เช้านี้ MINT บวกสูงสุด 0.75% สวน SET ที่ปิดลบ 8.26 จุด รับงบ Q1/66 จ่อโต YoY แม้โรงแรมเข้าโลว์ซีซั่น แต่ได้ร้านอาหารหนุน โบรกฯมองงบ Q2/66 กลับมาโตทั้ง YoY – QoQ หลังยุโรปเข้าไฮซีซั่น – รับอานิสงส์ไทยเปิดประเทศเต็มที่ หนุนต้องอัพเป้ากำไร คาดปีนี้โตแรง 50 - 65%
*** เช้านี้บวกสวน SET หลังคาดงบกำลังฟื้น
ราคาหุ้น บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) เช้านี้ (8 มี.ค.66) ดีดทำจุดสูงสุดที่ราคา 33.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.75% จากวันทำการก่อนหน้า ก่อนปิดซื้อขายภาคเช้าด้วยราคาดังกล่าว มีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น 82.03% จาก 5 วันทำการก่อนหน้า
สาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้น MINT เช้านี้ ปรับตัวขึ้นสูงสุด 0.75% สวนทางดัชนีหุ้นไทย (SET index) ที่ปิดซื้อขายภาคเช้าลบ 8.26 จุด หรือ -0.51% เนื่องจากกำลังได้รับ Sentiment เชิงบวก หลังถูกนักวิเคราะห์ในตลาดส่วนใหญ่ มองว่า ผลการดำเนินงานกำลังเข้าสู่ช่วงฟื้นตัว ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนเฉพาะตัว ในช่วงตลาดหุ้นขาลง
*** Q1/66 แม้โรงแรมโลว์ซีซั่น แต่คาดกำไรยังโต
บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หยวนต้า (ประเทศไทย) ประเมินว่า กำไรสุทธิไตรมาส 1/66 ของ MINT ยังมีแนวโน้มเติบโตขึ้นจากปีก่อน แม้จะเป็นช่วงโลว์ซีซั่นของธุรกิจโรงแรมก็ตาม อย่างไรก็ตาม ฐานกำไรปีก่อนของ MINT อยู่ในระดับต่ำ จากการแพร่ระบาดโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน
ขณะที่ ผลการดำเนินงานปีนี้ ยังได้แรงหนุนจากอัตราการเติบโตยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ของธุรกิจร้านอาหารในประเทศจีน ฟื้นตัวกลับสู่ระดับเกือบปกติ หลังมีการยกเลิกมาตรการ Zero Covid แต่ถ้าเทียบกับไตรมาสก่อน คาดกำไรจะชะลอตัวลงเล็กน้อย หลังโรงแรมในทวีปยุโรปเข้าสู่ช่วงโลว์ซีซั่น
สอดคล้องกับ บล.ทรีนีตี้ ที่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า กำไรสุทธิไตรมาส 1/66 ของ MINT มีแนวโน้มอยู่ในระดับสูงกว่าไตรมาส 1 ของหลาย ๆ ปีที่ผ่านมา โดยมีปัจจัยหนุน จากธุรกิจร้านอาหารมีแนวโน้มฟื้นตัวโดดเด่น หลังประเทศจีนยกเลิกมาตรการ Zero Covid
*** ลุ้นกำไร Q2/66 กลับมาโต YoY – QoQ
บล.เอเซีย พลัส ประเมินว่า กำไรสุทธิไตรมาส 2/66 ของ MINT มีแนวโน้มกลับมาเติบโตขึ้นทั้งเทียบปีก่อน (YoY) และไตรมาสก่อน (QoQ) ได้อีกครั้ง หนุนโดยการได้รับอานิสงส์จากการเปิดประเทศเต็มที่ และการกลับเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจในทวีปยุโรปอีกครั้ง
*** ธุรกิจฟื้นไวกว่าคาด หนุนโบรกฯอัพเป้ากำไร
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า ได้ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 66 ของ MINT ขึ้นจากเดิมอีก 16% เป็น 6.4 พันล้านบาท เติบโตขึ้น 50% จากปีก่อน เพื่อให้สอดรับกับผลการดำเนินงานช่วงครึ่งหลังของปี 65 ที่ฟื้นตัวได้เร็วกว่าคาด อีกทั้ง การควบคุมต้นทุนการดำเนินงาน, ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารยังทำได้ดีต่อเนื่อง
สอดคล้องกับ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ที่ปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 66 ของ MINT จากเดิมอีก 28% เป็น 7 พันล้านบาท เติบโตขึ้น 65% จากปีก่อน เพื่อให้สอดรับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น โดยปรับคาดการณ์ EBITDA margin ขึ้นอีก 0.1 ppt สะท้อนต้นทุนก๊าซที่ลดลงในทวีปยุโรป และปรับอัตราภาษีลดลงเหลือ 10% (เดิม 20%) เนื่องจากคาดว่า MINT จะใช้เครดิตภาษีบางส่วนที่ยกยอดมา
*** สถานะการเงินแกร่งขึ้น หลังพลิกกำไร
บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุว่า สถานะการเงินของ MINT เริ่มแข็งแกร่งขึ้น หลังกลับมารายงานกำไรรายไตรมาสได้ โดยหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้นรวม (IBD/E) ณ สิ้นปี 65 อยู่ที่ระดับ 1.17 เท่า ซึ่งยังเป็นระดับที่ต่ำกว่า debt covenant ที่ 1.75 เท่า โดยคาด IBD/E ของ MINT จะลดลงเรื่อย ๆ หลังจากนี้ ตามการกลับมารายงานกำไร
จากสถานะการเงินที่แข็งแกร่งขึ้น ทำให้ MINT ตั้งงบลงทุนปี 66 – 67 ไว้ที่ 1 – 1.3 หมื่นล้านบาท สูงกว่าปีก่อนที่อยู่ในระดับ 6.4 พันล้านบาท ซึ่งจะเน้นไปที่การขยายโรงแรมในรูปแบบรับจ้างบริหาร (light asset) เป็นหลัก
*** กูรูชี้ Valuation หุ้นยังน่าสนใจ
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า มูลค่า (Valuation) ของหุ้น MINT ที่ซื้อขาย ณ ปัจจุบัน ยังมีความน่าสนใจ สะท้อนจากหุ้นซื้อขายบน EV/EBITDA ปี 66 ที่ระดับ 8 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง สะท้อนว่าหุ้นยังไม่แพงในยุคหลังการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่กำไรปกติ มีแนวโน้มทำได้ดีกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตแล้ว
ขณะที่ บล.เอเซีย พลัส เสริมว่า ยังคงแนะนำซื้อ MINT จากผลการดำเนินงานปีนี้ที่มีแนวโน้มฟื้นตัวเด่น สวนทางกับการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นที่ยังค่อนข้าง Laggard หุ้นในกลุ่มเดียวกัน เพราะราคาหุ้น MINT ตั้งแต่ต้นปี (YTD) ปรับตัวขึ้นเพียง 3% เท่านั้น ขณะที่ CENTEL และ ERW ปรับตัวขึ้นราว 11% และ 9% ตามลำดับ
ส่วน บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุว่า ยังเลือก MINT เป็น Top Pickในกลุ่มท่องเที่ยว เนื่องจากซื้อขายบน P/E ปี 66 ที่ระดับ 26.6 เท่า และมีการฟื้นตัวที่โดดเด่นของธุรกิจโรงแรมในทวีปยุโรป ซึ่งมีสัดส่วนประมาณครึ่งหนึ่งของรายได้ทั้งหมด
*** ส่วนใหญ่ยังแนะนำ"ซื้อ"
จากการสำรวจความคิดเห็นนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังคงแนะนำซื้อ เนื่องจากมองว่า ผลการดำเนินงานปี 66 ของ MINT ยังมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องจากปีก่อน หลังการแพร่ระบาดโควิด-19 คลี่คลาย ขณะที่ มูลค่าหุ้น ยังค่อนข้าง Laggard กลุ่ม และยังไม่ได้สะท้อนการฟื้นตัวที่โดดเด่นของผลการดำเนินงานในปีนี้
บล. | คำแนะนำ | ราคาเหมาะสม (บ.) |
เมย์แบงก์ฯ | ซื้อ | 44.60 |
หยวนต้า | ซื้อ | 43.50 |
ทรีนีตี้ | ซื้อ | 40.50 |
ฟินันเซียฯ | ซื้อ | 40.00 |
เอเชีย พลัส | ซื้อ | 38.00 |
ราคาเฉลี่ย | 41.32 |
หากอ้างอิงจากราคาเหมาะสมเฉลี่ยของนักวิเคราะห์ จะทำให้ราคาหุ้น MINT ที่ซื้อขาย ณ ปัจจุบัน เหลืออัพไซด์ให้นักลงทุนได้ลุ้นอีกราว 18% ขณะที่ การประเมินจากโบรกเกอร์ คาดว่า ผลการดำเนินงานของ MINT จะกลับมาเร่งตัวอย่างมีนัยสำคัญ ตั้งแต่ไตรมาส 2/66 เป็นต้นไป เพราะเป็นจุดเริ่มต้นของช่วงไฮซีซั่นในทวีปยุโรป และ การฟื้นตัวเต็มที่ในประเทศไทย ...