เช้านี้ GULF บวกสูงสุด 2.42% หลังราคาน้ำมันลด – บาทแข็ง ฉุดต้นทุนลด ขณะที่โบรกฯประเมินกำไร Q4/65 จ่อพลิกทำนิวไฮ หลังโรงไฟฟ้าลมเข้าไฮซีซั่น ชี้ระยะสั้นยังมีปัจจัยหนุนราคาหุ้นอีกเพียบ ส่วนปี 66 ยังคาดกำไรโตแรง 31 - 57% หลังจ่อบุ๊ครายได้โครงการใหม่เต็มปีครั้งแรก แถมหุ้นยังมีอัพไซด์อีก 19%
*** บวกสูงสุด 2.42% หลังมีปัจจัยกดต้นทุน
ราคาหุ้น บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) ช่วงเช้าวันนี้ (24 พ.ย.65) ดีดขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ราคา 52.75 บาท เพิ่มขึ้น 2.42% จากวันทำการก่อนหน้า ก่อนปิดซื้อขายภาคเช้าด้วยราคา 52.50 บาท เพิ่มขึ้น 1 บาท หรือ 1.94% มีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น 79.78% จาก 5 วันทำการก่อนหน้า
บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟินันเซีย ไซรัส ระบุสาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้น GULF เช้านี้ ปรับตัวขึ้นสูงสุด 2.42% เนื่องจากกำลังได้รับ Sentiment เชิงบวก จากราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง อีกทั้งเงินบาทยังเคลื่อนไหวแข็งค่าขึ้น เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน
*** Q4/65 โรงลมเข้าไฮซีซั่น ดันกำไรนิวไฮ
บล.เอเซีย พลัส ประเมินว่า กำไรปกติไตรมาส 4/65 ของ GULF มีแนวโน้มกลับมาทำสถิติกำไรปกติสูงสุดใหม่ (นิวไฮ) ได้อีกครั้ง โดยมีปัจจัยหนุนจากการเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของฤดูกาลลมในประเทศเยอรมณี ส่งผลให้โรงไฟฟ้าพลังงานลม BRK2 และกลุ่มโรงไฟฟ้า GULF – GUNKUL มีผลการดำเนินงานเติบโตขึ้นจากไตรมาสก่อน
อีกทั้ง ยังมีการรับรู้รายได้จากโครงการ GSRC phase4 ที่มีขนาดกำลังการผลิต 463.8 เมกะวัตต์ ที่เริ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ตั้งแต่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมา เข้ามาเป็นไตรมาสแรก นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยหนุนจากการปรับขึ้นค่าไฟฟ้า (Ft) งวดเดือน ก.ย. – ธ.ค.เต็มไตรมาส อีกด้วย
สอดคล้องกับ บล.โนมูระ พัฒนสิน ที่ประเมินว่า กำไรปกติไตรมาส 4/65 ของ GULF มีแนวโน้มเติบโตขึ้นทั้งเทียบปีก่อน และไตรมาสก่อน มีปัจจัยหนุนจากรายได้ค่าความพร้อมจ่าย (AP) ที่เพิ่มขึ้นของโรงไฟฟ้า GSRC ที่ COD ครบ 4 unit ขนาด 1.8 พันเมกะวัตต์ เทียบปีก่อน COD แค่ 2 unit ขนาดกำลังการผลิต 928 เมกะวัตต์
ขณะที่ กำไรของโรงไฟฟ้า BKR2 จะเพิ่มขึ้นตามค่าไฟฟ้าของตลาดกลาง อีกทั้งยังมีส่วนแบ่งกำไรจาก GGC (GULF – GUNKUL JV) มาหนุน ส่วนการเติบโตขึ้นจากไตรมาสก่อน มีปัจจัยหนุนจาก รายได้ค่า AP ของโรงไฟฟ้า GSRC เพิ่มขึ้น ตามการ COD อีก 1 unit อีกทั้ง GPM การขายไฟ IU ยังเพิ่มขึ้น หลังรับรู้การปรับขึ้นค่า Ft เต็มไตรมาส และกำไรโรงไฟฟ้า BRK2 เข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น
*** กูรูชี้ Q4/65 ยังมีประเด็นเก็งกำไรราคาหุ้น
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า ในช่วงไตรมาส 4/65 ยังมี 3 ประเด็นหลัก ที่สามารถเก็งกำไรราคาหุ้น GULF ได้ คือ 1.การยื่นข้อเสนอขายไฟฟ้าให้กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ตามแผนรับซื้อที่ 5.2 GW, 2.การเปิดแผนลงทุน Data Center และ 3.การเข้าลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในทวีปยุโรปเพิ่มเติม
เช่นเดียวกับ บล.โนมูระ พัฒนสิน ที่ระบุว่า นักลงทุนยังสามารถซื้อหุ้น GULF เพื่อเก็งกำไร จากความคืบหน้าโครงการโรงไฟฟ้าในทวีปยุโรปที่อาจเกิดขึ้นในช่วงไตรมาส 4/65 และการฟื้นตัวของกำไรไตรมาส 4/65 รวมถึงโรงไฟฟ้า Jackson และการทยอย COD โรงไฟฟ้า GPD ที่จะเข้ามาช่วยหนุนผลการดำเนินงาน ตั้งแต่ปี 66 เป็นต้นไป
