efinancethai

ข่าวนี้ที่ 1

MINT จ่อปิดดีลขายโรงแรม 1.5 หมื่นลบ.-ครึ่งปีหลังธุรกิจฟื้นชัด

MINT จ่อปิดดีลขายโรงแรม 1.5 หมื่นลบ.-ครึ่งปีหลังธุรกิจฟื้นชัด

    "ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล(MINT)" เร่งสรุปดีลขายโรงแรมในยุโรป 4-5 แห่ง มูลค่า 1-1.5 หมื่นลบ.ในไตรมาส 2-3 ปีนี้ หวังตุนเงินสด ยันสภาพคล่องเพียงพอ มีเงินสด-เงินกู้-วอร์แรนต์ รวมกว่า 6 หมื่นลบ. มั่นใจผลงานปีนี้ดีกว่าปีก่อน ลุ้นธุรกิจโรงแรมฟื้นครึ่งปีหลัง ด้านโบรกฯมองฐานะการเงินแข็งแกร่ง แนะซื้อ ให้เป้า 35 บาท

*** จ่อสรุปดีลขายโรงแรมในยุโรป มูลค่า 1-1.5 หมื่นลบ.

    นายชัยพัฒน์ ไพฑูรย์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาเชิงกลยุทธ์ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาขายสินทรัพย์ประเภทโรงแรมในยุโรปจำนวน 4-5 แห่ง มูลค่ารวมประมาณ 10,000-15,000 ล้านบาท และอาจมีบางแห่งที่บริษัทจะเข้าไปเช่ากลับเพื่อดำเนินธุรกิจต่อ หรือบางแห่งอาจใช้แบรนด์ของกลุ่มบริษัทต่อไป โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนในช่วงไตรมาส 2-3 ปีนี้

*** ตุนเงินสด-เงินกู้-วอร์แรนต์ รวมกว่า 6 หมื่นลบ.

    ขณะที่แผนธุรกิจปีนี้บริษัทยังเตรียมความพร้อมรองรับกับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนในระยะสั้น และให้ความสำคัญกับการรักษาสภาพคล่อง รวมถึงลดกระแสเงินสดจ่าย พร้อมยืนยันว่าสภาพคล่องของบริษัทในปัจจุบันเพียงพอสำหรับการผ่านพ้นวิกฤติในรอบนี้ หลังมีกระแสเงินสดอยู่กว่า 2.5 หมื่นล้านบาท และมีวงเงินสินเชื่อจากสถาบันการเงินอีก 2.8 หมื่นล้านบาท รวมถึงยังมีเงินที่จะได้จากการใช้สิทธิแปลงวอร์แรนต์ของผู้ถือหุ้นในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า อีกราว 1 หมื่นล้านบาท

*** มั่นใจผู้ถือหุ้นใหญ่ใช้สิทธแปลงวอร์แรนต์

    บริษัทมั่นใจว่าทั้งผู้ถือหุ้นใหญ่และผู้ถือหุ้นรายย่อยจะให้การสนับสนุนและใช้สิทธแปลงวอร์แรนต์เต็มที่ เนื่องจากราคาหุ้นของบริษัทในปัจจุบันที่สูงกว่าราคาใช้สิทธิ จึงทำให้ผู้ถือหุ้นที่อยากได้กำไรจากวอร์แรนต์ก็เพียงใช้สิทธิแปลงสภาพของวอร์แรนต์และนำหุ้นไปขายในตลาด ทำให้บริษัทไม่กังวลในเรื่องนี้มากนัก

*** มั่นใจผลงานปีนี้ดีกว่าปีก่อน ลุ้นโรงแรมฟื้นครึ่งปีหลัง

    บริษัทมั่นใจผลประกอบการปี 64 จะฟื้นตัวดีขึ้นกว่าปีก่อนอย่างแน่นอน เนื่องจากคาดว่าการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวจะกลับมาชัดเจนในช่วงครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่คาดจะเริ่มทยอยกลับมาหากเปิดให้มีการเดินทางตามปกติ

    อย่างไรก็ตาม ยอมรับผลงานปีนี้อาจยังไม่กลับไปเท่ากับปี 62 เพราะยังมีความไม่แน่นอนของสถานการณ์ในระยะสั้นและระยะกลาง ซึ่งต้องใช้เวลากว่าจะฟื้นตัวชัดเจนในช่วงครึ่งปีหลัง

    สำหรับธุรกิจอาหารคาดว่าปีนี้จะสามารถสร้างกำไรให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง หลังจากเริ่มกลับมามีกำไรตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3-4 ของปีก่อน ในส่วนธุรกิจโรงแรมน่าจะปรับตัวดีขึ้นกว่าปีก่อนเช่นกัน โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจโรงแรมในยุโรปที่ปีก่อนได้รับผลกระทบหนักที่สุด แต่ปัจจุบันเริ่มมีการฉีดวัคซีนของหลายประเทศและเริ่มมีการเปิดให้คนท่องเที่ยวในกลุ่มประเทศแถบยุโรปมากขึ้น

*** บล.โนมูระฯ แนะ "ซื้อ" ให้เป้า 35 บาท
    
    บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) โนมูระ พัฒนสิน ระบุว่า มีมุมมองเป็น Neutral หลังเข้าร่วมประชุมนักวิเคราะห์ โดยฐานะทางการเงินของ MINT เริ่มผ่อนคลาย โดยประเมินผลบวกจาการขายสินทรัพย์ และการใช้สิทธิแปลง Warrant ทำให้ IBD/E ต่ำลงเหลือ 1.46x (ต่ำกว่า Debt covenant ที่ 1.75x)
    แนวโน้ม Q1/64 คาดระดับผลขาดทุนปกติที่ราว 4.0-4.5 พันลบ. ใกล้เคียงกับ 4Q20 เพราะผลกระทบจากการระบาดระลอก 2 ประกอบกับการท่องเที่ยวยุโรปเข้าสู่ low season ทั้งนี้ MINT อยู่ระหว่างประเมินค่าใช้จ่ายพิเศษต่อการตั้งด้อยค่าสินทรัพย์ โดยจะบันทึกใน 1Q21F ซึ่งอาจเป็น overhang ต่อราคาหุ้นในระยะสั้น
    ยังคงประมาณการผลขาดทุนปกติปี 64 ที่ -1.0 หมื่นลบ. (ฟื้นตัวจาก -2.0 หมื่นลบ. ในปี 63) และคาดธุรกิจโรงแรมฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญในครึ่งปีหลังนี้ ตามการทยอยปลดล็อคการเดินทางท่องเที่ยวระหว่างประเทศ
    คงคำแนะนำ Buy ด้วย TP22F ที่ 35 บาท และยังคงเลือก MINT เป็น Top pick ของกลุ่มฯ โดยเรายังคงมุมมองบวกต่อโรงแรมของ MINT จะฟื้นตัวเร็วกว่าคู่แข่งหนุนจากยุโรปที่มี domestic demand แกร่ง และความกังวลต่อฐานะทางการเงินเริ่มคลี่คลาย
 







ข่าวหุ้นอื่นๆที่น่าสนใจ

RECOMMENDED NEWS

ข่าวหุ้นยอดนิยม

Refresh


LATEST NEWS

ข่าวหุ้นล่าสุด

Refresh

ดูข่าวทั้งหมด