เช้านี้ CPALL บวกสูงสุด 3.04% รับกำไร Q4/64 ฟื้นแรง 91% หลัง SSSG พลิกบวก ขณะที่โบรกฯประเมิน Q1/65 ยังฟื้นแรงต่อเนื่อง สะท้อน SSSG ตั้งแต่ต้นปีโตแรง 10% เชื่อปีนี้ไม่มีล็อกดาวน์แม้ยอดติดเชื้อพุ่ง เหตุโอไมครอนไม่รุนแรง – ฉีดวัคซีนเป็นวงกว้างแล้ว ประเมินกำไรปีนี้พลิกโตรอบ 3 ปี ราว 24 – 43%
*** เช้านี้บวกสูงสุด 3.04% รับกำไร Q4/64 ฟื้นแรง
ราคาหุ้น บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL ช่วงเช้าวันนี้ (25 ก.พ.65) ดีดขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ราคา 67.75 บาท เพิ่มขึ้น 3.04% จากวันทำการก่อนหน้า ก่อนปิดซื้อขายภาคเช้าด้วยราคา 66.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท หรือ 2.66% มีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น 71.53% จาก 5 วันทำการก่อนหน้า
บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคทีบีเอสที ระบุสาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้น CPALL เช้านี้ปิดซื้อขายบวก2.66% เนื่องจากกำลังได้รับปัจจัยหนุน จากการประกาศงบการเงินไตรมาส 4/64 ที่มีกำไรสุทธิ 6.7 พันล้านบาท เติบโตขึ้น 91% จากปีก่อน ตามยอดขายสาขาเดิม (SSSG) พลิกกลับมาบวก 1.% จากปีก่อน หลังจำนวนผู้ใช้บริการร้านสะดวกซื้อ เพิ่มขึ้นเป็นเฉลี่ย 810 คน/วัน
*** ต้นปียังฟื้นต่อ หลัง SSSG โตกว่าโบรกฯคาด
บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/65 ของ CPALL มีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง สะท้อนจากธุรกิจร้านสะดวกซื้อ ที่ SSSG ตั้งแต่ต้นปี (YTD) พลิกกลับมาเติบโตราว 10% จากปีก่อน ดีกว่าประมาณการของเราที่คาดว่าจะเติบโตราว 7.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน สาเหตุหลักมาจากมาตรการควบคุมโควิด-19 ที่ลดความเข้มข้นลง ประกอบกับ การขยายสาขาใหม่ต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ในช่วงไตรมาส 1/65 ยังมีปัจจัยหนุนผลการดำเนินงานของ CPALL เพิ่มเติม คือ การนำเงินขายหุ้น MAKRO พร้อมช่วง PO ไปคืนหนี้สถาบันการเงิน ซึ่งจะช่วยลดภาระดอกเบี้ยจ่ายต่อไตรมาสของ CPALL ให้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
ขณะที่ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เริ่มเห็นการฟื้นตัวของผลการดำเนินงาน CPALL ในช่วงต้นปี 65 อย่างชัดเจน สะท้อนจาก SSSG ตั้งแต่ต้นปี พลิกกลับมาเติบโต 10% จากปีก่อน เนื่องจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ในปีนี้ มีความกังวลน้อยกว่าปีก่อน อีกทั้งชาวงต้นปี ยังมีมาตรการช้อปดีมีคืน ช่วยหนุนตั้งแต่ 1 ม.ค. – 15 ก.พ.ที่ผ่านมาด้วย
*** แม้ยอดติดเชื้อโควิดพุ่ง แต่โบรกฯมองไม่มีล็อกดาวน์
บล.เคทีบีเอสที ระบุว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศ กลับมาเร่งตัวอีกครั้ง ล่าสุดแตะระดับ 2 หมื่นคน/วัน หลังมีการแพร่ระบาดของสายพันธุ์โอไมครอน แต่มองว่า รัฐบาลจะไม่กลับไปใช้มาตรการล็อกดาวน์ หรือปิดประเทศ เหมือนในช่วงปี 63 และ 64 อีกแล้ว
โดยสาเหตุ ที่มองว่า รัฐบาลจะไม่กลับไปใช้มาตรการควบคุมโรคที่เข้มงวดเหมือน 2 ปีก่อน เพราะการแพร่ระบาดโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ไม่ได้มีความรุนแรงเทียบเท่าสายพันธุ์อื่นๆ ประกอบกับ ประชาชนในประเทศ มีสัดส่วนได้รับวัคซีนที่ครอบคลุมแล้ว จึงมองว่า จะมีการปรับตัว และใช้ชีวิตอยู่กับโรคดังกล่าวได้
*** อีกปัจจัยหนุนปีนี้ คือ MAKRO – Lotus’s ฟื้นแล้ว
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุว่า การแลกหุ้น Lotus’s และการขายหุ้น MAKRO จำนวน 132 ล้านหุ้น ทำให้ CPALL มีสัดส่วนการถือหุ้น MAKRO เหลือ 60% (เดิม 93%) ขณะที่ สัดส่วนการถือหุ้น Lotus’s โดยตรงลดเหลือ 0% (เดิม 40%) ทำให้ CPALL จะรับรู้รายได้จาก Lotus’s ทั้งหมดผ่าน MAKRO
ขณะที่ ผลการดำเนินงานของทั้ง MAKRO และ Lotus’s ในปีนี้ ส่งสัญญาณฟื้นตัวโดดเด่น เช่นกัน สะท้อนจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ลดความเข้มงวดลง ประกอบกับ การเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ อีกทั้งยังมีการ Synergy ธุรกิจร่วมกัน อีกด้วย
ด้าน บล.เอเซีย พลัส ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า แม้ตั้งแต่ไตรมาส 1/65 เป็นต้นไป CPALL จะถือหุ้น MAKRO ลดเหลือราว 60% เต็มไตรมาส แต่จะชดเชยจากกำไรปกติของ MAKRO ในปีนี้ ที่คาดว่าจะเติบโตราว 87% จากปีก่อน หลังรับรู้กำไร Lotus’s เข้ามาเต็มที่เป็นปีแรก ซึ่งผลการดำเนินงานของ Lotus’s มีแนวโน้มดีขึ้นทั้งธุรกิจค้าปลีก และพื้นที่เช่า
นอกจากนี้ ฐานธุรกิจปัจจุบันของ Lotus’s กำลังอยู่ในช่วงฟื้นตัวจากผลกระทบโควิด-19 และการนำ PO ขยายสาขาใหม่ๆ เพิ่มเติม รวมทั้งนำไปคืนหนี้ และ Synergy ต้นทุนระหว่างธุรกิจค้าปลีก และ ค้าส่ง ส่วนธุรกิจค้าส่ง มีแนวโน้มฟื้นตัวตามภาพการท่องเที่ยว และลูกค้ากลุ่ม HORECA (25% ของรายได้ค้าส่งของ Lotus’s) ฟื้นตัว
*** ส่องกำไรปีนี้ คาดพลิกโตรอบ 3 ปี หลังธุรกิจค้าปลีกฟื้น
บล.เอเชียเวลท์ ประเมินกำไรสุทธิปี 65 ของ CPALL ไว้ที่ 1.69 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้น 31% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (เติบโตในรอบ 3 ปี) มีปัจจัยหนุนจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ผ่อนคลายลง ประกอบกับ การขยายสาขาร้านสะดวกซื้ออย่างต่อเนื่อง หนุนยอดขายปีนี้ มีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
นอกจากนี้ ยังมองว่า ผลการดำเนินงานของทั้ง MAKRO และ Lotus’s ในปีนี้ จะฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญเช่นกัน ตามการ Synergy ธุรกิจระหว่างกลุ่มมากขึ้น รวมทั้งดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลง จากการรีไฟแนนซ์ Bridging Loan ของดีล Lotus’s ซึ่งจะช่วยเพิ่มอัตรากำไรของ CPALL ให้ปรับตัวขึ้นด้วย
ขณะที่ นักวิเคราะห์อีก 3 ราย ประเมินกำไรสุทธิปี 65 ของ CPALL ไว้ดังนี้
บล. |
กำไรสุทธิปี 65 (ลบ.) |
%chg YoY |
เคทีบีฯ |
18,510 |
43 |
เมย์แบงก์ฯ |
16,664 |
28 |
เอเชีย พลัส |
16,109 |
24 |
*** โบรกฯมอง Valuation ยังน่าสนใจ
บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า มูลค่า (Valuation) ณ ปัจจุบัน ของ CPALL ยังมีความน่าสนใจ สะท้อนจากแนวโน้มกำไรปี 65 – 66 ฟื้นตัวโดดเด่นเหนือหุ้นในกลุ่มเดียวกัน ซึ่งจะช่วยลดค่า P/E ปี 65 และ 66 ของ CPALL ให้เหลือ 36.7 เท่า และ 29.4 เท่า ตามลำดับ
อีกทั้ง ระดับ P/E ดังกล่าว ยังอยู่ภายใต้สมมติฐานระยะกลาง – ยาว ที่คาดหวังอัพไซด์ได้อีกหลายส่วน เช่น SSSG เติบโตสูงกว่าคาด หรือ ประสิทธิภาพทำกำไรสูงขึ้น รวมทั้ง MAKRO ที่ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง ที่มีโอกาสขยายตัวในภูมิภาคได้อีกมาก
ส่วน บล.เคทีบี เสริมว่า แม้ราคาหุ้น CPALL ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา จะปรับตัวขึ้น Outperform ดัชนีหุ้นไทย (SET Index) ราว 10% จากประเด็นการเปิดเมือง และ เริ่มรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศ แต่มองว่า หุ้น CPALL ยังมีความน่าสนใจอยู่ สะท้อนจากธุรกิจเริ่มกลับมาฟื้นตัวดีขึ้น หนุนกำไรในระยะยาวเติบโตโดดเด่น
*** ส่วนใหญ่แนะนำ"ซื้อ"
จากการสำรวจความคิดเห็นนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่แนะนำ"ซื้อ" เนื่องจากมองว่า มาตรการควบคุมโควิด-19 ที่ลดความเข้มงวดลง จะหนุนให้ผลการดำเนินงานปีนี้ของ CPALL กลับมาเติบโตโดดเด่น สะท้อนจาก SSSG ตั้งแต่ต้นปีของ CPALL ที่ส่งสัญญาณฟื้นตัวอย่างโดดเด่น
บล. |
คำแนะนำ |
ราคาเหมาะสม (บ.) |
ฟินันเซียฯ |
ซื้อ |
82.00 |
เคจีไอ |
ซื้อ |
80.00 |
หยวนต้า |
ซื้อ |
76.00 |
เคทีบีฯ |
ซื้อ |
72.00 |
เอเชีย พลัส |
ซื้อ |
70.20 |
ราคาเฉลี่ย |
76.04 |
CPALL ถือว่าเป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 โดยตรง สะท้อนจากกำไรสุทธิปี 63 – 64 ที่หดตัวอย่างต่อเนื่อง แต่ภายใต้มุมมองที่โบรกเกอร์ประเมินว่าปี 65 จะไม่มีการควบคุมโรคที่เข้มงวดเหมือน 2 ปีดังกล่าวอีกแล้ว จึงทำให้กำไรสุทธิปีนี้ของ CPALL มีแนวโน้มกลับมาเติบโตได้อีกครั้ง ....