ผ่างบการเงิน บจ.ไทย พบ 33 บริษัท ฐานะการเงินสุดแกร่ง - มีกำไรต่อเนื่อง ส่วนใหญ่เป็นหุ้นนอกดัชนี SET100 กลุ่มอาหาร - การแพทย์ติดโผเพียบ มีถึง 19 บจ.มีอัตราส่น P/E ต่ำกว่า SET พบอีก 7 บจ. D/E ต่ำกว่า 0.2 เท่า อีก 10 บจ. P/BV ต่ำกว่า 1 เท่า ตะลึง ! มีถึง 16 บจ.ให้ Dividend Yield เฉลี่ย 3 ปีหลังมากกว่า 4% แถมอัพไซด์สูงสุดถึง 68%
*** 33 บจ.ฐานะเงินแกร่ง หนี้ต่ำ-เงินสดสูง-กำไรดี-ปันผลต่อเนื่อง
"สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" สำรวจข้อมูลบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ผ่านโปรแกรม SETSMART ณ 25 ธ.ค.ที่ผ่านมา พบบริษัท ที่มีฐานะการเงินสุดแกร่ง อ้างอิงจากคุณสมบัติเป็นบริษัทที่ไม่เคยออกหุ้นกู้มาก่อน และในระยะ 5 ปีที่ผ่านมา (ตั้งแต่ปี 61) ไม่เคยออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (Warrant) พร้อมกันนี้ เป็นบริษัทที่มีเงินสดสูง หนี้สินอยู่ในระดับต่ำ มีกำไรสุทธิ และจ่ายเงินปันผลต่อเนื่องตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ทั้งหมด 33 บริษัท ประกอบด้วย
พบ 33 หุ้น ฐานะการเงินสุดแกร่ง หนี้ต่ำ-เงินสดสูง-กำไรดี-ปันผลต่อเนื่อง |
ชื่อย่อหุ้น | กำไร 9M/66 (ลบ.) | กำไรปี 65 (ลบ.) | กำไรปี 64 (ลบ.) | เงินสดจาการดำเนินงาน 9M/66 (ลบ.) | D/E (เท่า) |
UTP | 705.16 | 739 | 917.43 | 884.93 | 0.10 |
HFT | 200.55 | 361.58 | 460.88 | 305.14 | 0.14 |
STANLY* | 810.41 | 1,745.68 | 1,520.80 | 1,440.85 | 0.15 |
AI | 78.5 | 127.34 | 444.06 | 193 | 0.17 |
SKN | 323.72 | 682.39 | 776.68 | 221.61 | 0.17 |
UVAN | 795.41 | 1,429.76 | 839.27 | 1,185.23 | 0.17 |
PR9 | 369.82 | 567.61 | 249.17 | 617.5 | 0.18 |
VIH | 184.59 | 696.6 | 1,255.18 | 276.38 | 0.21 |
ICHI | 805.3 | 641.64 | 546.77 | 1,252.06 | 0.22 |
PTL | 2,026.76 | 2,095.97 | 3,549.79 | 1,050.01 | 0.29 |
SAT | 761.04 | 939.97 | 952.65 | 1,022.55 | 0.3 |
CHG | 772.2 | 2,778.45 | 4,204.07 | 1,677.24 | 0.34 |
ONEE | 325.71 | 738.53 | 828.38 | 495.56 | 0.34 |
SMPC | 267.77 | 828.88 | 727.78 | 867.06 | 0.35 |
GFPT | 966.14 | 2,044.47 | 209.34 | 1,608.86 | 0.40 |
LANNA | 1,700.39 | 2,960.63 | 1,575.24 | 3,131.33 | 0.42 |
TKN | 575.82 | 434.74 | 182.13 | 568.13 | 0.46 |
OSP | 1,969.41 | 1,933.77 | 3,254.92 | 1,586.92 | 0.54 |
SNNP | 470.74 | 515.72 | 437.17 | 296.31 | 0.54 |
KAMART | 430.13 | 327 | 292.87 | 333.23 | 0.54 |
SABINA | 348.95 | 417.22 | 294.19 | 295.52 | 0.55 |
