หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์โกยกำไร Q2/67 รวมกว่า 6.3 หมื่นล้านบาท โต 2.1% แต่ส่วนใหญ่ฟันกำไรต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาด ทำโบรกฯแห่ปรับเป้าอุตลุด มีถึง 4 แบงก์ถูกหั่นเป้ากำไร - ราคาเป้าหมายปี 67 รับงบอ่อนแอกว่าคาด แถมกังวลหนี้เสียพุ่ง มีแค่ 3 แบงก์ที่ถูกอัปเป้ากำไรรับงบแกร่งกว่าคาด ยก KTB หุ้น Top Picks กลุ่ม หลังคาดงบครึ่งปีหลังแจ่ม แถม Valuation ถูก
*** แบงก์ฟันกำไร Q2/67 กว่า 6.3 หมื่นลบ. โต 2.1%
ผ่านพ้นไปแล้ว สำหรับการรายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/67 ของหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ซึ่งเป็นหุ้นกลุ่มแรกที่ประเดิมรายงานผลการดำเนินงานช่วงดังกล่าว โดยไตรมาส 2/67 หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ 10 แห่ง มีกำไรสุทธิรวมกัน 62,911 ล้านบาท เติบโตขึ้น 2.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
อย่างไรก็ตาม แม้ผลการดำเนินงานงวดดังกล่าวของหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์จะสามารถเติบโตขึ้นจากปีก่อนได้ แต่ส่วนใหญ่กลับรายงานกำไรสุทธิช่วงดังกล่าวออกมาได้ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ในตลาดคาดการณ์ไว้ในช่วงก่อนหน้านี้
*** พบ 4 หุ้นแบงก์ถูกหั่นเป้า หลังงบแย่กว่าคาด - กังวลหนี้เสีย
ทั้งนี้ "สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" จึงสำรวจบทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) จาก IAA Consensus ที่มีการอัปเดทข้อมูลหลังหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ประกาศงบการเงินไตรมาส 2/67 พบ 4 ธนาคาร ถูกนักวิเคราะห์ปรับลดคาดการณ์กำไรสุทธิปี 67 และราคาเหมาะสมลง ประกอบด้วย
โบรกฯแห่หั่นเป้าหุ้นแบงก์ หลังงบ Q2/67 รับกังวลหนี้เสียพุ่ง |
ชื่อย่อหุ้น | บล. | กำไรปี 67 (ลบ.) | %chg | ราคาเหมาะสมใหม่ (บ.) | เปลี่ยนแปลง (บ.) |
KKP | เมย์แบงก์ฯ | 4,379 | -27.95 | 45 | -13 |
ฟิลลิป | 4,700 | -27.69 | 44.5 | -9.5 |
กรุงศรี | 4,062 | -27.09 | 38 | -10 |
เอเอสแอล | 4,791 | -13.36 | 44 | -8.75 |
SCB | พาย | 39,864 | -11.59 | 106 | -12 |
ดาโอ | 39,587 | -10.38 | 100 | -10 |
กรุงศรี | 40,555 | -9.79 | 100 | -15 |
บัวหลวง | 41,022 | -7.56 | 100 | -15 |
เอเอสแอล | 43,679 | -4.69 | 116.5 | -3.5 |
ทรีนีตี้ | 43,229 | -3.53 | 118 | -4 |
TISCO | ทรีนีตี้ | 6,814 | -4.66 | 104 | -1 |
เอเซีย พลัส | 6,982 | -4.40 | 100 | -6 |
อินโนเวสท์ฯ | 6,625 | -4.26 | 103 | ไม่เปลี่ยนแปลง |
ดาโอ | 6,792 | -3.99 | 94 | -6 |
เมย์แบงก์ฯ | 7,093 | -3.93 | 104 | -4 |
พาย | 6,803 | -3.68 | 94 | -5 |
ฟินันเซียฯ | 6,935 | 3.02 | 96 | -1 |
BBL | ทรีนีตี้ | 41,531 | -3.75 | 179 | -6 |
อินโนเวสท์ฯ | 43,524 | 3.69 | 180 | ไม่เปลี่ยนแปลง |
KTB | เอเอสแอล | 41,936 | 14.53 | 19.8 | 1 |
ดาโอ | 42,040 | 7.07 | 21 | 2.5 |
กรุงศรี | 43,561 | 7.03 | 22 | 1 |
ทรีนีตี้ | 39,724 | 3.50 | 21.6 | 0.6 |
