efinancethai

หุ้นเด่นวันนี้

พบ 22 บจ. กำไรปี 66 จ่อทุบสถิติสูงสุดตลอดกาล

พบ 22 บจ. กำไรปี 66 จ่อทุบสถิติสูงสุดตลอดกาล

22 บริษัท กำไรปี 66 จ่อทำ All Time High หุ้นเงินทุนฯ - อาหารฯ นำติดโผเพียบ พบ 2 บจ. กำไรปีนี้ นอกจากทุบสถิติสูงสุดแล้ว ยังจ่อโตมากกว่า 100% ด้วย เช็กคาดงบปี 67 เพิ่ม พบอีก 17 บจ. จ่อทุบ All Time High ต่ออีกปี คาดกำไรโตสูงสุด 57% ส่องอัพไซด์ พบ 9 บจ. เหลืออัพไซด์มากกว่า 30% สูงสุดถึง 95% 

 

*** 22 หุ้น กำไรปีนี้จ่อทำ All Time High

"สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" สำรวจประมาณการกำไรสุทธิปี 66 ของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ผ่านบทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) จาก IAA Consensus ข้อมูลสิ้นสุด ณ 4 ก.ย.ที่ผ่านมา พบ 22 บริษัท ถูกคาดการณ์ว่ากำไรสุทธิปีนี้ มีแนวโน้มจะทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (All Time High) ประกอบด้วย
 

22 บจ. กำไรปี 66 จ่อทุบสถิติสูงสุดตลอดกาลบริษัท

ชื่อย่อหุ้น

กำไรสูงสุดเดิม (ลบ.)

บล.

กำไรปี 66 (ลบ.)

%chg YoY

ราคาเหมาะสม (บ.)

