NFT Ticket : The Next Big Thing
ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ถึงต้นปีที่ผ่านมาเหมือนเป็นปีที่กิจกรรมต่างๆ เริ่มกลับมาจัดงานกันอย่างจริงจัง หลังจากที่ห่างหายไปกว่า 3 ปี จากโควิด ที่เหมือนโลกจะถูกหยุดไว้ไปชั่วขณะ กิจกรรมการท่องเที่ยว สัมมนา คอนเสิร์ต ที่มีการพบปะของผู้คนทั้งหลายเริ่มกลับมาคึกคัก ซึ่งไม่ใช่แค่เมืองไทยแต่ทั่วโลกก็เริ่มกลับมาสู่ภาวะปกติ
ตามที่เราเห็นว่าผู้คนเริ่มออกเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ แต่ละสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ชื่อดัง ก็เริ่มเห็นคนไปงานกันแบบอุ่นหนาฝาคั่ง คนล้นกันออกมาในหลายจุดทั่วโลก โดยเฉพาะช่วงสงกรานต์ เราได้เห็นผู้คนออกมาเล่นน้ำ มีทั้ง Music Events และ Concerts ต่างๆ ที่คนแน่นเบียดเสียดมาสนุกสนานกันอย่างที่ไม่ได้เห็นมานาน
ในงานต่างๆ ช่วงสงกรานต์ มีหนึ่งงานที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง คือ งาน S2O ของทางพี่วู้ดดี้ พิธีกรชื่อดัง ที่มีชื่อมาจาก Songkran มารวมกับ H2O ที่แปลว่าน้ำ ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเป็น Music Festival ระดับโลก และจะมีการขยายไปหลายประเทศ ราคาที่นั่งระดับ VIP มีราคาถึง 1.5 ล้านบาท ตั๋วเข้างานมีการขายต่อ ราคาพุ่งสูงขึ้นไปหลายเท่า ผู้คนจากทั่วโลกต่างจับจองอยากจะเข้ามาเล่นน้ำสงกรานต์ที่งานนี้ ทำให้รู้สึกว่าปีนี้น่าจะเป็นปีทองของงานคอนเสิร์ต Music Event ต่างๆ แน่นอน
วันนี้เลยกลับมานึกถึงเทคโนโลยีที่มีแนวโน้มจะมาช่วยจัดการและสร้าง Community ของงานต่างๆ เหล่านี้ นั่นก็คือ NFT Ticket นั่นเองครับ
NFT Ticket คืออะไร
จากเทคโนโลยี NFT หรือ Non Fungible Token ซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษที่เป็น Token บนบล็อกเชนที่มีชิ้นเดียวในโลก สามารถแสดงความเป็นเจ้าของ และสามารถส่งต่อกันได้ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต โดยทุกธุรกรรมที่เกิดขึ้น สามารถตรวจสอบได้ จึงทำให้มีแนวคิดในการนำ NFT มาแทนตั๋ว บัตรสมาชิก หรือบัตรเข้างาน จะช่วยแก้ปัญหาในหลายๆ เรื่องของระบบตั๋วในปัจจุบัน 3 เรื่องใหญ่ๆ ไม่ว่าจะเป็น
