เช้านี้ SPRC บวกสูงสุด 5.95% รับปัจจัยหนุนซาอุฯส่งสัญญาณลดราคาน้ำมันตลาดเอเชียเดือน ก.ค. คาดหนุนกำไรกลั่นพุ่ง แต่โบรกฯเตือนระวังงบ Q2/66 อาจสะดุดชั่วคราว เหตุความต้องการใช้ลดตามปัจจัยฤดูกาล แต่คาดจะฟื้นตัวอีกครั้งช่วง H2/66 มอง Valuation หุ้นยังน่าสนใจ แถมอัพไซด์ยังเหลือเพียบ !

*** บวกสูงสุด 5.95% รับกำไรค่ากลั่นจ่อพุ่ง 

ราคาหุ้น บมจ.สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง (SPRC) ช่วงเช้าวันนี้ (2 มิ.ย.66) ดีดขึ้นทำจุดสูงสุดที่ราคา 8.9 บาท เพิ่มขึ้น 5.95% จากวันทำการก่อนหน้า ก่อนปิดซื้อขายภาคเช้าด้วยราคา 8.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.35 บาท หรือ 4.17% มีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น 97.13% จาก 5 วันทำการก่อนหน้า

สาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้น SPRC เช้านี้ ปรับตัวขึ้นสูงสุด 5.95% เนื่องจากกำลังได้รับ Sentiment เชิงบวก หลังประเทศซาอุดิอาระเบีย ส่งสัญญาณปรับลดราคาน้ำมันในตลาดเอเชีย ช่วงเดือน ก.ค.ที่จะถึงนี้  โดยปัจจัยดังกล่าว ทำให้นักวิเคราะห์คาการณ์ว่า จะทำให้ SPRC มีกำไรจากค่าการกลั่นเพิ่มขึ้น 10 – 20%

*** แต่โบรกฯเตือนกำไร Q2/66 อาจไม่สวย

บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หยวนต้า (ประเทศไทย) ประเมินผลการดำเนินงานไตรมาส 2/66 ของ SPRC มีแนวโน้มลดลงทั้งเทียบปีก่อน (YoY) และไตรมาสก่อน (QoQ) เนื่องจากตลาดน้ำมันสำเร็จรูป โดยเฉพาะ Middle Distillate ซึ่งเป็นน้ำมันเชิงพาณิชย์ ได้รับ Sentiment ลบ จากเศรษฐกิจโลกมีสัญญาณชะลอตัว 

นอกจากนี้ ความต้องการใช้น้ำมันในช่วงดังกล่าวยังลดลงตามปัจจัยฤดูกาล สวนทางอุปทานในตลาดโลกเพิ่มขึ้นจากโรงกลั่นใหม่, อุปทานจากประเทศรัสเซีย และโควตาส่งออกน้ำมันรอบใหม่จากจีน ส่งผลให้ Crack Spread น้ำมันดีเซล และ น้ำมันอากาศยาน ตั้งแต่ต้นไตรมาส 2/66 (QTD) อยู่ที่ 12.5 เหรียญ/บาร์เรล (ลดลง 71% จากปีก่อน และลดลง 51% จากไตรมาสก่อน) และ 13 เหรียญ/บาร์เรล (ลดลง 67% จากปีก่อน และลดลง 51% จากไตรมาสก่อน) ตามลำดับ

สอดคล้องกับ บล.ดาโอ (ประเทศไทย) ที่มองว่า กำไรสุทธิไตรมาส 2/66 ของ SPRC มีแนวโน้มชะลอตัวลงทั้ง YoY และ QoQ เนื่องจากแนวโน้ม Crack Spread อ่อนตัว โดย Gasoline crack QTD เฉลี่ยอยู่ที่ 15.5 เหรียญ/บาร์เรล เทียบปีก่อนอยู่ที่ระดับ 18.7 เหรียญ/บาร์เรล

ขณะที่ diesel crack QTD อยู่ที่ 13.5 เหรียญ/บาร์เรล เทียบปีก่อนอยู่ที่ระดับ 25.2 เหรียญ/บาร์เรล อีกทั้ง Refinery Intake ต่ำลงอยู่ที่ระดับ 155 – 160 kbd ตามแนวทางของบริษัท และ Stock loss ที่เป็นไปได้

*** Crack Spread ฟื้น H2/66 ดันงบกระเตื้อง 

บล.ดาโอ (ประเทศไทย) คาดการณ์ว่า Crack Spread จะกลับมาฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 66 (H2/66) หนุนให้กำไรของ SPRC กลับมาฟื้นตัวได้ด้วย หนุนจากอุปสงค์ของผลิตภัณฑ์ Gasoline ที่สูงขึ้นในช่วงฤดูขับรถของสหรัฐฯ และ Diesel Crack ที่สูงขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน และปริมาณน้ำมันคงคลังอยู่ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยหนุนจากอุปสงค์ของผลิตภัณฑ์ Jet Fuel ที่ฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง สะท้อนจากจำนวนเที่ยวบินทั่วโลกที่มีแนวโน้มสูงขึ้น ประกอบกับ อาจเห็น Stock Gain ที่เป็นไปได้ ตามแนวโน้มราคาน้ำมันดิบโลกปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้กำไรสุทธิปี 66 จะอยู่ที่ 4.2 พันล้านบาท ชะลอตัวลง 44% จากปีก่อน 