*** ส่องกำไรปี 66 คาดโตระหว่าง 31 - 57%
บล.พาย ประเมินกำไรสุทธิปี 66 ของ GULF ไว้ที่ 1.8 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้น 31% จากปีก่อน มีปัจจัยหนุนจากการรับรู้กำไรเต็มปีครั้งแรกของโครงการขนาด 1.5 GW (Jackson Generation และ GSRC) ที่เริ่ม COD ตั้งแต่ปี 65
สอดคล้องกับ เป้าหมายการเติบโตของ GULF ที่คาดหมายการเติบโตของรายได้ปี 66 ไว้ที่ 30% มีปัจจัยหนุนจากการรับรู้รายได้โรงไฟฟ้า GDP unit 1 – 2 เข้ามารวมกันกว่า 1.3 พันเมกะวัตต์, การรับรู้โครงการ GSRC Unit 3 – 4 ขนาด 1.3 เมกะวัตต์ และ GGC ขนาด 170 เมกะวัตต์เต็มปี และ โรงไฟฟ้า Jackson ขนาด 1.2 พันเมกะวัตต์ ตั้งแต่ไตรมาส 1/66
นอกจากนี้ ยังมีโครงการซื้อกิจการ (M&A) ทั้งในประเทศไทย, ทวีปยุโป, เอเชีย และสหรัฐฯ อีกทั้ง ยังมีอัพไซด์จากโครงการอื่น ๆ นอกเหนือจากนี้ ที่จะเป็นโครงการเข้ามาใหม่ในปี 66 อีกด้วย
ขณะที่ นักวิเคราะห์อีก 2 ราย ประเมินกำไรสุทธิปี 66 ของ GULF ไว้ดังนี้
บล. | กำไรสุทธิปี 66 (ลบ.) | %chg YoY |
หยวนต้า | 18,900 | 57 |
เอเชีย พลัส | 17,562 | 42 |
*** กูรูชี้กำไรระยะยาว เติบโตอย่างมั่นคง
บล.โนมูระ พัฒนสิน มองว่า ปัจจัยทางพื้นฐานของ GULF ยังมีความแข็งแกร่ง สะท้อนจากกำไรปกติปี 66 – 67 ที่มีแนวโน้มเติบโตเฉลี่ย 38% ต่อปี โดยมีปัจจัยหนุนจากความสามารถในการเพิ่มกำลังผลิตใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าตั้งแต่ปี 66 – 70 ทาง GULF จะสามารถเพิ่มกำลังผลิตขึ้นได้กว่า 46%
ส่วน บล.บัวหลวง ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า นอกจากอัตราการเติบโตของกำไรปกติปี 65 – 68 ที่ยังแข็งแกร่งแล้ว เรายังเห็นอัพไซด์ต่อประมาณการปี 65 – 73 จากกำลังการผลิตโครงการพลังงานสะอาดใหม่ ๆ ที่มาจากบริษัทร่วมทุนระหว่าง GULF และ GUNKUL รวมถึงการประมูลโครงการพลังงานทดแทน PPA ขนาด 5 GW ของ กกพ.
ทั้งนี้ GULF กำลังเปลี่ยนตัวเองเป็น 1 ในผู้เล่นด้านโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า กำไรของ GULF (มีสัญญารองรับแล้ว) มีโอกาสปรับตัวขึ้นไปอยู่ในระดับที่สูงกว่ากำไรของ AOT และ ADVANC แต่ยังไม่เข้าสู่ช่วงชะลอตัวของการเติบโต จึงคาดว่ามูลค่าของ GULF จะขึ้นไปแตะที่ 1 ล้านล้านบาทได้ จึงยังแนะนำ"ซื้อ"
*** ส่วนใหญ่แนะนำ"ซื้อ" ชอบการเติบโต
จากการสำรวจความคิดเห็นนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังคงแนะนำ"ซื้อ" เนื่องจากมองว่าในระยะสั้นช่วงไตรมาส 4/65 กำไรปกติของ GULF จะฟื้นตัวขึ้นมาทำนิวไฮได้อีกครั้ง ขณะที่ ภาพการเติบโตในอนาคต ยังอยู่ในอัตราเร่ง สะท้อนจากการมีโครงการใหม่ ๆ เข้ามาเติมอยู่ในพอร์ตธุรกิจอยู่ตลอดเวลา
บล. | คำแนะนำ | ราคาเหมาะสม (บ.) |
บัวหลวง | ซื้อ | 68.00 |
หยวนต้า | ซื้อ | 66.00 |
เอเชีย พลัส | ซื้อ | 65.00 |
ฟินันเซียฯ | ซื้อ | 58.00 |
โนมูระฯ | ซื้อเก็งกำไร | 55.00 |
ราคาเฉลี่ย | 62.40 |
ราคาหุ้น GULF ณ ปัจจุบัน ยังเหลืออัพไซด์ให้นักลงทุนได้ลุ้นอีกราว 19% เมื่อเทียบกับราคาเหมาะสมเฉลี่ยของโบรกเกอร์ อีกทั้ง GULF ยังเป็นบริษัทที่ถูกนักวิเคราะห์มองว่า สามารถฉายภาพการเติบโตระยะยาวออกมาได้อย่างเป็นรูปธรรม สะท้อนจากการเข้าลงทุนในธุรกิจใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา และสามารถรับรู้กำไรจากธุรกิจดังกล่าวได้อย่างรวดเร็ว ยิ่งช่วยผลักดันการเติบโตให้รวดเร็วยิ่งขึ้นด้วย ...