เรื่องแรกคือการซื้อขายตั๋วในตลาดมืดหรือตั๋วผี ที่เราเคยได้ยิน ซึ่งถือเป็นปัญหาสำคัญอันยาวนานของธุรกิจตลาดตั๋วต่างๆ ที่เมื่อมีงานที่เป็นที่นิยม จะมีกลุ่มคนที่เหมาซื้อตั๋วเพื่อไปขายต่อที่ทำเป็นอาชีพ ทำให้ผู้ที่ต้องการซื้อตั๋วต้องจ่ายเงินในราคาแพงกว่าที่ควร โดยที่ผู้จัดงานไม่สามารถทำอะไรได้เลย แถมยังไม่ได้ประโยชน์จากส่วนต่างนั้นๆ
เรื่องที่ 2 เป็นเรื่องของการที่ไม่มีตลาดรองที่น่าเชื่อถือ ตั๋วที่ขายจะถูกกระจายไปขายตาม เว็บไซต์ เว็บบอร์ดหรือชุมชนต่างๆ ไม่สามารถตรวจสอบถืงความถูกต้องของตั๋วว่าเป็นของแท้จริงหรือไม่ รวมถึงไม่สามารถตามได้ว่าตั๋วนี้ถูกขายไปกี่ทอดแล้ว สุดท้ายที่น่าจะสำคัญที่สุด คือเรื่องของข้อมูลของผู้ซื้อตั๋ว
เรื่องที่ 3 ปัจจุบันผู้จัดงานจะไม่สามารถทราบได้เลยว่าใครเป็นผู้ที่จะเข้ามาที่งาน ซึ่งถือเป็นข้อมูลสำคัญที่จะนำไปวิเคราะห์ รวมถึงการนำมาสร้างชุมชน Community ของคนที่ชื่นชอบในสิ่งเดียวกัน ซึ่งจะเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆสำหรับการตลาดในปัจจุบัน
NFT Ticket จึงเป็นการนำเทคโนโลยีมาช่วยแก้ปัญหาปัจจุบันของการขายตั๋วแบบปกติ ไม่ว่าจะเป็นแบบกระดาษหรือแบบ e-Ticket ที่หลายที่เริ่มใช้กัน ซึ่งสามารถสรุปประโยชน์สำคัญของ NFT Ticket ดังนี้
1.การป้องกันตั๋วปลอมหรือการหลอกลวง
ด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชนที่ไม่สามารถแก้ไขได้ ถูกนำมาแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้อย่างถูกจุด NFT Tickets เมื่อถูกขายจะมีการเก็บข้อมูลในบล็อกเชน ซึ่งทุกคนสามารถตรวจสอบได้เสมอว่าผู้ที่สร้าง NFT นั้นเป็นใคร ไม่สามารถสร้างเพิ่มได้โดยคนอื่น
รวมถึงเมื่อมีการส่งต่อทุกครั้งจะมีการเก็บข้อมูล ดังนั้นเมื่อจะมีการซื้อ NFT Tickets ทุกคนสามารถตรวจสอบได้ก่อนว่าตั๋วนั้นเป็นของจริงหรือไม่ผ่านข้อมูลที่อยู่ใน Blockchain และผ่านมือใครมาบ้างบนตลาดรองการขายตั๋วที่ได้กำหนดไว้ ทำให้เกิดความโปร่งใส และถูกต้องเสมอของตั๋วแต่ละประเภท
ในขณะเดียวกันสำหรับตั๋วบางประเภทที่อยากจะกำหนดว่าไม่ให้มีการส่งต่อ เรายังสามารถเขียนโปรแกรมเพิ่มเติมเข้าไปใน NFT นั้นๆ ได้เช่นกันเพื่อเป็นการป้องกันการขายต่อหรือเปลี่ยนเจ้าของได้อีกด้วย
2.รายได้ที่เพิ่มขึ้นของผู้จัดงาน
