efinancethai

FinTech

Bitcoin ETF คืออะไร จะทำให้ Bitcoin ขึ้นจริงหรือ?

Bitcoin ETF คืออะไร จะทำให้ Bitcoin ขึ้นจริงหรือ?

 

Bitcoin ETF คืออะไร จะทำให้ Bitcoin ขึ้นจริงหรือ?

 

 

***BlackRock ผลักดัน Bitcoin ETF อีกครั้ง

 

เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา BlackRock กองทุนขนาดยักษ์ใหญ่ของโลกได้ยื่นจด Bitcoin spot ETF ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) ของสหรัฐฯ อีกครั้ง เพื่อเพิ่มช่องทางการลงทุนใน Bitcoin ให้กับนักลงทุน 

 

การเกิดขึ้นของกองทุน Bitcoin Spot ETF นั้นจะส่งผลให้นักลงทุนที่ไม่คุ้นเคยกับสินทรัพย์ดิจิทัล และการจัดเก็บรักษา Bitcoin ด้วยตนเองนั้นเป็นไปอย่างง่ายดายและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น จึงอาจกล่าวได้ว่า Bitcoin Spot ETF ช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นของนักลงทุนใน Bitcoin และอาจเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่จะเกิดขึ้นกับ Bitcoin ในช่วงเวลานี้ เพราะหลังจากข่าวนี้ออกมาได้ไม่นาน ราคาของเหรียญ Bitcoin ได้ปรับตัวสูงขึ้นมายืนเหนือระดับ $30,000 ได้เลยทีเดียว

 

นอกจากนี้ หลัง BlackRock ยื่นคำขอ Bitcoin spot ETF แล้ว กองทุนระดับโลกหลายเจ้าทั้ง Fidelity, Invesco, Wisdom Tree และ Valkyrie ยื่นขอเปิดตัว Bitcoin ETF ตามหลัง BlackRock ทันที

 

***กองทุน Bitcoin Spot ETF คืออะไร?

 

Bitcoin ETF (Exchange-Traded Fund) คือกองทุนที่ซื้อขายได้ในตลาดหลักทรัพย์แต่ไม่ใช่การลงทุนโดยตรงใน Bitcoin โดยตรง สำหรับ Bitcoin ETF คือการรวมเงินลงทุนจากผู้ลงทุนหลายคนเข้าด้วยกันเพื่อลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นพันธบัตร (Digital Asset) ที่เชื่อมโยงกับราคาของ Bitcoin โดย ETF จะมีการซื้อขายกันบนตลาดหลักทรัพย์เช่นเดียวกับหุ้นปกติ ผู้ลงทุนสามารถซื้อหรือขายหุ้น Bitcoin ETF ตลอดวันทำการ และมีความสะดวกสบายในการซื้อขายและลงทุนใน Bitcoin โดยไม่ต้องมีกระเป๋าสตางค์ Bitcoin หรือรับผิดชอบในการรักษาความปลอดภัยของเหรียญดิจิทัลเอง ซึ่งทำให้ผู้ลงทุนที่สนใจ Bitcoin สามารถลงทุนใน Bitcoin ETF ได้อย่างง่ายดาย นับเป็นวิธีการลงทุนที่เข้าถึง Bitcoin แบบอื่น ๆ ที่ไม่เคยมีอยู่ก่อนหน้านี้

 

***กองทุน Bitcoin Spot ETF จะส่งผลให้ราคา Bitcoin ขึ้นได้จริงหรือไม่

 

สำหรับ Bitcoin เป็นเหรียญที่มีมูลค่าตามตลาดอันดับหนึ่งของโลก ด้วยมูลค่ากว่า 5.14 แสนล้านดอลลาร์ (ราว 18 ล้านล้านบาท) โดย Bitcoin เปรียบเสมือนจุดกำเนิดของตลาด Cryptocurrency ซึ่งจากช่วงเวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมา ได้มี       เหรียญใหม่ๆ เกิดขึ้นตามมาหลายหมื่นเหรียญ จากกระแสความนิยมในการใช้ช่องทาง Cryptocurrency ในการระดมทุน ที่เรียกกันว่า ICO ซึ่งจะเห็นได้ว่า การเกิดขึ้นใหม่ของเหรียญต่างๆ นั้นได้แย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดของ Bitcoin ไป แต่พัฒนาการที่ดีต่างๆ และความนิยมในการนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้แลกเปลี่ยนสินค้าหรือโอนเงินไปต่างประเทศ ก็ทำให้ขนาดและมูลค่าตลาดของ Cryptocurrency ใหญ่ขึ้นมาก 

 

จากข้อมูลล่าสุดของเว็บไซต์ https://coinmarketcap.com/ วันที่ 10 กรกฎาคม 2566 รายงานว่า มูลค่าตลาดของ Cryptocurrency สูงถึง 1.18 Trillion Dollar เลยทีเดียว 

 

แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมา Bitcoin จะสูญเสียส่วนแบ่งมูลค่าการตลาดไปมาก จนลดลงสู่ระดับ 37% ในช่วงต้นปี 2566 ขณะที่ในอดีตเคยครองส่วนแบ่งการตลาดสูงถึง 70% ในปี 2564  

 

 

จากภาพจะเห็นได้ว่า หลังจากช่วงต้นปี 2566 เป็นต้นมา ส่วนแบ่งการตลาดของ Bitcoin ได้เริ่มทะยานสูงขึ้นมาอีกครั้ง และไต่ระดับอย่างต่อเนื่อง จนเกือบแตะที่ 50% แล้ว หลังจากความนิยมในเหรียญ Crypto สกุลอื่นได้ลดลงไป อีกทั้งยังมีการกำกับดูแลเหรียญต่างๆ จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) ของสหรัฐฯ อย่างเข้มข้น ทำให้เม็ดเงินไหลออกจากเหรียญต่างๆ กลับเข้ามาสู่ Bitcoin อีกครั้ง สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลอย่าง Bitcoin เสมอ 

 

และหลังจากมีข่าวกองทุน BlackRock และกองทุนขนาดใหญ่กองอื่นๆ ของโลกได้ยื่นจด Bitcoin spot ETF ก็ยิ่งแสดงให้เห็นว่าความนิยม และความเชื่อมั่นในการลงทุน Bitcoin อีกทั้งหาก กลต. ของสหรัฐอนุมัติ Bitcoin Spot ETF ตัวแรกของโลกนี้ เม็ดเงินใหม่ๆ จะไหลเข้าสู่เหรียญ Bitcoin ผ่านกองทุน ETF นี้อย่างแน่นอน 

 

ปัจจุบันราคา Bitcoin ได้ปรับตัวสูงขึ้นจากช่วงต้นปี 2566 ที่ราคา $16,547 มาสู่ $30,200 ซึ่งเป็นการปรับขึ้นมากว่า 82.5% และได้กลายเป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนอันดับ 1 ของโลกในปีนี้อีกครั้งนึง

 

 

 

 

กราฟิก: ณัฐชนน พูนชัย (Boom) 

 







บทความอื่นๆที่น่าสนใจ



RECOMMENDED NEWS

ข่าวหุ้นยอดนิยม

Refresh