%อัพไซด์*

NEX

208

บัวหลวง

1,616

677

13.5

1.50

ดาโอ

910

338

14

5.26

BBIK

127

ดาโอ

368

190

160

40.35

เมย์แบงก์ฯ

304

139

140

22.81

SAPPE

653

ดาโอ

1,221

87

120

31.87

ฟินันเซียฯ

1,191

82

96.5

6.04

ทิสโก้

1,146

75

117

28.57

หยวนต้า

1,105

69

100

9.89

IP

119

หยวนต้า

193

62

20.1

95.15

โกลเบล็ก

179

50

17

65.05

ทรีนีตี้

122

3

16

55.34

ICHI

642

ทิสโก้

983

53

19

15.15

หยวนต้า

896

40

17

3.03

ฟินันเซียฯ

814

27

15.7

-4.85

CHAYO

251

ดาโอ

384

53

8

3.23

หยวนต้า

302

20

10.8

39.35

GULF

11,417

ฟินันเซียฯ

16,409

44

52.3

9.53

เอเชีย พลัส

15,632

37

63

31.94

ดาโอ

15,366

35

60

25.65

เอเอสแอล

14,701

29

63

31.94

หยวนต้า

14,688

29

54.5

14.14

RBF

519

ฟินันเซียฯ

664

38

13.5

19.47

เคจีไอ

658

37

12.8

13.27

ทิสโก้

655

36

11.8

4.42

SNNP

515

ฟินันเซียฯ

696

35

29

31.22

หยวนต้า

688

34

27.25

23.30

เอเชีย พลัส

670

30

24

8.60

ทิสโก้

650

26

25

13.12

JMT

1,745

ทรีนีตี้

2,290

31

66

42.70

ฟินันเซียฯ

2,227

28

60

29.73

เอเชีย พลัส

2,036

17

46

-0.54

WHA

4,045

ทิสโก้

4,894

21

4

-23.08

เมย์แบงก์ฯ

4,744

17

4.92

-5.38

เคจีไอ

4,451

10

5

1.92

ดาโอ

4,343

7

5.8

11.54

SAWAD

4,722

ฟิลลิป

5,369

20

64

28.00

เคจีไอ

5,075

13

63

26.00

ดาโอ

4,786

7

56

12.00

KTB

33,697

ดาโอ

39,963

19

24

23.71

ทรีนีตี้

39,486

17

24

23.71

เมย์แบงก์ฯ

38,019

13

22

13.40

ทิสโก้

36,309

8

19.4

0.00

EA

7,604

ดาโอ

9,054

19

80

28.00

เอเชีย พลัส

8,140

7

65

4.00

COM7

3,037

ทิสโก้

3,564

17

37.5

14.50

เมย์แบงก์ฯ

3,431

13

37

12.98

ฟินันเซียฯ

3,430

13

40

22.14

เอเชีย พลัส

3,420

13

35.5

8.40

DELTA

15,344

ฟินันเซียฯ

17,596

15

70

-36.36

ทิสโก้

17,407

13

59.5

-45.91

เคจีไอ

16,605

8

100

-9.09

หยวนต้า

15,812

3

52.5

-52.27

NSL

297

ฟินันเซียฯ

343

15

26

11.11

PTTEP

70,901

ดาโอ

80,661

14

180

10.77

พาย

76,592

8

180

10.77

หยวนต้า

72,453

2

167

2.77

AP

5,877

แลนด์ฯ

6,395

9

15.2

21.60

ฟินันเซียฯ

6,274

7

14

12.00

เอเชีย พลัส

6,095

4

15.5

24.00

หยวนต้า

6,090

4

14.1

12.80

WARRIX

128

หยวนต้า

140

9

14.25

51.60

KTC

7,079

หยวนต้า

7,434

5

58

20.21

ฟิลลิป

7,371

4

68

40.93

แลนด์ฯ

7,371

4

60

24.35

ASK

1,512

แลนด์ฯ

1,550

3

30

18.81

หมายเหตุ : ประมาณการณ์กำไรจากนักวิเคราะห์สิ้นสุด 4 ก.ย.66

*อัพไซด์เทียบราคาปิด 1 ก.ย.66

 

22 บจ.ดังกล่าว เป็นบริษัทในดัชนี SET100 และนอกดัชนี SET100 จำนวน 11 บริษัท เท่ากัน โดยกลุ่มธุรกิจเงินทุนและหลักทรัพย์ และอาหารและเครื่องดื่ม ติดโผมากสุด จำนวน 5 บริษัท เท่ากัน รองลงมา คือ กลุ่มธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค ที่ติดโผ จำนวน 3 บริษัท 

 

*** ตะลึง ! มี 2 บจ.กำไรจ่อโตเกิน 100%

โดย 2 บริษัทแรก ที่ถูกโบรกเกอร์คาดการณ์ว่ากำไรสุทธิปี 66 จะเติบโตสูงสุด พบว่า มีอัตราการเติบโตมากกว่า 100% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 

 

บมจ.เน็กซ์ พอยท์ (NEX) ถูกคาดว่า กำไรสุทธิปี 66 จะเติบโตสูงสุดถึง 338- 677% จากปีก่อน หลังถูกประเมินกำไรสุทธิปีนี้ไว้ในกรอบ 910 - 1,616 ล้านบาท สาเหตุหลักเป็นเพราะการส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าในช่วงครึ่งปีหลัง มีแนวโน้มเร่งตัวขึ้นจากครึ่งปีแรกที่ทำได้ราว 1,050 คัน โดยทั้งปีคาดจะส่งมอบได้ทั้งหมดราว 2,800 คัน

 

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยหนุนจากการขยายตลาดรถบัสไฟฟ้า (E-Bus) และรถบรรทุกไฟฟ้า (E-Truck) ไปยังตลาดประเทศอินโดนีเซีย และเวียดนาม อีกด้วย 

 

ด้าน บมจ.บลูบิค กรุ๊ป (BBIK) ถูกคาดกำไรสุทธิปี 66 ไว้ที่ 304 - 368 ล้านบาท เติบโตขึ้น 139 - 190% จากปีก่อน หนุนโดยผลการดำเนินงานครึ่งปีหลัง มีแนวโน้มทำสถิติสูงสุดใหม่ (นิวไฮ) ต่อเนื่อง หลังมีการรับงานใหม่เพิ่มขึ้น โดยยังได้รับอานิสงส์ จาก 2 บริษัทใหม่ และการขยายตลาดไปต่างประเทศมากขึ้น 

 

*** อีก 4 บจ. กำไรปี 66 จ่อโตมากกว่า 50%

ขณะเดียวกัน ยังมีอีก 4 บริษัท ที่กำไรสุทธิปี 66 มีแนวโน้มเติบโตมากกว่า 50% ประกอบด้วย บมจ.เซ็ปเป้ (SAPPE) ถูกคาดกำไรสุทธิไว้ที่ 1,105 - 1,221 ล้านบาท เติบโตขึ้น 69 - 87% จากปีก่อน มีปัจจัยหนุนจากการเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นอีก 30% ในปีนี้ อีกทั้ง ยังได้แรงหนุนจากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ และการควบคุมต้นทุนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น 

 

ฟาก บมจ.อินเตอร์ ฟาร์มา (IP) ถูกคาดกำไรสุทธิไว้ที่ 122 - 193 ล้านบาท เติบโตขึ้น 3 - 62% จากปีก่อน หนุนโดยธุรกิจร้านขายยา, โรงพยาบาลนครพัฒน์ และธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง ที่ยังสามารถรักษาการเติบโตในอัตราที่โดดเด่น จึงเป็น 3 ธุรกิจหลัก ที่ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของ IP ในปีนี้

 

ขณะที่ บมจ.อิชิตัน กรุ๊ป (ICHI) ถูกคาดกำไรสุทธิไว้ที่ 814 - 983 ล้านบาท เติบโตขึ้น 27 - 53% จากปีก่อน มีปัจจัยหนุนจากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ประกอบกับ ฤดูร้อนที่ยาวนานกว่าปกติช่วยหนุนยอดขายเพิ่มขึ้น อีกทั้งช่วงครึ่งปีหลัง ICHI จะมีค่าใช้จ่ายการตลาดลดลงประมาณ 30 ล้านบาท จากช่วงครึ่งปีแรก อีกด้วย 

 

ส่วน บมจ.ชโย กรุ๊ป (CHAYO) ถูกคาดกำไรสุทธิไว้ที่ 302 - 384 ล้านบาท เติบโตขึ้น 20 - 53% จากปีก่อน หนุนโดยต้นทุนซื้อหนี้เสียที่เพิ่มขึ้นเป็น 2 พันล้านบาท ประกอบกับ หนี้เสีย (NPL) ในอุตสาหกรรมที่สูง จะทำให้สถาบันการเงินทยอยขายหนี้ดังกล่าวออกมามากขึ้น อีกทั้ง สินเชื่อยังมีแนวโน้มเติบโตขึ้น 40% จากปีก่อน ตามการขยายฐานลูกค้า ที่มีความต้องการสูงขึ้น   

 

*** พบอีก 17 บจ. กำไรปี 67 ทำไฮได้ต่อ !

อย่างไรก็ตาม เมื่อ"สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" สำรวจข้อมูล 22 บริษัทดังกล่าวเพิ่มเติม พบว่า มีถึง 17 บริษัท ที่กำไรสุทธิปี 67 มีแนวโน้มทำ All Time High ได้ต่อเนื่องอีก 1 ปี ประกอบด้วย 
 

17 บจ. คาดทุบสถิติกำไรสูงสุดปี 67 ต่อเนื่อง

ชื่อย่อหุ้น

บล.

กำไรปี 67 (ลบ.)

%chg YoY

IP

 

ทรีนีตี้

192

57

หยวนต้า

222

15

โกลเบล็ก

200

12

NEX

บัวหลวง

2,259

40

ดาโอ

1,194

31

JMT

 

ทรีนีตี้

2,967

30

ฟินันเซียฯ

2,716

22

เอเชีย พลัส

2,451

20

GULF

 

 

 

เอเชีย พลัส

20,290

30

ฟินันเซียฯ

19,874

21

ดาโอ

18,441

20

หยวนต้า

17,179

17

เอเอสแอล

16,647

13

CHAYO

หยวนต้า

387

28

ดาโอ

420

9

BBIK

เมย์แบงก์ฯ

388

28

ดาโอ

377

2

SAWAD

 

เคจีไอ

6,400

26

ดาโอ

5,765

20

ฟิลลิป

5,786

8

SAPPE

 

 

ทิสโก้

1,415

23

ดาโอ

1,480

21

หยวนต้า

1,320

19

ฟินันเซียฯ

1,331

12

DELTA

 

 

ฟินันเซียฯ

21,695

23

เคจีไอ

19,793

19

ทิสโก้

20,169

16

หยวนต้า

16,777

6

SNNP

 

 

เอเชีย พลัส

825

23

หยวนต้า

807

17

ทิสโก้

757

16

ฟินันเซียฯ

805

16

RBF

 

เคจีไอ

803

22

ฟินันเซียฯ

772

16

ทิสโก้

754

15

ICHI

 

ทิสโก้

1,148

17

ฟินันเซียฯ

896

10

หยวนต้า

953

6

COM7

 

 

ฟินันเซียฯ

4,137

21

เมย์แบงก์ฯ

4,056

18

ทิสโก้

4,028

13

เอเชีย พลัส

3,839

12

WHA

 

