เช้านี้ BEM บวกสูงสุด 2.71% รับงบ Q3/65 จ่อทำนิวไฮรอบ 3 ปี หลังผู้โดยสารรถไฟฟ้า – ทางด่วน ฟื้นใกล้แตะระดับปกติ มอง Q4/65 รถไฟฟ้ายืนเหนือระดับก่อนโควิด ดันงบปี 65 ฟื้นแรง ส่วนปี 66 ยังสดใส คาดโตต่อเนื่องราว 38 – 71% แถมราคาหุ้นยัง Laggard !
*** บวกสูงสุด 2.71% รับงบ Q3/65 จ่อโตแกร่ง
ราคาหุ้น บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) ช่วงเช้าวันนี้ (8 พ.ย.65) ดีดขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ราคา 9.45 บาท เพิ่มขึ้น 2.71% จากวันทำการก่อนหน้า ก่อนปิดซื้อขายภาคเช้าด้วยราคา 9.4 บาท เพิ่มขึ้น 0.15 บาท หรือ 1.62% มีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น 76.67% จาก 5 วันทำการก่อนหน้า
สาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้น BEM เช้านี้ ปรับตัวขึ้นสูงสุด 1.62% เนื่องจากกำลังได้รับ Sentiment เชิงบวก หลังถูกนักวิเคราะห์ในตลาดประเมินว่า การประกาศงบการเงินไตรมาส 3/65 ที่จะถึงนี้ ทาง BEM จะรายงานกำไรสุทธิ เติบโตอย่างโดดเด่น
*** เปิดสาเหตุทำไมงบ Q3/65 จ่อโตแกร่ง
บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเชีย พลัส ประเมินกำไรสุทธิไตรมาส 3/65 ของ BEM ไว้ที่ 867 ล้านบาท ทำระดับกำไรสุทธิสูงสุดใหม่รายไตรมาส (นิวไฮ) รอบ 3 ปี เติบโตขึ้น 700% จากปีก่อน และเติบโตขึ้น 37% จากไตรมาสก่อน มีปัจจัยหนุนจาก Ridership ที่มีแนวโน้มดีขึ้น อย่างต่อเนื่อง
โดยจำนวนผู้ใช้ทางด่วนของ BEM เฉลี่ยอยู่ที่ 1.07 ล้านคัน/วัน เติบโตขึ้น 60% จากปีก่อน และเติบโตขึ้น 4% จากไตรมาสก่อน (คิดเป็น 89% ของช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดโควิด-19) ขณะที่จำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าใต้ดิน อยู่ที่ 3.1 แสนเที่ยว/วัน เพิ่มขึ้น 293% จากปีก่อน และเพิ่มขึ้น 36% จากไตรมาสก่อน หลังศูนย์ประชุมสิริกิติ์ กลับมาจัดงานมหกรรมอีกครั้ง
ขณะที่ ต้นทุนมีการบริหารจัดการที่ดีขึ้น จากไตรมาสก่อน หลังรายได้เติบโตขึ้นทำให้เกิดการประหยัดต่อขนาด จึงคาด Gross margin จะปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 44.1% เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนที่อยู่ในระดับ 37.1% ส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริการ (SG&A) จะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 7.6% เทียบกับไตรมาสก่อนอยู่ที่ระดับ 9.3% เพราะมีค่าใช้จ่ายพิเศษที่เกิดขึ้นครั้งเดียว
สอดคล้องกับ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ที่มองว่า กำไรสุทธิไตรมาส 3/65 ของ BEM มีแนวโน้มเติบโตขึ้นทั้งเทียบปีก่อน และไตรมาสก่อน หลังการแพร่ระบาดโควิด-19 คลี่คลาย ส่งผลให้กิจกรรมการเดินทางฟื้นตัว สะท้อนจากปริมาณการใช้ทางด่วน และรถไฟฟ้าใต้ดิน ที่ฟื้นตัวเข้าใกล้สภาวะปกติ (ก่อนโควิด-19) ที่มีปริมาณผู้ใช้ทางด่วน 1.15 ล้านคัน/วัน และรถไฟฟ้าใต้ดินที่มีผู้ใช้บริการ 3.36 แสนเที่ยว/วัน
*** ผู้โดยสาร MRT จ่อฟื้นสู่ระดับปกติ Q4/65
บล.โนมูระ พัฒนสิน ประเมินกำไรสุทธิไตรมาส 4/65 ของ BEM ไว้ที่ 650 ล้านบาท เติบโตขึ้น 64% จากปีก่อน หลังการแพร่ระบาดโควิด-19 ลดความรุนแรงลง ส่งผลให้ปริมาณการเดินทางฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยคาดจำนวนผู้ใช้ทางด่วนจะกลับไปสู่ระดับ 89% ของช่วงก่อนการแพร่ระบาดโควิด-19
เช่นเดียวกับ จำนวนผู้ใช้รถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) ที่จะกลับสู่ระดับ 99% ของช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 ส่งผลให้กำไรสุทธิปี 65 ของ BEM จะอยู่ที่ 2.3 พันล้านบาท เติบโตขึ้น 129% จากปีก่อน