KBANK | กรุงศรี | 49,490 | 8.33 | 155 | 10 |
ทรีนีตี้ | 45,868 | 6.70 | 155 | 14 |
ฟิลลิป | 49,700 | 4.85 | 146 | 2 |
เมย์แบงก์ฯ | 46,821 | 4.00 | 155 | 10 |
เอเอสแอล | 45,024 | 2.52 | 145 | 3 |
คิงส์ฟอร์ด | 45,131 | 0.25 | 154 | ไม่เปลี่ยนแปลง |
TTB | ทรีนีตี้ | 21,053 | ไม่เปลี่ยนแปลง | 2.16 | 0.06 |
กรุงศรี | 20,541 | ไม่เปลี่ยนแปลง | 2.3 | 0.1 |
หมายเหตุ : เฉพาะข้อมูลที่มีการอัปเดทหลังการประกาศงบ Q2/67 |
*** KKP ถูกหั่นเป้ากำไรลงมากที่สุดถึง 31.80%
ธนาคารเกียรตินาคินภัทร (KKP) เป็นหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่ถูกโบรกเกอร์ปรับลดคาดการณ์กำไรสุทธิปี 67 ลงจากเดิมมากที่สุดระหว่าง 13.36 - 31.80% เหลือ 3,764 - 4,791 ล้านบาท ชะลอตัว 11.97 - 30.84% จากปีก่อน
ส่วน ราคาเหมาะสมถูกปรับลงจากเดิมอีก 4 - 15 บาท/หุ้น เหลือ 37 - 46 บาท/หุ้น เนื่องจากกำไรสุทธิไตรมาส 2/67 อ่อนแอกว่าตลาดคาด อีกทั้ง KKP ยังต้องเผชิญความท้าทายจากตลาดสินเชื่อเช่าซื้อที่ชะลอตัวลง และคุณภาพสินเชื่อที่อ่อนแอลงด้วย ประกอบกับ ภาวะตลาดทุนที่ไม่เอื้ออำนวยยิ่งกดดันรายได้จากฝั่งตลาดทุนด้วย
โดยข้อมูลล่าสุด มีนักวิเคราะห์ 9 ราย ที่ออกบทวิเคราะห์หุ้น KKP และได้มีการปรับประมาณการกำไรสุทธิ และราคาเหมาะสมลงจากเดิม ซึ่งส่วนใหญ่ 4 ราย ให้คำแนะนำการลงทุนหุ้น KKP เพียงแค่ "ถือ" เท่านั้น ขณะที่ อีก 3 ราย ยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" และอีก 2 ราย ลดคำแนะนำลงเป็น "ขาย" แล้ว
*** SCB - TISCO - BBL กอดคอโดนหั่นกำไรตาม
นอกจากนี้ ยังมีธนาคารพาณิชย์อีก 3 แห่ง ที่ถูกนักวิเคราะห์ปรับลดคาดการณ์กำไรสุทธิปี 67 และราคาเหมาะสมลง นำโดย บมจ.เอสซีบี เอกซ์ (SCB) ที่ถูกปรับลดคาดการณ์กำไรปีนี้ลงจากเดิมอีก 3.53 - 11.59% เหลือ 39,587 - 43,679 ล้านบาท หดตัว 9.09 - เติบโตขึ้น 0.36% จากปีก่อน
ขณะที่ ราคาเหมาะสมของ SCB ถูกปรับลงจากเดิม 3.5 - 15 บาท/หุ้น เหลือ 100 - 118 บาท/หุ้น เนื่องจากกำไรสุทธิต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ 6% หลัง Credit cost สูงกว่าคาด หลังมีการตั้งสำรองหนี้สูญ (ECL) ล่วงหน้าให้กับลูกหนี้รายใหญ่ประมาณ 800 ล้านบาท รวมถึงการก่อตัวหนี้เสีย (NPL) ลูกค้ารายย่อย และมีผลของการตั้งด้อยค่าให้กับการยุติ ROBINHOOD อีกราว 800 ล้านบาท
สำหรับข้อมูลล่าสุด มีนักวิเคราะห์ 7 ราย ที่ออกบทวิเคราะห์หุ้น SCB และได้มีการปรับประมาณการกำไรสุทธิ และราคาเหมาะสมลงจากเดิม ซึ่งส่วนใหญ่ 4 ราย ให้คำแนะนำการลงทุนหุ้น KKP เพียงแค่ "ถือ" เท่านั้น ขณะที่ อีก 2 ราย ยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" และอีก 1 ราย ลดคำแนะนำลงเป็น "ขาย" แล้ว
ด้าน บมจ.ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป (TISCO) ถูกปรับลดคาดการณ์กำไรปีนี้ลงจากเดิมอีก 3.02 - 4.66% เหลือ 6,625 - 7,093 ล้านบาท หดตัว 2.84 - 9.25% จากปีก่อน ขณะที่ ราคาเหมาะสมถูกลดลงจากเดิมอีก 1 - 6 บาท/หุ้น เหลือ 94 - 107 บาท/หุ้น หลัง Credit cost สูงกว่าคาด
