ผลตอบแทน DR ปีนี้สุดแกร่ง บวกเฉลี่ย 11% สูงสุด 53% สวนทาง SET ที่ให้ยีลด์ติดลบ 5.9% พบ TOP3 ผลตอบแทนสูงสุด ส่วนใหญ่เป็นหลักทรัพย์อ้างอิงตลาดหุ้นฮ่องกง ด้าน ตลท. แนะ 2 กลยุทธ์ก่อนตัดสินใจเลือกลงทุน DR ควรพิจารณาปัจจัยพื้นฐานหุ้นอ้างอิง ควบคู่การเติบโตเศรษฐกิจในประเทศนั้น ๆ - ตรวจสอบเงื่อนไขสัญญารับฝากก่อนเลือกลงทุน !
*** รู้จัก DR อีก 1 เครื่องมือลงทุนของ SET
ช่วงที่ผ่านมาตลาดหุ้นในต่างประเทศมีความน่าสนใจอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการเติบโตของหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีในประเทศสหรัฐอเมริกา หรือหุ้นสินค้าแบรนด์เนมต่าง ๆ ในทวีปยุโรป รวมถึงหุ้นในกลุ่มประเทศจีน ที่ถือว่าเป็นอนาคตของการลงทุน ทำให้นักลงทุนหลายคนคิดอยากลงทุนในหุ้นของบริษัทในต่างประเทศเหล่านี้มากขึ้น
แต่การไปลงทุนในหุ้นต่างประเทศโดยตรงก็คงจะทำได้ยาก เพราะการเปิดบัญชีหุ้นต่างประเทศก็ไม่ได้ง่ายเหมือนกับการเปิดบัญชีหุ้นไทย กฎระเบียบการซื้อขายในแต่ละประเทศก็ไม่เหมือนกัน แถมเงินลงทุนขั้นต่ำที่ต้องมีในการซื้อหุ้นเหล่านั้นก็ไม่ใช่น้อย
ดังนั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) จึงได้ตอบโจทย์ความต้องการดังกล่าวของนักลงทุน ด้วยการจัดตั้งเครื่องมือการลงทุนใหม่ขึ้น คือ DR ซึ่งเป็นตราสารที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้นักลงทุนไทยสามารถซื้อขายหุ้น หรือ ETF ในต่างประเทศได้ โดยผ่านการซื้อขาย DR ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
ซึ่งกระบวนการในการซื้อขายย่อมง่ายกว่าการออกไปลงทุนต่างประเทศโดยตรงด้วยตนเอง เพราะมีตัวกลาง คือ ผู้ออก DR ช่วยบริหารจัดการให้ เรียกง่าย ๆ ว่าเป็นการยกหุ้นต่างประเทศมาให้ซื้อขายได้บนตลาดหุ้นไทย ในรูปแบบของการซื้อขาย "ใบรับฝาก" แทน
ทั้งนี้ ผู้ออก DR จะเป็นคนไปซื้อหลักทรัพย์ต่างประเทศมาเก็บไว้ เพื่อใช้ออก DR นำมาเสนอขายให้นักลงทุนทั่วไป (IPO) ก่อนจะนำมาจดทะเบียนและซื้อขายผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเห็นว่าผู้ออก DR ไม่ใช่บริษัทเจ้าของหลักทรัพย์ในต่างประเทศ แต่จะทำหน้าที่เป็นผู้ที่ถือหลักทรัพย์ต่างประเทศแทนนักลงทุน
*** ผลตอบแทน DR ปีนี้แกร่งกว่า SET บวกเฉลี่ย 11%
ขณะที่ "สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" สำรวจผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี (YTD) ของ DR ในตลาดหุ้นไทน พบว่า มีผลตอบแทนบวกเฉลี่ย 11% ซึ่งเป็นอัตราผลตอบแทนที่สูงกว่าดัชนีหุ้นไทย (SET) ที่ในช่วงดังกล่าวกลับให้ผลตอบแทนติดลบ 5.91%
DR ฟอร์มแจ่ม สวนทาง SET บวกเฉลี่ย 11% สูงสุด 53% |
ชื่อย่อหลักทรัพย์ | ราคา IPO (บ.) | ราคาปิดล่าสุด (บ.) | %chg เทียบราคา IPO | %chg YTD |
ASML01 | 19.82 | 33.25 | 67.76 | 52.52 |
TENCENT80 | 14.6249 | 18.6 | 27.18 | 44.19 |
JAPAN13* | 3 | 4.14 | 38.00 | 38.00 |
FUEVFVND01 | 42.28 | 47.5 | 12.35 | 27.52 |
NDX01 | 11.88 | 19.3 | 62.46 | 26.97 |
HKCE01 | 18.62 | 20.9 | 12.24 | 22.94 |
BYDCOM80 | 1.37 | 1.14 | -16.79 | 21.28 |
HK13* | 3.7 | 4.4 | 18.92 | 18.92 |
E1VFVN3001 | 21.6165 | 32.75 | 51.50 | 18.02 |
HK01 | 16.2 | 17.6 | 8.64 | 17.33 |
STEG19* | 10.51 | 12 | 14.18 | 14.18 |
SINGTEL80* | 6.94 | 7.85 | 13.11 | 13.11 |
SIA19 | 18.0798 | 19.1 | 5.64 | 13.02 |
XIAOMI80 | 6.15 | 7.95 | 29.27 | 10.42 |
PINGAN80 | 2.33 | 1.73 | -25.75 | 10.19 |
HKTECH13* | 3.2 | 3.52 | 10.00 | 10.00 |
NETEASE80 | 5.89 | 6.8 | 15.45 | 9.68 |
SONY80* | 3.15 | 3.42 | 8.57 | 8.57 |