สอดคล้องกับ บล.พาย ที่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า จำนวนผู้ใช้รถไฟฟ้าใต้ดินในช่วงไตรมาส 4/65 มีแนวโน้มฟื้นตัวสู่ระดับ 3.6 แสนเที่ยว/วัน ซึ่งเป็นระดับที่เห็นครั้งสุดท้าย ช่วงเดือน ก.พ.63 แต่การกลับสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4.13 แสนเที่ยว/วัน ในเดือน พ.ย.62 คาดมีแนวโน้มได้เห็นอีกครั้งช่วงครึ่งหลังของปี 66 เมื่อจำนวนนักท่องเที่ยวขาเข้ารายเดือนแตะ 2 ล้านราย (เดือน ก.ย.65 อยู่ที่ 1.4 ล้านราย)
*** โบรกฯมองกำไรยังสดใสถึงปี 66
บล.เอเซีย พลัส มองว่า แนวโน้มการฟื้นตัวผลการดำเนินงานของ BEM ยังดูสดใสถึงปี 66 เป็นอย่างน้อย โดยประเมินกำไรสุทธิปี 66 ของ BEM ไว้ที่ 3.99 พันล้านบาท เติบโตขึ้น 44% จากปีก่อน มีปัจจัยหนุนจากการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวมากขึ้น ประกอบกับ ศูนย์ประชุมสิริกิติ์กลับมาเปิดอีกครั้ง โดยมีการเพิ่มพื้นที่ใหญ่กว่าเดิม 5 เท่า
ปัจจัยดังกล่าว ทำให้จำนวนผู้ใช้รถไฟฟ้าใต้ดินสถานีศูนย์สิริกิติ์ เติบโตก้าวกระโดด ตั้งแต่เดือน ต.ค.ที่ผ่านมา สะท้อนจากจำนวนผู้โดยสารช่วงวันทำงานปกติ เคยเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดที่ 4.2 แสนเที่ยว/วัน อีกทั้ง จำนวนผู้ใช้บริการทางด่วนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จากการกลับมาทำงานที่ออฟฟิศมากขึ้น และการเปิดเรียนแบบออนไซต์
ด้าน บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ประเมินกำไรสุทธิปี 66 ของ BEM ไว้ที่ 3.78 พันล้านบาท เติบโตขึ้น 53% จากปีก่อน มีปัจจัยหนุนจากจำนวนผู้ใช้บริการทางด่วน มีแนวโน้มฟื้นตัวกลับสู่ช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 ส่วนจำนวนผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดิน จะเริ่มเห็นศักยภาพการเติบโตที่แท้จริง จากการเปิดบริการครบวง และการกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างประเทศ
ขณะที่ นักวิเคราะห์อีก 2 ราย ประเมินกำไรสุทธิปี 66 ของ BEM ไว้ดังนี้
บล. |
กำไรสุทธิปี 66 (ลบ.) |
%chg YoY |
โนมูระฯ |
3,954 |
71 |
กรุงศรี |
3,715 |
38 |
*** กูรูมองราคาหุ้นยัง Laggard !
บล.กรุงศรี ระบุว่า แม้ผลประกอบการของ BEM จะมีแนวโน้มเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และมีแนวโน้มชนะการประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม แต่ราคาหุ้น BEM ในช่วงที่ผ่านมา กลับยังไม่ปรับตัวขึ้นมากเท่าไรนัก ซึ่งเราเชื่อว่าเป็นเพราะความกังวลเกี่ยวกับกฎเกณฑ์ของทางการยังเป็นปัจจัยกดดันราคาหุ้นไว้อยู่
อย่างไรก็ตาม เรามองว่าประเด็นดังกล่าว เป็นเพียงปัจจัยลบกวนเล็กน้อยเท่านั้น โดยคาดว่า BEM มีแนวโน้มเซ็นสัญญาโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มได้ก่อนสิ้นปี 65 ซึ่งจะช่วยเพิ่มอัพไซด์ให้กับราคาหุ้นอีกราว 1 บาท/หุ้น
ขณะที่ บล.เอเซีย พลัส มองว่า การเข้าลงทุนในหุ้น BEM ยังมีความน่าสนใจ สะท้อนจากผลการดำเนินงานที่กำลังฟื้นตัว ประกอบกับมีโครงการ Double Deck ทางด่วนชั้นที่ 2 ที่จะช่วยเพิ่ม Traffic ผู้ใช้ทางด่วนมากขึ้น อีกทั้ง ราคาหุ้น ณ ปัจจุบัน ยังมีอัพไซด์ค่อนข้างสูงราว 31% เมื่อเทียบกับราคาเหมาะสมของเราที่ 12 บาท/หุ้น
*** ส่วนใหญ่ยังคงแนะนำ"ซื้อ"
จากการสำรวจความคิดเห็นนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังคงแนะนำ"ซื้อ" เนื่องจากมองว่าผลการดำเนินงานของ BEM กำลังอยู่ในช่วงฟื้นตัวกลับสู่ระดับใกล้ปกติ (ก่อนโควิด-19) อีกทั้ง ราคาหุ้นในช่วงที่ผ่านมา ยังไม่ได้สะท้อนการเติบโตในอนาคต เห็นได้จากราคาหุ้นที่ยังค่อนข้าง Laggard
บล. |
คำแนะนำ |
ราคาเหมาะสม (บ.) |
เอเชีย พลัส |
ซื้อ |
12.00 |
หยวนต้า |
ซื้อ |
11.50 |
พาย |
ซื้อ |
11.40 |
โนมูระฯ |
ซื้อ |
11.05 |
ดาโอ |
ซื้อ |
10.20 |
ราคาเฉลี่ย |
11.23 |
แม้เช้านี้ราคาหุ้น BEM จะปรับตัวขึ้นสูงสุดเกือบ 3% แต่ราคาหุ้นที่ซื้อขาย ณ ปัจจุบัน ยังเหลืออัพไซด์ให้นักลงทุนได้ลุ้นอีกราว 20% เมื่อเทียบกับราคาเหมาะสมเฉลี่ยของโบรกเกอร์ อีกทั้งนักวิเคราะห์ ยังมองว่า ผลการดำเนินงานของ BEM จากนี้ มีแนวโน้มฟื้นตัวโดดเด่นอย่างน้อยถึงช่วงสิ้นปี 66 ...