เช้านี้หุ้น TOP บวกสูงสุด 3.84% รับค่าการกลั่นฟื้น – ต้นทุนน้ำมันเริ่มลด โบรกฯชี้ช่วยปิดความเสี่ยงขาดทุนสต็อกน้ำมันปีนี้ ประเมินงบ Q1/66 ฟื้นได้ หลังอุปสงค์เพิ่ม แต่อุปทานกลับตึงตัวกว่าคาด หนุนต้องอัพเป้ากำไรปกติขึ้นอีก 20% แถม Valuation หุ้น ณ ปัจจุบัน ค่อนข้างถูก ชี้น่าสนใจเข้าสะสม !
*** เช้านี้บวกสูงสุด 3.84% รับค่าการกลั่นฟื้น
ราคาหุ้น บมจ.ไทยออยล์ (TOP) ช่วงเช้าวันนี้ (28 มี.ค.66) ดีดขึ้นทำจุดสูงสุดที่ราคา 54 บาท เพิ่มขึ้น 3.84% จากวันทำการก่อนหน้า ก่อนปิดซื้อขายภาคเช้าด้วยราคา 53.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท หรือ 3.37% มีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น 113.35% จาก 5 วันทำการก่อนหน้า
บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กรุงศรี ระบุสาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้น TOP เช้านี้ ปรับตัวขึ้นสูงสุด 3.84% เนื่องจากได้รับปัจจัยหนุน จากค่าการกลั่นทยอยฟื้นตัว ล่าสุดปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 8 เหรียญ/บาร์เรล จากระดับ 5 เหรียญ/บาร์เรล ในช่วงต้นเดือน ขณะที่ราคาน้ำมันดิบทยอยปรับตัวขึ้น ทำให้ความเสี่ยงจากการขาดทุนสต๊อกน้ำมันดิบลดลง
*** กูรูชี้ค่ากลั่นปีนี้ยืนสูง ปิดโอกาสขาดทุนสต็อก
บล.พาย ระบุว่า แม้กำไรสุทธิปี 66 ของ TOP มีแนวโน้มลดลงจากปีก่อน ที่มีฐานกำไรสูงผิดปกติ เพราะเหตุขัดข้องด้านอุปทานน้ำมันจากสงครามรัสเซีย – ยูเครน แต่คาดว่าค่าการกลั่นในปีนี้ จะสามารถอยู่ในระดับสูงตลอดทั้งปีเฉลี่ยราว 7 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับที่สูงกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ 5 เหรียญ/บาร์เรล อยู่มากพอสมควร
อีกทั้ง ราคาน้ำมันดิบดูไบที่ลดลงอยู่ในระดับราว 80 เหรียญ/บาร์เรล ในช่วงต้นปี 66 ประกอบกับ EIA ประเมินว่า น้ำมันดิบเบรนท์ปีนี้ จะเฉลี่ยอยู่ที่ 83 เหรียญ/บาร์เรล จึงทำให้คาดว่า การขาดทุนสต็อกน้ำมันของ TOP จะไม่เกิดขึ้นในปีนี้ หรือในกรณีที่มีขาดทุนสต็อกน้ำมัน จะเป็นจำนวนที่น้อยแบบไม่มีนัยสำคัญ
*** อุปสงค์เพิ่ม – อุปทานตึง หนุนงบ Q1/66 ฟื้น
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ประเมินว่า กำไรสุทธิไตรมาส 1/66 ของ TOP มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นจากไตรมาสก่อน (QoQ) มีปัจจัยหนุนจากการปรับขึ้นของ Crack Spread น้ำมันสำเร็จรูป หลังความต้องการใช้ได้รับอานิสงส์จากจีนเปิดประเทศ อีกทั้ง โรงกลั่นหลายแห่งในภูมิภาคมีแผนปิดซ่อมบำรุง
เช่นเดียวกับ บล.บัวหลวง ที่มองว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/66 ของ TOP มีแนวโน้มฟื้นตัวจากไตรมาสก่อนได้ สะท้อนจากค่าการกลั่น ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทั้งเทียบปีก่อน และไตรมาสก่อน หนุนโดยอุปสงค์ผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูปในวงกว้างที่ปรับตัวดีขึ้น, อุปสงค์น้ำมันดีเซล, น้ำมันเครื่องบิน และน้ำมันเตาที่มีส่วนผสมของกำมะถันสูงขึ้นตามฤดูกาล
