดโครงการ (บ.)
|
%chg.
|
SONIC*
|
14.2
|
1.77
|
-87.54
|
NV
|
3.08
|
1.9
|
-38.31
|
WICE
|
11.6
|
8.75
|
-24.57
|
TU
|
16.8
|
12.9
|
-23.21
|
SABUY
|
11.2
|
8.6
|
-23.21
|
SMT*
|
4.56
|
3.74
|
-17.98
|
III*
|
12
|
10.1
|
-15.83
|
TACC*
|
5.05
|
4.3
|
-14.85
|
GENCO*
|
0.57
|
0.52
|
-8.77
|
EA*
|
47.5
|
44
|
-7.37
|
KOOL
|
0.44
|
0.41
|
-6.82
|
NEX**
|
11
|
10.3
|
-6.36
|
WARRIX*
|
6.75
|
6.55
|
-2.96
|
GUNKUL*
|
2.64
|
2.58
|
-2.27
|
TOA**
|
22.1
|
21.7
|
-1.81
|
UKEM**
|
0.81
|
0.81
|
ไม่เปลี่ยนแปลง
|
LEE
|
2.4
|
2.44
|
1.67
|
WP*
|
3.8
|
3.92
|
3.16
|
FVC*
|
0.77
|
0.8
|
3.90
|
ITNS
|
3.14
|
3.32
|
5.73
|
MAJOR*
|
14.2
|
15.1
|
6.34
|
SSP*
|
6.95
|
7.45
|
7.19
|
ASEFA
|
3.56
|
4.1
|
15.17
|
JMART
|
18.2
|
24
|
31.87
|
*ยังไม่สิ้นสุดโครงกการใช้ราคาปิด 7 ธ.ค.66
|
โดย บมจ.โซนิค อินเตอร์เฟรท (SONIC) เป็นบริษัท ที่ผลตอบแทนราคาหุ้นระหว่างโครงการรับซื้อหุ้นคืนติดลบมากที่สุดถึง 87.54% รองลงมา คือ บมจ.โนวา ออร์แกนิค (NV) ที่ผลตอบแทนราคาหุ้นช่วงดังกล่าวติดลบ 38.31%
นอกจากนี้ ยังมีอีก 3 บริษัท ที่ราคาหุ้นในช่วงดังกล่าวปรับตัวลงมากกว่า 20% ประกอบด้วย บมจ.ไวส์ โลจิสติกส์ (WICE) ที่ผลตอบแทนราคาหุ้นช่วงดังกล่าวติดลบ 24.57%, บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) ที่ผลตอบแทนราคาหุ้นช่วงดังกล่าวติดลบ 23.21% และ บมจ.สบาย เทคโนโลยี (SABUY) ที่ผลตอบแทนราคาหุ้นช่วงดังกล่าวติดลบ 23.21%