*** โบรกฯชี้ยังมีลุ้นงบพลิกโตอีกครั้งปี 67

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ประเมินว่า กำไรสุทธิของ SPRC มีแนวโน้มพลิกกลับมาเติบโตอีกครั้งในปี 67 โดยประเมินกำไรสุทธิช่วงดังกล่าวไว้ที่ 5 พันล้านบาท เติบโตขึ้น 38% จากปีก่อน มีปัจจัยหนุนหลัก ๆ จากดีลซื้อกิจการของเชฟรอน (ประเทศไทย) ภายใต้ธุรกิจค้าปลีกน้ำมันแบรนด์คาลเท็กซ์

รวมถึง ยังถือครองหุ้นในท่องส่งน้ำมัน และบริษัทบริการเชื้อเพลิงการบิน ซึ่งดีลนี้ไม่เพียงช่วยเพิ่มกำไรเท่านั้น  แต่ยังสามารถสร้างกระแสรายได้ที่มีความมั่นคงให้ SPRC ได้ด้วย 

นอกจากนี้ ยังคาดว่า SPRC จะแก้ปัญหาน้ำมันดิบรั่วไหลเสร็จภายในสินปีนี้ ซึ่งจากปัญหาดังกล่าว ทำให้ SPRC มีต้นทุนการขนส่งน้ำมันเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า ประมาณ 4 เหรียญ/บาร์เรล (เดิม 2 เหรียญ/บาร์เรล) ซึ่งหลังจากปัญหานี้จบลงจะทำให้ SPRC รับรู้ค่าการกลั่นเพิ่มขึ้น 2 เหรียญ/บาร์เรล

ขณะที่ นักวิเคราะห์อีก 2 ราย ประเมินกำไรสุทธิปี 67 ของ SPRC ดังนี้
 

*** กูรูมอง Valuation หุ้นยังน่าสนใจ

บล.ดาโอ (ประเทศไทย) มองว่า มูลค่า (Valuation) หุ้น SPRC ที่ซื้อขาย ณ ปัจจุบัน ยังมีความน่าสนใจ สะท้อนจากราคาหุ้น 6 เดือน ที่ผ่านมา Underperform ดัชนีหุ้นไทย (SET Index) ราว 18% ตามแนวโน้ม Crack Spread ปรับตัวสู่ระดับปกติมากขึ้น ทำให้ SPRC เทรดบน PBV ปี 66 ที่ 0.98 เท่า ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี

อีกทั้ง คาดว่า ผลการดำเนินงานครึ่งหลังของปี 66 มีแนวโน้มจะฟื้นตัวได้ จึงทำให้เรายังคงคำแนะนำการลงทุนในหุ้น SPRC เป็น ซื้อ เช่นเดิม

สอดคล้องกับ บล.พาย ที่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ยังคงแนะนำซื้อ SPRC เนื่องจาก PBV ปี 66 ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี และสะท้อนถึงการปรับลดลงของอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) แม้กำไรสุทธิปี 66 จะชะลอตัวลงจากปีก่อน แต่ควรมองว่าเป็นการกลับสู่ระดับปกติจากฐานกำไรปีก่อนอยู่ในระดับสูงผิดปกติ

นอกจากนี้ SPRC ยังมีความน่าสนใจ จากอัตราเงินปันผลตั้งแต่งวดปี 66 เป็นต้นไป ที่คาดว่าจะให้ผลตอบแทนเงินปันผล (Dividend Yield) มากกว่า 6% ขึ้นไป 

โดยนักวิเคราะห์ 2 ราย คาดการณ์เงินปันผลงวดปี 66 ของ SPRC ไว้ดังนี้
 

*** ส่วนใหญ่ยังคงแนะนำ"ซื้อ"

จากการสำรวจความคิดเห็นนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังคงแนะนำ"ซื้อ" SPRC แม้ว่าผลการดำเนินงานปี 66 จะมีแนวโน้มชะลอตัวลงจากปีก่อน แต่เป็นการกลับสู่ระดับปกติ หลังฐานกำไรปี 65 สูงผิดปกติ อีกทั้ง คาดการณ์ว่า กำไรสุทธิปี 67 จะกลับมาเติบโตได้อีกครั้ง ประกอบกับ Valuation หุ้น ณ ปัจจุบัน เริ่มกลับมามีความน่าสนใจอีกครั้ง 

แม้เช้านี้ ราคาหุ้น SPRC จะปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรงกว่า 5% แต่ราคาหุ้น SPRC ที่ซื้อขาย ณ ปัจจุบัน ยังมีอัพไซด์เหลือให้นักลงทุนได้ลุ้นอยู่ถึง 27% เมื่อเทียบกับราคาเหมาะสมเฉลี่ยของนักวิเคราะห์ เพียงแต่โบรกเกอร์ส่วนใหญ่ยังเตือนให้ระมัดระวังผลการดำเนินงานไตรมาส 2/66 ที่มีแนวโน้มอ่อนแอ แต่จะฟื้นตัวได้อีกครั้งตั้งแต่ไตรมาส 3/66 เป็นต้นไป