โดยข้อมูลล่าสุด มีนักวิเคราะห์ 8 ราย ที่ออกบทวิเคราะห์หุ้น TISCO และได้มีการปรับประมาณการกำไรสุทธิ และราคาเหมาะสมลงจากเดิม ซึ่งส่วนใหญ่ 6 ราย ให้คำแนะนำการลงทุนหุ้น KKP เพียงแค่ "ถือ" เท่านั้น ส่วน อีก 2 ราย ยังคงคำแนะนำ "ซื้อ"
ฟาก ธนาคารกรุงเทพ (BBL) ถูกปรับลดคาดการณ์กำไรปีนี้ลงจากเดิมอีก 0.77 - 3.75% เหลือ 41,531 - 43,524 ล้านบาท หดตัว 0.24% - เติบโต 4.53% จากปีก่อน ขณะที่ ราคาเหมาะสมถูกลดลงจากเดิมอีก 5 - 6 บาท/หุ้น เหลือ 157 - 180 บาท/หุ้น หลังโบรกเกอร์คาดการณ์ผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังจะอ่อนแอลงจากครึ่งปีแรก เพราะกำไรครึ่งปีแรกส่วนใหญ่เกิดจากการวัดมูลค่าการลงทุน อีกทั้งไตรมาส 4/67 อาจมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานตามฤดูกาลอีกด้วย
ซึ่งข้อมูลล่าสุด มีนักวิเคราะห์ 4 ราย ที่ออกบทวิเคราะห์หุ้น BBL และได้มีการปรับประมาณการกำไรสุทธิ และราคาเหมาะสมลงจากเดิม ซึ่งส่วนใหญ่ 3 ราย ยังคงคำแนะนำการลงทุนหุ้น BBL เป็น "ซื้อ" เหมือนเดิม ส่วนอีก 1 ราย แนะนำเพียง "ถือ" เท่านั้น
*** KTB ถูกอัปเป้ากำไรปี 67 จากเดิมมากสุด 14%
อย่างไรก็ตาม ยังมีธนาคารพาณิชย์อีก 3 แห่ง ที่ถูกโบรกเกอร์ปรับคาดการณ์กำไรสุทธิปี 67 และราคาเหมาะสมขึ้นจากเดิม หลังประกาศงบการเงินไตรมาส 2/67 ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ก่อนหน้า นำโดย ธนาคารกรุงไทย (KTB) ที่ถูกนักวิเคราะห์ปรับคาดการณ์กำไรสุทธิปีนี้ขึ้นจากเดิม 0.29 - 14.53% เป็น 36,348 - 43,561 ล้านบาท หดตัว 0.72% - เติบโตขึ้น 18.97% จากปีก่อน
ขณะที่ ราคาเหมาะสมถูกปรับขึ้นจากเดิมอีก 0.5 - 2.5 บาท/หุ้น เป็น 19 - 22 บาท/หุ้น หลังกำไรสุทธิไตรมาส 2/67 ดีกว่าที่ตลาดคาดไว้ 5% อีกทั้งมีการควบคุมคุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้นมาติดต่อกัน 2 ไตรมาสแล้ว
โดยข้อมูลล่าสุด มีนักวิเคราะห์ 9 ราย ที่ออกบทวิเคราะห์หุ้น KTB และได้มีการปรับประมาณการกำไรสุทธิ และราคาเหมาะสมขึ้นจากเดิม ซึ่งส่วนใหญ่ 8 ราย ยังคงคำแนะนำการลงทุนหุ้น KTB เป็น "ซื้อ" เหมือนเดิม แต่มีเพียง 1 ราย เท่านั้น ที่ลดคำแนะนำการลงทุน KTB ลงเหลือแค่ "ถือ"
ด้าน ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ถูกนักวิเคราะห์ปรับคาดการณ์กำไรสุทธิปีนี้ขึ้นจากเดิม 0.25 - 8.33% เป็น 43,557 - 49,700 ล้านบาท เติบโตขึ้น 2.71 - 17.20% จากปีก่อน ขณะที่ ราคาเหมาะสมถูกปรับขึ้นจากเดิมอีก 2 - 14 บาท/หุ้น เป็น 145 - 155 บาท/หุ้น หลังกำไรสุทธิดีกว่าโบรกเกอร์คาดไว้เล็กน้อย และคุณภาพสินทรัพย์ที่แข็งแกร่งขึ้น
สำหรับข้อมูลล่าสุด มีนักวิเคราะห์ 8 ราย ที่ออกบทวิเคราะห์หุ้น KBANK และได้มีการปรับประมาณการกำไรสุทธิ และราคาเหมาะสมขึ้นจากเดิม ซึ่งส่วนใหญ่ 7 ราย ยังคงคำแนะนำการลงทุนหุ้น KBANK เป็น "ซื้อ" เหมือนเดิม แต่มีเพียง 1 ราย เท่านั้น ที่ลดคำแนะนำการลงทุน KBANK ลงเหลือแค่ "ถือ"
