"ซีพี ออลล์" คว้าสัญญาแฟรนไชส์ร้าน 7-Eleven ในประเทศกัมพูชา อายุสัญญา 30 ปี และอาจต่อสัญญาได้ถึง 40 ปี พร้อมลุ้นคว้าใบอนุญาต 7-Eleven ในสปป.ลาว เปิดเกมรุกร้านสะดวกซื้อเพื่อนบ้าน โบรกฯมั่นใจดีลกัมพูชาสดใส หลังตลาดค้าปลีกในไทยเริ่มเติบโตจำกัด ทำให้ต้องหาโอกาสขยายตลาดไปยังต่างประเทศ  เชื่อได้ฐานธุรกิจ MAKRO ช่วยหนุน

*** ปิดดีลขยายสาขา 7-Eleven ในกัมพูชา 30 ปี

     นายเกรียงชัย บุญโพธิ์อภิชาติ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL แจ้งว่า เมื่อวันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา CP ALL (Cambodia) Co., Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ได้ทำสัญญาแฟรนไชส์หลัก สำหรับดำเนินการร้าน 7-Eleven ในประเทศกัมพูชากับ 7-Eleven, Inc. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
 
    โดย CP ALL (Cambodia) Co., Ltd. ได้รับสิทธิแฟรนไชส์ในการจัดตั้งและดำเนินการร้าน 7- Eleven ในประเทศกัมพูชา เป็นเวลา 30 ปี และคู่สัญญาอาจตกลงต่ออายุสัญญาได้อีก 2 ครั้งๆละ 20 ปี ทั้งนี้ CP ALL (Cambodia) Co., Ltd. เป็นบริษัทย่อยที่จัดตั้งขึ้นใหม่ตามกฎหมายกัมพูชา เพื่อดำเนินธุรกิจร้าน 7-Eleven ตามสัญญาแฟรนไชส์หลักในกัมพูชา มีทุนจดทะเบียนเริ่มแรกเป็นจำนวนทั้งสิ้น 5,000 เหรียญสหรัฐ

*** ลุ้นคว้าใบอนุญาต 7-Eleven ในสปป.ลาว

     แหล่งข่าวจาก CPALL เปิดเผยถึงกรณี การทำสัญญาแฟรนไชส์ร้าน 7-Eleven ในประเทศกัมพูชา ว่า ถือเป็นการเปิดร้าน 7-Eleven แห่งแรกในประเทศกัมพูชา  ซึ่งในกัมพูชายังไม่เคยให้สิทธิ์บริษัทใดเข้ามาเปิดแฟรนไชส์ร้าน 7-Eleven มาก่อน และนับเป็นการขยายสาขาร้านสะดวกซื้อดังกล่าวออกไปยังตลาดต่างประเทศเป็นครั้งแรก

    นอกจากนี้ ซีพี ออลล์ ยังอยู่ระหว่างขอใบอนุญาตเปิดแฟรนไชส์ร้าน 7-Eleven ใน สปป.ลาว เพิ่มอีก 1 ประเทศด้วย และหากซีพี ออลล์  ได้รับใบอนุญาต จะทำให้ สปป.ลาว กลายเป็นประเทศที่ 2 ที่ ซีพี ออลล์ ขยายแฟรนไชส์ร้าน 7-Eleven ออกจากไทยด้วย 

*** บล.กสิกรไทย มองช่วยหนุนการเติบโตในระยะยาว

    ด้านนางสาวธรีทิพย์ วงษ์แสงไพบูลย์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์ หลักทรัพย์กสิกรไทย เปิดเผยว่า CPALL ได้สัญญาแฟรนไชส์ร้าน 7-Eleven ในกัมพูชา ถือว่าเป็นปัจจัยบวกต่อบริษัท เนื่องจากตลาดค้าปลีกในประเทศไทยเริ่มมีการเติบโตจำกัด จึงทำให้ CPALL ต้องหาโอกาสขยายตลาดแฟรนไชส์ร้าน7-Eleven ไปยังต่างประเทศเพื่อสร้างการเติบโตเพิ่มขึ้น

    ขณะเดียวกัน อุตสาหกรรมค้าปลีกในประเทศกัมพูชายังมีการแข่งขันที่ไม่ดุเดือดเหมือนเช่นตลาดค้าปลีกไทย ซึ่งปัจจุบันในกัมพูชามีผู้เล่นอยู่ในอุตสาหกรรมจำกัด และยังไม่มีจ้าวตลาดรายใหญ่ จึงทำให้เป็นโอกาสของ CPALL ที่จะเข้าไปแบ่งส่วนแบ่งตลาดในกัมพูชา และสร้างการเติบโต นอกจากนี้เมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา CPALL ยังเคยขยายสาขา Makro เข้ามายังกัมพูชา จึงทำให้ CPALL พอจะมีข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภคในกลุ่มต่างๆ สำหรับนำมาประยุกต์เป็นกลยุทธ์การขายได้อีกด้วย 

    ทั้งนี้ บล.กสิกรฯ มีมุมมองว่าการเปิดแฟรนไชส์ร้าน 7-Eleven ในกัมพูชาของ CPALL จะเป็นการดำเนินงานอย่างค่อยเป็นค่อยไป และค่อยๆดูกระแสตอบรับของลูกค้า จากนั้นจึงขยายใหญ่ขึ้น

*** บล.เมย์แบงก์ มองเป็นบวก แต่ใน 1-2 ปี อาจยังไม่เห็นภาพชัด
    
    นางสาวสุทธาทิพย์ พีรทรัพย์ นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์เมย์แบงก์กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า CPALL ได้ทำสัญญาแฟรนไชส์หลัก สำหรับดำเนินการร้าน 7-Eleven ในประเทศกัมพูชา มองว่าเป็นผลบวกในระยะยาว เนื่องจากเป็นโอกาสของการขยายการลงทุนของร้าน7-Eleven ไปยังต่างประเทศ

    ขณะเดียวกันเชื่อว่าจะส่งผลดีในด้านการที่แม็คโคร มีสาขาที่ประเทศกัมพูชาอยู่แล้ว จึงอาจจะช่วยเป็นศูนย์กระจายสินค้า หรือแหล่งวัตถุดิบสินค้าให้กับ 7-Eleven ได้ อย่างไรก็ตามประเมินว่าในช่วงระยะ 1-2 ปีอาจจะยังไม่เห็นผลบวกมากนัก เนื่องจากจะต้องรอดูพฤติกรรมของผู้บริโภคว่าจะมีการปรับตัวอย่างไร 
    
    "ภาพรวมแล้วก็เป็นในเชิงบวก เพราะขยายการลงทุนไปยังประเทศเพื่อนบ้านนอกเหนือจากไทย แต่เชื่อว่าใน 1-2 ปี อาจจะยังไม่เห็นภาพชัดมากนัก เนื่องด้วยต้องรอดูพฤติกรรมของผู้บริโภค เพราะการจะเปลี่ยนซื้อสินค้าจากเดิมซื้อร้านปกติและไปซื้อในโมเดิร์นเทรดสะดวกซื้อจะเป็นอย่างไร แต่เชื่อว่าทาง CPALL คงจะทยอยเปิด เพราะมีสัญญาระยะยาว"