CNTECH01 | 27.03 | 22.4 | -17.13 | 7.18 |
CN01 | 24.02 | 18.2 | -24.23 | 7.06 |
SMFG19* | 7.85 | 8.2 | 4.46 | 4.46 |
VENTURE19* | 3.9 | 4.04 | 3.59 | 3.59 |
UNIQLO80* | 9.68 | 9.95 | 2.79 | 2.79 |
LVMH01 | 16.65 | 17.8 | 6.91 | 1.14 |
GOLD19* | 8.0708 | 8.1 | 0.36 | 0.36 |
TOYOTA80* | 7.43 | 7.4 | -0.40 | -0.40 |
NINTENDO19* | 20.47 | 20.3 | -0.83 | -0.83 |
BABA80 | 5.1164 | 3.6 | -29.64 | -8.16 |
BIDU80 | 6.4 | 4.62 | -27.81 | -8.51 |
STAR5001 | 29.87 | 22.5 | -24.67 | -12.62 |
ที่มา : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประทศไทย ณ 12 ก.ค.67 *DR ที่ขาย IPO ปีนี้ |
*** "ASML01" ให้ผลตอบแทนปีนี้สูงสุดถึง 53%
โดย DR ที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดในปีนี้ คือ Depositary Receipt on ASML Issued by BLS (ASML01) ที่ให้ผลตอบแทนถึง 53% โดย ASML01 เป็นหลักทรัพย์อ้างอิงหุ้น ASML Holding N.V. (ASML) ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหุ้นเนเธอร์แลนด์ ทำธุรกิจผลิตเครื่องผลิตชิป, รับจ้างผลิตชิปให้กับ intel และ SAMAUNG รวมทั้วเป็นบริษัทที่ออกแบบเทคโนโลยีบนชิปและส่งให้ผู้ผลิตชิป
นอกจากนี้ ยังมี DR อีก 2 ตัว ที่ให้ผลตอบแทนปีนี้มากกว่า 30% ประกอบด้วย Depositary Receipt on TENCENT Issued by KTB (TENCENT80) ที่ให้ผลตอบแทน 44% โดย TENCENT80 เป็นหลักทรัพย์อ้างอิงหุ้น Tencent Holdings Limited ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกง ประกอบธุรกิจเกมส์ และโซเชียลระดับโลก
ด้าน Depositary Receipt on CAM JAPAN HDG ETF Issued by KGI (JAPAN13) ให้ผลตอบแทน 38% โดย JAPAN13 เป็นหลักทรัพย์อ้างอิงในกองทุน ChinaAMC MSCI Japan Hedged to USD ETF (3160 HK) ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกง โดยเป็นกองทุนที่เข้าไปลงทุนในบริษัทยักษ์ใหญ่ อาทิ TOYOTA MOTOR, MITSUBISHI และ SONY CORP เป็นต้น
*** ผลตอบแทนล่าสุดเทียบ IPO บวกเฉลี่ย 7%
ขณะเดียวกัน เมื่อสำรวจผลตอบแทนทั่ง 30 DR ดังกล่าว นับตั้งแต่เสนอขายครั้งแรก (IPO) พบว่า ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 7% โดย Depositary Receipt on CAM NASDAQ 100 ETF Issued by BLS (NDX01) ให้ผลตอบแทนสูงสุดถึง 61% โดย NDX01 เป็นหลักทรัพย์อ้างอิงกองทุน ChinaAMC NASDAQ 100 ETF (3086.HK) ที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกง
โดยลงทุนอ้างอิงในดัชนี NASDAQ 100 ซึ่งเป็นดัชนีที่ถูกออกแบบมาอิงการเคลื่อนไหวของ 100 บริษัทแรกตามมูลค่าตลาดที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ (ที่ไม่ใช่กลุ่มการเงิน) ซึ่งรวมไปถึงหุ้นประเภท American Depositary Receipts หรือ ADRs
นอกจากนี้ ยังมี DR อีก 2 ตัว ที่ให้ผลตอบแทนจากราคา IPO มากกว่า 50% ประกอบด้วย Depositary Receipt on ASML Issued by BLS (ASML01) ที่ให้ผลตอบแทนถึง 60% โดย ASML01 เป็นหลักทรัพย์อ้างอิงหุ้น ASML Holding N.V. (ASML) ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหุ้นเนเธอร์แลนด์ ทำธุรกิจผลิตเครื่องผลิตชิป, รับจ้างผลิตชิปให้กับ intel และ SAMAUNG รวมทั้วเป็นบริษัทที่ออกแบบเทคโนโลยีบนชิปและส่งให้ผู้ผลิตชิป
ส่วน Depositary Receipt on E1VFVN30 Issued by BLS (E1VFVN3001) ให้ผลตอบแทน 50% โดย E1VFVN3001 เป็นตราสารที่อ้างอิงกองทุน ETF E1VFVN30 ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหุ้นเวียดนาม มีสัตถุประสงค์การลงทุนในหุ้นเวียดนามที่อยู่ในดัชนี VN30 ซึ่งประกอบไปด้วยหุ้น 11 กลุ่มอุตสาหกรรม ส่งผลให้มีการกระจายการลงทุนที่มีประสิทธิภาพ