ฟาก ธนาคารทหารไทยธนชาต (TTB) ถูกนักวิเคราะห์ปรับคาดการณ์กำไรสุทธิปีนี้ขึ้นจากเดิม 1.75% เป็น 20,356 - 21,111 ล้านบาท เติบโตขึ้น 10.25 - 14.34% จากปีก่อน ขณะที่ ราคาเหมาะสมถูกปรับขึ้นจากเดิมอีก 0.06 - 0.1 บาท/หุ้น เป็น 1.85 - 2.3 บาท/หุ้น หลังถูกโบรกเกอร์มองว่าจะเป็นธนาคารที่ยังเติบโตได้โดดเด่นเมื่อเทียบกับกลุ่ม จากการมีสิทธิประโยชน์ทางภาษีถึงปี 2571
ส่วนข้อมูลล่าสุด มีนักวิเคราะห์ 4 ราย ที่ออกบทวิเคราะห์หุ้น TTB และได้มีการปรับประมาณการกำไรสุทธิ และราคาเหมาะสมขึ้นจากเดิม ซึ่งส่วนใหญ่ 3 ราย ยังคงคำแนะนำการลงทุนหุ้น TTB เป็น "ซื้อ" เหมือนเดิม แต่มีเพียง 1 ราย เท่านั้น ที่ลดคำแนะนำการลงทุน TTB ลงเหลือแค่ "ถือ"
*** โบรกฯผสานเสียงยก KTB หุ้น Top Picks กลุ่ม
"กรกช เสวตร์ครุตมัต" ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย มองว่า KTB เป็นหุ้น Top Picks ในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ สะท้อนจากผลการดำเนินงานครึ่งแรกของปี 67 ที่ออกมาโดดเด่นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับ NPL ที่ยังควบคุมให้สามารถทรงตัวอยู่ในระดับต่ำได้
นอกจากนี้ คาดการณ์ว่า ผลการดำเนินงานยังมีโอกาสเติบโตต่อได้ในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งคาดจะได้รับประโยชน์จากสินเชื่อภาครัฐ โดยเฉพาะการลงทุนโครงการภาครัฐที่ทยอยออกมาในช่วงดังกล่าว ทำให้มีโอกาสที่สินเชื่อจะเติบโตได้ต่อจากการให้สินเชื่อโครงการลงทุนภาครัฐ และมีมูลค่า (Valuation) ค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับหุ้นในกลุ่มเดียวกัน สะท้อนจาก P/BV ที่ 0.5 เท่า แต่มี ROE สูงเกือบ 10%
สอดคล้องกับ "ธนเดช รังษีธนานนท์" ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.พาย ที่ยกให้ KTB เป็นหุ้นธนาคารพาณิชย์ที่จะได้รับประโยชน์จากสินเชื่อที่เกี่ยวข้องกับภาครัฐเข้ามาหนุนในครึ่งปีหลัง จากการลงทุนโครงการต่าง ๆ ของภาครัฐที่จะออกมา รวมถึงได้รับประโยขน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆของภาครัฐที่จะออกมาในครึ่งปีหลังนี้
ขณะเดียวกันประเมินว่า การตั้งสำรองฯของ KTB จะลดลงในช่วงครึ่งปีหลังด้วย เพราะครึ่งปีแรกมีการควบคุมคุณภาพสินทรัพย์ไปมาก ทำให้ NPL ครึ่งปีหลังมีแนวโน้มทรงตัวได้ ซึ่งจะช่วยหนุนผลการดำเนินงานช่วงดังกล่าว อีกทั้ง Valuation ไม่แพง ประกอบกับ มีผลตอบแทนจากเงินปันผลในระดับที่น่าสนใจด้วย
เช่นเดียวกับ บทวิเคราะห์ บล.ไอร่า ที่ทิ้งท้ายว่า KTB รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/67 แข็งแกร่งกว่าที่ตลาดคาดการร์ จาก Cost to Income ปรับตัวลงสู่ระดับ 41.7% หลังรายการขาดทุนจากการด้อยค่าลดลง และ NIM เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.37% จากการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อรายย่อย
ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งหลังของปี คาดว่า ผลการดำเนินงานของ KTB มีแนวโน้มแข็งแกร่งกว่าที่คาดไว้เดิม หนุนโดย NIM อาจจะสามารถรักษาระดับเดียวกับช่วงครึ่งแรกของปี 67 ได้ เนื่องด้วย KTB หันมาเน้นสินเชื่อรายย่อยมากขึ้น และสินเชื่อภาครัฐมีแนวโน้มเติบโต จากการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล