พบ 23 หุ้น กำไรโต 3 ปีซ้อน แถมเทรด P/E ต่ำ

พบ 23 บริษัท กำไรปี 63 - 65 โตต่อเนื่อง 3 ปีซ้อน อีกทั้งยังเทรด P/E ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง - กลุ่ม มีถึง 5 บจ. กำไรช่วงดังกล่าวโตเฉลี่ยเกิน 100% แถมยังมีอีก 7 บจ. ที่งบ H1/66 ยังโต YoY ต่อเนื่อง สูงสุดถึง 120% ส่องอัพไซด์ พบสูงสุดถึง 69%  

*** 23 บจ. กำไรปี 63 - 65 โตต่อเนื่อง - เทรด P/E ต่ำ

"สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" สำรวจข้อมูลผ่านโปรแกรม SETSMART และ Efin Stock Pick up ณ วันที่ 12 ก.ย.66 พบว่า มีบริษัทจดทะเบียน (บจ.) จำนวน 23 แห่ง สามารถสร้างการเติบโตให้กำไรสุทธิในช่วงปี 63 - 65 ได้อย่างต่อเนื่อง 

นอกจากนี้ 23 บริษัทดังกล่าว ยังซื้อขายบนอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรต่อหุ้น (P/E) ที่ค่อนข้างถูก สะท้อนจากค่า P/E ที่ซื้อขาย ณ ปัจจุบัน อยู่ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 3 ปีที่ผ่านมา และยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม อีกด้วย
 

23 บริษัทดังกล่าว ส่วนใหญ่เป็นหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) จำนวน 16 บริษัท และเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) จำนวน 7 บริษัท 

โดยกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ติดโผมากที่สุด จำนวน 3 บริษัท รองลงมา คือ กลุ่มธุรกิจเงินทุนและหลักทรัพย์, บริการ, พลังงานและสาธารณูปโภค, พาณิชย์ และสินค้าอุตสาหกรรม ที่ติดโผจำนวน 2 บริษัท เท่ากัน 

*** 5 บจ. กำไรปี 63 - 65 โตเฉลี่ยมากกว่า 100%

ทั้งนี้ มีถึง 5 บริษัท จาก 23 บริษัท ที่สามารถสร้างการเติบโตให้กำไรสุทธิช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เฉลี่ยมากกว่า 100%

บมจ.เอ็น. ซี. เฮ้าส์ซิ่ง (NCH) เป็นบริษัทที่กำไรสุทธิช่วงปี 63 - 65 เติบโตเฉลี่ยสูงสุดถึง 195.57% โดยในช่วงดังกล่าว NCH มีกำไรสุทธิอยู่ในกรอบ 115.28 - 349.38 ล้านบาท ขณะที่ ณ ปัจจุบัน NCH ซื้อขายบน P/E ระดับ 5.49 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 3 ปีที่ผ่านมา และต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม ที่อยู่ในระดับ 11.66 เท่า และ 21.79 เท่า ตามลำดับ 

รองลงมา คือ บมจ.ไวส์ โลจิสติกส์ (WICE) ที่ช่วงดังกล่าว มีกำไรสุทธิ 201.08 - 554.06 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ย 131.42% ขณะที่ ณ ปัจจุบัน WICE ซื้อขายบน P/E ระดับ 16.01 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 3 ปีที่ผ่านมา และต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม ที่อยู่ในระดับ 20.44 เท่า และ 166.6 เท่า ตามลำดับ 

ด้าน บมจ.พี.ซี.เอส.แมชีน กรุ๊ปโฮลดิ้ง (PCSGH) ช่วงดังกล่าว มีกำไรสุทธิ 253.79 - 664.12 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ย 121.54% ขณะที่ ณ ปัจจุบัน PCSGH ซื้อขายบน P/E ระดับ 10.66 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 3 ปีที่ผ่านมา และต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม ที่อยู่ในระดับ 30.81 เท่า และ 23.47 เท่า ตามลำดับ 

ฟาก บมจ.โซนิค อินเตอร์เฟรท (SONIC) ช่วงดังกล่าว มีกำไรสุทธิ 59.84 - 307.59 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ย 114.18% ขณะที่ ณ ปัจจุบัน SONIC ซื้อขายบน P/E ระดับ 9.59 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 3 ปีที่ผ่านมา และต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม ที่อยู่ในระดับ 14.33 เท่า และ 69.34 เท่า ตามลำดับ 

ส่วน บมจ.ทีพีไอ โพลีน (TPIPL) ช่วงดังกล่าว มีกำไรสุทธิ 1,498.15 - 7,007.61 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ย 103.2% ขณะที่ ณ ปัจจุบัน TPIPL ซื้อขายบน P/E ระดับ 6.36 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 3 ปีที่ผ่านมา และต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม ที่อยู่ในระดับ 10.10 เท่า และ 16.42 เท่า ตามลำดับ 

*** พบอีก 7 บริษัท กำไร H1/66 โตจากปีก่อน

ขณะเดียวกัน เมื่อพิจารณางบการเงินครึ่งแรกของปี 66 (H1/66) พบว่า มี 7 บริษัท ที่กำไรสุทธิช่วงดังกล่าว เติบโตขึ้นจากปีก่อน ระหว่า 1.06 - 120.14% จากปีก่อน ประกอบด้วย 
 

7 บริษัทดังกล่าว ส่วนใหญ่เป็นหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) จำนวน 6 บริษัท และเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) จำนวน 1 บริษัท โดยส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร จำนวน 3 บริษัท 

*** มีถึง 4 บริษัท งบ H1/66 โต YoY เกิน 10%

4 จาก 7 บริษัทดังกล่าว กำไรสุทธิครึ่งแรกปี 66 เติบโตขึ้นจากปีก่อนมากกว่า 10% โดย บมจ.ซิมโฟนี่ คอมมูนิเคชั่น (SYMC) เป็นบริษัทที่กำไรครึ่งแรกของปี 66 เติบโตสูงสุดถึง 120.14% จากปีก่อน หลังช่วงดังกล่าว มีกำไรสุทธิ 174.20 ล้านบาท 

รองลงมา คือ บมจ.อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น (ILINK) ที่ครึ่งปีแรก มีกำไรสุทธิ 246.35 ล้านบาท เติบโตขึ้น 39.83% จากปีก่อน, บมจ.คอมเซเว่น (COM7) ครึ่งปีแรก มีกำไรสุทธิ 1,577.82 ล้านบาท เติบโตขึ้น 12.43% จากปีก่อน และ บมจ.บิซิเนส ออนไลน์ (BOL) ที่ครึ่งปีแรกมีกำไรสุทธิ 153.49 ล้านบาท เติบโตขึ้น 10.41% จากปีก่อน 

*** พบอีก 9 บจ. มีอัพไซด์ระหว่าง 7 - 69%

ทั้งนี้ มี 9 บริษัท ที่ราคาหุ้นที่ซื้อขาย ณ ปัจจุบัน มีอัพไซด์มากกว่า 10% โดย บมจ.เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง (ASK) มีอัพไซด์สูงสุด ระหว่าง 58 - 69% หลังถูกนักวิเคราะห์จาก IAA Consensus ประเมินราคาเหมาะสมไว้ที่ 41 - 44 บาท/หุ้น 

นอกจากนี้ มีอีก 4 บริษัท ที่อัพไซด์มากกว่า 30% ประกอบด้วย บมจ.อินเตอร์ ฟาร์มา (IP) มีอัพไซด์ 52 - 64%, บมจ.ทีพีไอ โพลีน (TPIPL) มีอัพไซด์ 45 - 61%, บมจ.เอสวีไอ (SVI) มีอัพไซด์ 13 - 38% และ บมจ.ที.เอ.ซี. คอนซูเมอร์ (TACC) มีอัพไซด์ 33%