SPRC | 3,359.20 | 7,673.80 | 4,746.46 | 5,963.05 | 0.58 |
NSL | 231.09 | 297.6 | 191.11 | 302.12 | 0.61 |
TEAM | 230.88 | 307.66 | 202.67 | 611.71 | 0.61 |
RJH | 320.64 | 1,029.23 | 1,011.96 | 644.91 | 0.65 |
DELTA | 13,711.15 | 15,344.55 | 6,699.01 | 11,839.10 | 0.7 |
SITHAI | 266.83 | 350.03 | 181.19 | 894.93 | 0.76 |
PM | 237.14 | 285.88 | 354.82 | 456.88 | 0.82 |
TOG | 335.94 | 403.62 | 310.12 | 255.55 | 0.89 |
NYT | 340.35 | 251.12 | 242.64 | 614.82 | 1.01 |
THG | 649.42 | 1,601.69 | 1,337.43 | 1,142.15 | 1.16 |
JR | 91.52 | 149.47 | 217.04 | 722.62 | 1.40 |
UV** | 515.84 | 167.85 | 30.17 | 3,998.64 | 1.75 |
ที่มา : SETSMART ณ 25 ธ.ค.66 *งบปี 66 – 67 (เม.ย.66 – มี.ค.67) **งบปี 65 – 66 (ต.ค. 65 - ก.ย.66) |
33 บริษัทดังกล่าว ส่วนใหญ่เป็นบริษัทนอกดัชนี SET100 จำนวน 27 บริษัท ขณะที่บริษัทในดัชนี SET100 ติดโผจำนวน 6 บริษัท โดยกลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มติดโผมากสุด จำนวน 6 บริษัท รองลงมา คือ กลุ่มธุรกิจการแพทย์ ที่ติดโผจำนวน 5 บริษัท
*** มีถึง 7 บจ. ที่ D/E อยู่ในระดับต่ำกว่า 0.2 เท่า
บมจ.ยูไนเต็ด เปเปอร์ (UTP) เป็นบริษัทที่มีอัตราส่วนหนี้สินต่อผู้ถือหุ้น (D/E) ต่ำสุดที่ 0.1 เท่า และยังมีเงินสดจากการดำเนินงานช่วง 9 เดือนปี 66 ที่ 884.93 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิปี 64 - 65 และ 9 เดือนของปี 66 ทำได้ 917.43 ล้านบาท, 739 ล้านบาท และ 705.16 ล้านบาท ตามลำดับ
รองลงมา คือ บมจ.ฮั้วฟง รับเบอร์ (ไทยแลนด์) หรือ HFT ที่มีอัตราส่วน D/E อยู่ที่ระดับ 0.14 เท่า และมีเงินสดจากการดำเนินงานช่วง 9 เดือนปี 66 ที่ 305.14 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิปี 64 - 65 และ 9 เดือนของปี 66 ทำได้ 460.88 ล้านบาท, 361.58 ล้านบาท และ 200.55 ล้านบาท ตามลำดับ
ส่วนอีก 5 บริษัท ที่มีอัตราส่วน D/E ไม่เกิน 0.2 เท่า ประกอบด้วย บมจ.ไทยสแตนเลย์การไฟฟ้า (STANLY) มี D/E อยู่ที่ระดับ 0.15 เท่า และมีเงินสดจากการดำเนินงานช่วง 9 เดือนปี 66 ที่ 1,440.85 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิปี 64 - 65 และ 9 เดือนของปี 66 ทำได้ 1,520.80 ล้านบาท, 1,745.68 ล้านบาท และ 810.41 ล้านบาท ตามลำดับ
ด้าน บมจ.เอเชียน อินซูเลเตอร์ (AI) มีอัตราส่วน D/E อยู่ที่ระดับ 0.17 เท่า และมีเงินสดจากการดำเนินงานช่วง 9 เดือนปี 66 ที่ 193 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิปี 64 - 65 และ 9 เดือนของปี 66 ทำได้ 444.06 ล้านบาท, 127.34 ล้านบาท และ 78.50 ล้านบาท ตามลำดับ