อีกทั้ง ยังมีอุปทานที่ตึงตัว และต้นทุนน้ำมันดิบที่มีแนวโน้มลดลงจากไตรมาสก่อน ตามทิศทางราคาน้ำมันดิบ ส่วนต่างราคาอะโรเมติกส์ (เทียบกับ ULG95) และส่วนต่างราคาน้ำมันหล่อลื่น มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากปีก่อน และทรงตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน
*** โบรกฯอัพกำไรปกติ รับ Supply ตึงเกินคาด
บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุว่า ได้ปรับประมาณการกำไรปกติปี 66 ของ TOP ขึ้นจากเดิมอีก 20% เป็น 1.66 หมื่นล้านบาท หดตัว 16% จากปีก่อนที่ฐานสูงผิดปกติ ซึ่งสาเหตุการปรับกำไรปกติขึ้น เป็นเพราะ Supply ที่ตึงตัวมากกว่าคาด สะท้อนจากการส่งออกน้ำมันจีนออกมาน้อย และมีการหยุดผลิตของโรงกลั่นบางส่วน จากเหตุการณ์ไฟไหม้ ส่งผลให้ spread Gasoil และ Jet สูงกว่าคาด
*** กูรูชี้ Valuation หุ้น ยังน่าสนใจเข้าสะสม
บล.บัวหลวง มองว่า มูลค่า (Valuation) ของ TOP ณ ปัจจุบัน ยังมีความน่าสนใจเข้าสะสม สะท้อนจากการซื้อขายบน PBV ปี 66 เพียง 0.8 เท่า ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 1.4 เท่า อยู่ 1.2 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน อีกทั้ง ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/66 มีแนวโน้มฟื้นตัวเด่น จึงยังทำให้หนุนราคาหุ้นไปต่อได้
ขณะที่ บล.โนมูระ พัฒนสิน เสริมว่า ยังคงแนะนำซื้อ TOP จากแนวโน้มกำไรระยะยาวที่แข็งแกร่ง จากการมีแผนเปิดดำเนินงานเชิงพาณิชย์ (COD) CFP ในปี 68 ซึ่งจะทำให้ TOP ได้เปรียบคู่แข่งด้านต้นทุนที่ถูกกว่าอย่างมีนัยสำคัญ และแรงหนุนส่วนแบ่งกำไร CAP ดีขึ้น หลังภาวะ oversupply ของปิโตรเคมีบรรเทาลง
*** ส่วนใหญ่ยังคงแนะนำ"ซื้อ"
แม้ผลการดำเนินงานปี 66 ของ TOP จะมีแนวโน้มชะลอตัวลงจากปีก่อน แต่จากการสำรวจมุมมองนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังคงแนะนำ"ซื้อ" เนื่องจากฐานกำไรปีก่อนอยู่ในระดับสูงผิดปกติ ขณะที่ กำไรปี 66 ที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง แต่ยังอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับสภาวะปกติ อีกทั้ง ระยะยาว ยังมีโครงการช่วยลดต้นทุนเหนือคู่แข่งอีกด้วย
บล. | คำแนะนำ | ราคาเหมาะสม (บ.) |
โนมูระฯ | ซื้อ | 80.00 |
บัวหลวง | ซื้อ | 78.00 |
พาย | ซื้อ | 68.00 |
หยวนต้า | ซื้อ | 66.00 |
เอเชีย พลัส | ซื้อ | 63.00 |
ราคาเฉลี่ย | 71.00 |
ราคาหุ้น TOP ที่ซื้อขาย ณ ปัจจุบัน เหลืออัพไซด์ให้นักลงทุนได้ลุ้นถึง 34% เมื่อเทียบกับราคาเหมาะสมเฉลี่ยของนักวิเคราะห์ ขณะที่ โบรกเกอร์ส่วนใหญ่ ยังมองว่า Valuation หุ้น ณ ปัจจุบันของ TOP ยังมีความน่าสนใจเพราะไม่แพง อีกทั้ง ยังสามารถคาดหวังเงินปันผล คิดเป็นอัตราผลตอบแทน (Dividend Yield) ได้สูงราว 4 – 5% ต่อปี อีกด้วย