เพราะ NFT สามารถเขียนโปรแกรม หรือเขียนเงื่อนไขเพิ่มเติมได้สำหรับตั๋วแต่ละประเภท จึงมีการเขียนเงื่อนไขในเรื่องของการแบ่งรายได้ตั้งแต่เริ่มต้นได้เช่นกัน เช่น เมื่อขาย NFT จะแบ่งรายได้ไปตามผู้ผลิตหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทันที
อีกเรื่องที่สำคัญคือ สามารถเขียนให้มีการแบ่งรายได้กับผู้จัดงานเมื่อมีการขายต่อ (Royalty Fee) ที่เมื่อมีการขายต่อ ผู้จัดงานสามารถได้รับส่วนแบ่งด้วย อาจะเป็นจำนวน % ของราคาขาย ดังนั้นเมื่อมีการขายต่อในราคาสูง ผู้จัดงานก็ได้ส่วนแบ่งด้วย ถือเป็นการส่งเสริมการส่งต่อที่เป็นธรรมกับผู้จัดงานที่จะไม่อยู่ในมือของผู้ขายต่อแต่เพียงผู้เดียว
3.โอกาสในการเพิ่มรายได้
เนื่องจาก NFT คือเหรียญที่สามารถเขียนเงื่อนไขเพิ่มขึ้นได้ ดังนั้นจึงมีการต่อยอดในหลายมุมที่สามารถเพิ่มรายได้ให้กับผู้จัดงานได้ เช่น การมอง NFT Ticket ให้เหมือนกับของสะสมที่สามารถขายต่อได้ ถือเป็นการต่อยอดจากตั๋วปกติเป็นของสะสม ดีงดูดแฟนคลับให้สะสมให้ครบตาม Collection ที่ได้วางไว้ หรือเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้กับผู้ถือ NFT ให้สามารถได้ส่วนลดเพิ่มเติมในสินค้าและบริการอื่นๆ ทำให้นอกจากจะเป็นตั๋วเข้างานแล้ว ยังสามารถเพิ่มมูลค่าให้คนมาสะสม ตามหา และเกิดการส่งต่อ แม้ว่าจะจบงานไปแล้ว ช่วยให้เกิดรูปแบบการได้รายได้แบบใหม่ๆ ได้อย่างไม่สิ้นสุด
4.สร้างชุมชนหรือ Community
เพื่อโอกาสในการจัดกิจกรรมต่อเนื่อง สำหรับผู้ถือ NFT Ticket ซึ่งถือเป็นสินทรัพย์ที่มีเพียงหนึ่งเดียว ดังนั้น จะสามารถใช้เป็นตัวแทนในการเข้าร่วมชุมชนที่มีความชื่นชอบในเรื่องเดียวกัน นอกจากจะใช้ NFT Ticket เป็นบัตรผ่านเข้างานแล้ว ยังสามารถเพิ่มให้เป็นบัตรผ่านเข้าสู่ชุมชนได้อีกเช่นกัน เพราะ NFT จะไม่หายไปไหน จะอยู่ในกระเป๋าของผู้ซื้อตลอดไป ถ้าไม่มีการส่งต่อออกไป การสร้างชุมชนจะเกิดประโยชน์มหาศาลกับผู้จัดงาน เพราะผู้จัดงานจะได้มีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าของตนเองต่อเนื่องไปได้ สามารถเสนอสินค้าและบริการได้อีกต่อไป
5.ค่าใช้จ่ายที่ถูกลง
เพราะการสร้าง NFT นั้นปัจจุบันมี Platform ที่ช่วยดำเนินการอยู่แล้ว ผู้ที่ต้องการสร้าง NFT สามารถสร้างเสร็จพร้อมขายภายในเวลาไม่กี่นาที ด้วยต้นทุนที่ไม่มาก โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับการขายตั๋วแบบปกติที่ต้องมีค่าใช้จ่ายในการพิมพ์หรือทำตั๋ว