ขณะที่ บมจ.ส.กิจชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ (SKN) มีอัตราส่วน D/E อยู่ที่ระดับ 0.17 เท่า และมีเงินสดจากการดำเนินงานช่วง 9 เดือนปี 66 ที่ 221.61 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิปี 64 - 65 และ 9 เดือนของปี 66 ทำได้ 776.68 ล้านบาท, 682.39 ล้านบาท และ 323.72 ล้านบาท ตามลำดับ
ฟาก บมจ.ยูนิวานิชน้ำมันปาล์ม (UVAN) มีอัตราส่วน D/E อยู่ที่ระดับ 0.17 เท่า และมีเงินสดจากการดำเนินงานช่วง 9 เดือนปี 66 ที่ 1,185.23 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิปี 64 - 65 และ 9 เดือนของปี 66 ทำได้ 839.27 ล้านบาท, 1,429.76 ล้านบาท และ 795.41 ล้านบาท ตามลำดับ
และ บมจ.โรงพยาบาลพระรามเก้า (PR9) มีอัตราส่วน D/E อยู่ที่ระดับ 0.18 เท่า และมีเงินสดจากการดำเนินงานช่วง 9 เดือนปี 66 ที่ 617.50 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิปี 64 - 65 และ 9 เดือนของปี 66 ทำได้ 249.17 ล้านบาท, 567.61 ล้านบาท และ 369.82 ล้านบาท ตามลำดับ
*** พบถึง 19 บจ. มี P/E ต่ำกว่า SET ที่ 18.39 เท่า
ขณะเดียวกัน เมื่อสำรวจข้อมูลงบการเงินอื่น ๆ ของ 33 บริษัทดังกล่าวเพิ่มเติม พบว่า มีถึง 19 บริษัท มีอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรต่อหุ้น (P/E) ต่ำกว่าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ที่ปัจจุบันอยู่ในระดับ 18.39 เท่า
ตารางแสดงข้อมูลส่วนอื่น ๆ ที่น่าสนใจ |
ชื่อย่อหุ้น | P/E (เท่า) | P/BV (เท่า) | ราคาปิด 25 ธ.ค.66 (บ.) | ราคาเหมาะสม (บ.) | %อัพไซด์ | div.yield เฉลี่ย 3 ปีหลัง (63-65) |
DELTA | 65.50 | 18.24 | 94.00 | 75 - 84 | (-10.64) - (-20.21) | 0.45 |
OSP | 28.40 | 4.10 | 21.80 | 30 - 33 | 37.61 - 51.38 | 3.3 |
SNNP | 27.27 | 5.48 | 17.10 | 22 - 27 | 28.65 - 57.89 | 1.19 |
ICHI | 19.79 | 3.18 | 15.20 | 18.4 - 22 | 21.05 - 44.74 | 4.4 |
KAMART | 26.36 | 4.67 | 13.20 | 7.10 | (-46.21) | 4.36 |
NSL | 17.58 | 3.73 | 18.10 | 25.25 - 28.75 | 39.5 - 58.84 | 2.21 |
NYT | 12.51 | 1.61 | 4.36 | 5 - 5.3 | 14.68 - 21.56 | 8.05 |
PM | 13.09 | 3.11 | 7.70 | n/a | n/a | 6.5 |
SABINA | 20.05 | 5.18 | 26.25 | 31 - 32.5 | 18.1 - 23.81 | 4.5 |
SAT | 7.69 | 0.93 | 17.60 | 19.5 - 23.5 | 10.8 - 33.52 | 6.04 |
STANLY | 8.07 | 0.68 | 184.50 | 212 - 240 | 14.91 - 30.08 | 4.21 |
TEAM | 10.08 | 2.82 | 5.40 | n/a | n/a | 0.68 |
TKN | 19.01 | 6.01 | 9.60 | n/a | n/a | 2.14 |
TOG | 12.97 | 2.65 | 12.00 | n/a | n/a | 4.63 |
UV | 7.86 | 0.36 | 2.12 | n/a | n/a | 0.88 |