เมย์แบงก์ฯ

5,513

16

ดาโอ

4,990

15

เคจีไอ

4,608

4

AP

 

 

แลนด์ฯ

7,268

14

หยวนต้า

6,653

9

เอเชีย พลัส

6,283

3

ฟินันเซียฯ

6,450

3

KTB

 

ทรีนีตี้

43,571

10

ดาโอ

43,133

8

เมย์แบงก์ฯ

40,558

7

KTC

 

หยวนต้า

8,056

8

ฟิลลิป

7,770

5

แลนด์ฯ

7,969

8

หมายเหตุ : ประมาณการณ์กำไรจากนักวิเคราะห์สิ้นสุด 4 ก.ย.66

 

17 บริษัทดังกล่าว ส่วนใหญ่เป็นบริษัทในดัชนี SET100 จำนวน 8 บริษัท โดยกลุ่มธุรกิจเงินทุนและหลักทรัพย์ และอาหารและเครื่องดื่ม ยังติดโผสูงสุดเหมือนเดิม แต่ลดลงมาเหลือกลุ่มธุรกิจละ 4 บริษัท เท่ากัน 

 

โดย บมจ.อินเตอร์ ฟาร์มา (IP) เป็นบริษัทที่ถูกคาดกำไรสุทธิปี 67 จะเติบโตสูงสุด ระหว่าง 12 - 57% จากปีก่อน หลังถูกคาดกำไรสุทธิไว้ที่ 192 - 222 ล้านบาท 

 

นอกจานี้ ยังมีอีก 3 บริษัท ที่กำไรสุทธิปี 67 มีแนวโน้มเติบโตตั้งแต่ 30% ขึ้นไป ประกอบด้วย บมจ.เน็กซ์ พอยท์ (NEX) ถูกคาดกำไรสุทธปี 67 ไว้ที่ 1,194 - 2,259 ล้านบาท เติบโตขึ้น 31 - 40% จากปีก่อน

 

ด้าน บมจ.เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส (JMT) ถูกคาดกำไรสุทธิปี 67 ไว้ที่ 2,451 - 2,967 ล้านบาท เติบโตขึ้น 20 - 30% จากปีก่อน และ บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) ถูกคาดกำไรสุทธิปี 67 ไว้ที่ 16,647 - 20,290 ล้านบาท เติบโตขึ้น 13 - 30% จากปีก่อน  

 

*** ส่องอัพไซด์หุ้น พบสูงสุดถึง 95.15%

ทั้งนี้ เมื่อสำรวจราคาหุ้นที่ซื้อขาย ณ ปัจจุบัน ของบริษัทที่ติดโผทั้งหมด พบว่า บมจ.อินเตอร์ ฟาร์มา (IP) เป็นบริษัทที่มีอัพไซด์สูงสุด ระหว่าง 55.34 - 95.15% 

 

นอกจากนี้ ยังมีอีก 8 บริษัท ที่ราคาหุ้นที่ซื้อขาย ณ ปัจจุบัน มีอัพไซด์มากกว่า 30% ประกอบด้วย บมจ.วอริกซ์ สปอร์ต (WARRIX) ราคาหุ้นมีอัพไซด์ 51.60%, บมจ.เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส (JMT) ราคาหุ้นมีอัพไซด์ ระหว่าง 29.73 - 42.70%, บมจ.บัตรกรุงไทย (KTC) ราคาหุ้นมีอัพไซด์ ระหว่าง 20.21 - 40.93%, บมจ.บลูบิค กรุ๊ป (BBIK) ราคาหุ้นมีอัพไซด์ ระหว่าง 22.81 - 40.35%

 

บมจ.ชโย กรุ๊ป (CHAYO) ราคาหุ้นมีอัพไซด์ ระหว่าง 3.23 - 39.35%, บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) ราคาหุ้นมีอัพไซด์ ระหว่าง 9.53 - 31.94%, บมจ.เซ็ปเป้ (SAPPE) ราคาหุ้นมีอัพไซด์ ระหว่าง 9.89 - 31.87% และ บมจ.ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง (SNNP) ราคาหุ้นมีอัพไซด์ ระหว่าง 8.6 - 31.22% 







ข่าวหุ้นอื่นๆที่น่าสนใจ

RECOMMENDED NEWS

ข่าวหุ้นยอดนิยม

Refresh




LATEST NEWS

ข่าวหุ้นล่าสุด

Refresh

ดูข่าวทั้งหมด