***ใครใช้ NFT Ticket บ้าง?
จะเห็นได้ว่า NFT ตอบโจทย์มากๆ สำหรับการนำมาใช้เป็นตั๋ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการที่ NFT เป็น Token ที่มีชิ้นเดียวในโลก มีจำนวนที่แน่นอน สามารถซื้อขายต่อได้ และสามารถสร้างชุมชนก่อให้เกิดการใช้งานได้อย่างลงตัวในหลายธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจเกี่ยวกับเพลง หรือไปจนถึงธุรกิจเกี่ยวกับกีฬา สามารถนำ NFT มาใช้ต่อยอดได้หลากหลายจากปกติที่เป็นเรื่องการเข้างานเพียงอย่างเดียว ไม่ว่าจะเป็นสิทธิพิเศษ (Additional Benefits) ประสบการณ์ใหม่ๆ (New Experience) ไปจนถึงชุมชนที่มีส่วนร่วมกัน (Community engagement)
ตัวอย่างของ NFT Ticket สามารถนำไปใช้ได้หลากหลายรูปแบบ และถือเป็นอีกหนึ่งแนวโน้มสำคัญที่ทำให้การใช้งานของ NFT สามารถเข้าถึง Mass Adoption ได้จริง ยกตัวอย่างเช่น
- Coachella งาน Music Festival ได้สร้าง NFT Marketplace เป็นของตัวเอง แบะได้มีการขาย lifetime pass ticket ที่ขายได้ถึงใบละ $250,000
- Rolling Loud หนึ่งในงาน Hip-Hop Festival ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ออก Loudpunx PFP NFT ที่สามารถเป็นตั๋วเข้างาน Rolling Loud Music Festival ได้ทั่วโลก
- AfterParty อีกหนึ่งผู้จัดงาน Music Festival ก็ได้เริ่มทำ NFT-gated music and Art Festival ใน Lasvegas ที่มีผู้เข้าชมกว่า 6,000 คน
- Coinbase’s Governors Ball Music Festival ที่แถม NFT ฟรีให้กับผู้ซื้อตั๋ว และสามารถนำไปใช้ในการเข้า VIP lounge ได้อีกด้วย
- South by South West (SXSW) ผู้จัดงาน SXSW Festival ก็ได้ขาย NFT Merchandise ที่สามารถใช้เข้างานได้ด้วย
- King of Leon ที่ขาย NFTs ที่ให้สิทธิในการได้ที่นั่งแถวหน้าของคอนเสิร์ตของเค้าทุกครั้ง
- Warner Media’s DC Comic ที่ขาย NFTs เกี่ยวกับการ์ตูนที่ได้สิทธิในการเข้า DC FanDome event
- Gary Vee’s NFT ที่ให้สิทธิ 3 ปีสำหรับตั๋วพิเศษของ VeeCon Conference
- Wimbledon ออกขาย Andy Murray’s 2013 win NFT ที่ให้สิทธิพิเศษในการได้ Esclusive Ticket ในการแข่งขัน Wimbledon Gentlemen’s Final 2020 พร้อมรับสิทธ 2 VIP tour สนาม Wimbledon และการที่ได้ตีเทนนิส 30 นาทีกับ Murray จริงๆด้วย
- The NFL ผู้จัดการแข่งอเมริกันฟุตบอล ออก NFT Tickets ที่สามารถเข้าชม 100 games ในปี 2022
นี่เป็นเพียงตัวอย่างส่วนหนึ่งของ NFT Ticketing ที่ในอนาคตตั๋วเข้างานจะไม่ใช่เป็นแค่ตั๋วอีกต่อไป แต่ยังคงหมายถึงสิทธิพิเศษที่ให้กับผู้ถือและเป็นของสะสมอันล้ำค่าในอนาคตอีกด้วย ตอนนี้ยังเรียกว่าเป็นช่วงเริ่มต้นของเทคโนโลยี ซึ่ง NFT ยังมีความกังวลในเรื่องของความเข้าใจของผู้บริโภคและการนำไปใช้งานจริงๆ แบบทั่วไป แต่ผู้จัดงานและบริัทขายตั๋วต่างๆ กำลังจับตามองเทคโนโลยีตัวนี้อย่างใกล้ชิด ด้วยประโยชน์อันมากมายเมื่อเทียบกับการขายตั๋วแบบปกติ เป็นอีกหนึ่ง used case สำคัญของบล็อกเชน ที่จะนำคนเข้าสู่โลกของ Web3 ได้อย่างมากมายในอนาคตอันใกล้ มาร่วมติดตามกันนะครับ
Ref.
https://www.developcoins.com/nft-ticketing-marketplace
https://supraoracles.com/academy/the-complete-guide-to-nft-tickets/
https://www.leewayhertz.com/how-nft-ticketing-works/
https://nftnow.com/features/nft-tickets-are-the-future-of-live-music/
https://cointelegraph.com/news/what-is-nft-ticketing-and-how-does-it-work
https://www.marketingoops.com/digital-transformation/what-is-the-nfts-tickets/
https://nftinvestorjournal.com/nft-ticketing-companies/
https://queue-it.com/blog/nft-ticketing/
กราฟิก: ณัฐชนน พูนชัย (Boom)