CHG | 31.83 | 4.64 | 3.06 | 3.4 - 4 | 11.11 - 30.72 | 2.94 |
SPRC | 10.24 | 0.85 | 8.55 | 10 - 11.5 | 16.96 - 34.50 | 1.31 |
THG | 51.55 | 4.55 | 54.00 | 47 - 51 | (-5.56) - (-12.96) | 1.22 |
AI | 27.49 | 1.38 | 4.28 | n/a | n/a | 8.81 |
GFPT | 9.90 | 0.82 | 11.20 | 14.2 - 14.6 | 26.79 - 30.36 | 1.25 |
HFT | 16.06 | 0.82 | 4.46 | n/a | n/a | 4.36 |
JR | 37.02 | 2.31 | 5.15 | n/a | n/a | 0.9 |
LANNA | 3.68 | 0.99 | 15.00 | n/a | n/a | 6.59 |
ONEE | 18.61 | 1.26 | 3.68 | 6 - 6.2 | 63.04 - 68.48 | 0.29 |
PR9 | 24.12 | 2.51 | 15.60 | 16 - 18 | 2.56 - 15.38 | 1.13 |
PTL | 111.86 | 0.47 | 10.40 | n/a | n/a | 4.09 |
RJH | 22.56 | 3.86 | 26.75 | 31.00 | 15.89 | 5.54 |
SITHAI | 9.79 | 0.74 | 1.17 | n/a | n/a | 0.63 |
SKN | 6.55 | 0.91 | 4.16 | n/a | n/a | 3.28 |
SMPC | 14.08 | 1.98 | 9.85 | n/a | n/a | 5.7 |
UTP | 10.83 | 1.70 | 11.60 | n/a | n/a | 4.61 |
UVAN | 6.67 | 1.82 | 8.20 | n/a | n/a | 6.42 |
VIH | 17.04 | 1.44 | 7.40 | n/a | n/a | 2.87 |
โดย บมจ.ลานนารีซอร์สเซส (LANNA) เป็นบริษัทที่มีอัตราส่วน P/E ต่ำที่สุด 3.68 เท่า รองลงมา คือ บมจ.ส.กิจชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ (SKN) ที่มีอัตราส่วน P/E อยู่ที่ระดับ 6.55 เท่า
ขณะที่อีก 6 บริษัท ที่มีอัตราส่วน P/E ต่ำกว่า 10 เท่า ประกอบด้วย บมจ.ยูนิวานิชน้ำมันปาล์ม (UVAN) มีอัตราส่วน P/E ที่ 6.67 เท่า, บมจ.สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี (SAT) มีอัตราส่วน P/E ที่ 7.69 เท่า, บมจ.ยูนิเวนเจอร์ (UV) มีอัตราส่วน P/E ที่ 7.86 เท่า
ด้าน บมจ.ไทยสแตนเลย์การไฟฟ้า (STANLY) มีอัตราส่วน P/E ที่ 8.07 เท่า, บมจ.ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ (SITHAI) มีอัตราส่วน P/E ที่ 9.79 เท่า และ บมจ.จีเอฟพีที (GFPT) มีอัตราส่น P/E ที่ 9.9 เท่า
*** มีอีก 10 บจ. P/BV ต่ำกว่าระดับ 1 เท่า
นอกจากนี้ ยังมีอีก 10 บริษัท ที่อัตราส่วนราคาตลาดต่อมูลค่าตามบัญชี (P/BV) ต่ำกว่าระดับ 1 เท่า ประกอบด้วย บมจ.ยูนิเวนเจอร์ (UV) มีอัตราส่วน P/BV ที่ 0.36 เท่า, บมจ.โพลีเพล็กซ์ (ประเทศไทย) หรือ PTL มีอัตราส่วน P/BV ที่ 0.47 เท่า, บมจ.ไทยสแตนเลย์การไฟฟ้า (STANLY) มีอัตราส่วน P/BV ที่ 0.68 เท่า
ส่วนอีก 7 บริษัทที่เหลือประกอบด้วย บมจ.ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ (SITHAI) มีอัตราส่วน P/BV ที่ 0.74 เท่า, บมจ.จีเอฟพีที (GFPT) มีอัตราส่วน P/BV ที่ 0.82 เท่า, บมจ.ฮั้วฟง รับเบอร์ (ไทยแลนด์) หรือ HFT มีอัตราส่วน P/BV ที่ 0.82 เท่า, บมจ.สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง (SPRC) มีอัตราส่วน P/BV ที่ 0.85 เท่า