*** SET แนะกลยุทธ์เลือกลงทุน DR อย่างไร ?
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ระบุว่า กลยุทธ์ในการเลือกลงทุน DR มีด้วยกัน 2 วิธี ดังนี้
1.เลือกลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศที่มีความน่าสนใจในการลงทุน : ต้องวิเคราะห์หลักทรัพย์อ้างอิงก่อนว่า มีทิศทางการเติบโตที่ดีหรือไม่ มีโอกาสเติบโตมากน้อยเพียงใด ซึ่งดูได้จากทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจของประเทศนั้น, ภาวะอุตสาหกรรม และแนวโน้มการเติบโตของบริษัท รวมถึงปัจจัยที่จะเข้ามากระทบกับหุ้นหรือสินทรัพย์ที่ DR นั้นอ้างอิงอยู่
ในส่วนของการวิเคราะห์ภาวะเศรษฐกิจ นักลงทุนต้องพิจารณาปัจจัยการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศนั้นว่ามีการเติบโตในระดับไหน แข็งแกร่งเพียงพอและน่าสนใจลงทุนหรือเปล่า เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศข้างเคียงหรือประเทศที่มีโครงสร้างทางเศรษฐกิจในระดับเดียวกัน
การมองภาพรวมของประเทศ หรือความสามารถทางเศรษฐกิจ ไม่ใช่แค่มีประโยชน์กับ DR ที่ลงทุนในดัชนีอ้างอิงในต่างประเทศอย่างเดียว แต่จะมีประโยชน์กับ DR ที่อ้างอิงหุ้นรายตัวอีกด้วย
ขณะที่ การวิเคราะห์บริษัท นักลงทุนสามารถวิเคราะห์ความแข็งแกร่งด้านพื้นฐาน รวมถึงความสามารถของบริษัทจากผลการดำเนินงานในอดีต เช่น กิจการต้องมีผลประกอบการดี เติบโตอย่างต่อเนื่อง, มีกำไรอย่างสม่ำเสมอ ไม่มีปัญหาขาดทุน, มีความแข็งแกร่งทางด้านการเงิน หนี้สินอยู่ในระดับต่ำ, ผู้บริหารมีความสามารถ และธรรมาภิบาลของบริษัทอยู่ในระดับที่ดี และ ราคาหุ้นอยู่ในระดับที่เหมาะสม
2.ตรวจสอบเงื่อนไขของสัญญารับฝาก : การตรวจสอบเงื่อนไขของสัญญารับฝากเป็นอีกหนึ่งเงื่อนไขสำคัญที่นักลงทุนต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจลงทุน เพราะจะมีผลกับราคา DR ซึ่งมีเงื่อนไขต่าง ๆ เช่น สิทธิประโยชน์ที่ผู้ถือ DR จะได้รับ, ค่าใช้จ่ายที่ผู้ออก DR เรียกเก็บ, เงื่อนไขและวิธีการรับซื้อคืน DR และ การทำหน้าที่ของผู้จัดการกองทุน (ถ้ามี)
ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพยย์ฯทิ้งท้ายว่า การลงทุนใน DR ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องใส่ใจในรายละเอียด และต้องติดตามทิศทางราคาของสินทรัพย์อ้างอิงที่ DR นั้นลงทุนอย่างสม่ำเสมอ เพียงเท่านี้ ก็จะช่วยให้นักลงทุนสร้างผลตอบแทนจาก DR ได้อย่างมั่นใจแล้ว