บมจ.ส.กิจชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ (SKN) มีอัตราส่วน P/BV ที่ 0.91 เท่า, บมจ.สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี (SAT) มีอัตราส่วน P/BV ที่ 0.93 เท่า และ บมจ.ลานนารีซอร์สเซส (LANNA) มีอัตราส่วน P/BV ที่ 0.99 เท่า
*** พบ 16 บจ.ให้ Dividend Yield เฉลี่ย 3 ปีหลังมากกว่า 4%
ขณะเดียวกัน มี 16 บริษัท ที่จ่ายเงินปันผลคิดเป็นอัตราผลตอบแทน (Dividend Yield) ในช่วง 3 ปีหลัง (ปี 63 - 65) มากกว่า 4% โดย บมจ.เอเชียน อินซูเลเตอร์ (AI) เป็นบริษัทที่ให้ Dividend Yield เฉลี่ย 3 ปีหลังสูงสุดถึง 8.81% รองลงมา คือ บมจ.นามยง เทอร์มินัล (NYT) ที่ให้ Dividend Yield เฉลี่ย 3 ปีหลัง 8.05%
ส่วนอีก 6 บริษัท ที่ให้ Dividend Yield เฉลี่ย 3 ปีหลังมากกว่า 5% ประกอบด้วย บมจ.ลานนารีซอร์สเซส (LANNA) ที่ให้ Dividend Yield เฉลี่ย 3 ปีหลัง 6.59%, บมจ.พรีเมียร์ มาร์เก็ตติ้ง (PM) ให้ Dividend Yield เฉลี่ย 3 ปีหลัง 6.5%, บมจ.ยูนิวานิชน้ำมันปาล์ม (UV) ให้ Dividend Yield เฉลี่ย 3 ปีหลัง 6.42%
บมจ.สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี (SAT) ให้ Dividend Yield เฉลี่ย 3 ปีหลัง 6.04%, บมจ.สหมิตรถังแก๊ส (SMPC) ให้ Dividend Yield เฉลี่ย 3 ปีหลัง 5.7% และ บมจ.โรงพยาบาลราชธานี (RJH) ให้ Dividend Yield เฉลี่ย 3 ปีหลัง 5.54%
*** 13 บจ. อัพไซด์ยังเปิดกว้าง สูงสุดถึง 68.48%
ทั้งนี้ เมื่อสำรวจข้อมูลนักวิเคราะห์จาก IAA Consensus เพิ่มเติม พบว่า มี 17 บริษัท ที่มีบทวิเคราะห์รองรับ โดยมี 13 บริษัท ที่ราคาหุ้นล่าสุด มีช่วงอัพไซด์มากกว่า 20%
โดย บมจ.เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ (ONEE) เป็นบริษัทที่ราคาหุ้นล่าสุดมีอัพไซด์มากสุดระหว่าง 63.04 - 68.48% หลังถูกนักวิเคราะห์ประเมินราคาเหมาะสมไว้ที่ 6 - 6.2 บาท/หุ้น รองลงมา คือ บมจ.เอ็นเอสแอล ฟู้ดส์ (NSL) ที่ราคาหุ้นล่าสุดมีอัพไซด์ระหว่าง 39.5 - 58.84% หลังถูกนักวิเคราะห์ประเมินราคาเหมาะสมไว้ที่ 25.25 - 28.75 บาท/หุ้น
ส่วนอีก 2 บริษัท ที่ราคาหุ้นล่าสุดมีอัพไซด์มากกว่า 50% ประกอบด้วย บมจ.ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง (SNNP) ที่ราคาหุ้นล่าสุดมีอัพไซด์ระหว่าง 28.65 - 57.89% หลังถูกนักวิเคราะห์ประเมินราคาเหมาะสมไว้ที่ 22 - 27 บาท/หุ้น และ บมจ.โอสถสภา (OSP) ที่ราคาหุ้นล่าสุดมีอัพไซด์ระหว่าง 37.61 - 51.38% หลังถูกนักวิเคราะห์ประเมินราคาเหมาะสมไว้ที่ 30 - 33 บาท/หุ้น