NFT ตายแล้วจริงหรือ?

จากตลาดคริปโทเคอร์เรนซีที่อยู่ในเทรนด์ขาลงอย่างมากในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ราคาของ Bitcoin เหรียญยอดนิยมมากที่สุด มีราคาสูงสุดในเดือนพฤศจิกายน 2564  ที่ 69,000 ดอลลาร์ ลดลงไปสู่ 17,600 ดอลลาร์ต่อ Bitcoin  ในเดือนที่แล้ว หรือลดลงกว่า 75%  เช่นเดียวกับมูลค่าตลาดรวมของคริปโทเคอร์เรนซีทั้งหมดที่เหลืออยู่  9.01 แสนล้านดอลลาร์ จากจุดสูงสุดที่กว่า 3 ล้านล้านดอลลาร์  (จากข้อมูลของ Coinmarketcap.com)  

ประกอบกับการล่มสลายของเหรียญ LUNA และความไม่แน่นอนของหลายๆ โครงการที่ทำให้เกิดกระแสข่าวด้านลบมากมายเกี่ยวกับคริปโทเคอร์เรนซี ทำให้หลายๆ คนเริ่มมองว่าคงใกล้ถึงจุดจบหรือไม่มีทางที่จะเดินต่อได้ของคริปโทเคอร์เรนซีแล้ว 

“และแน่นอนที่ผลกระทบโดยตรงกับคริปโทเคอร์เรนซีที่ลงมากขนาดนี้ ก็คือ การลดลงของจำนวนการขาย และราคาของ NFT ที่มีการเทรดก็ลดลงเช่นกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจาก NFT ส่วนใหญ่ใช้คริปโทเคอร์เรนซีในการซื้อขายและอ้างอิงกับราคาของคริปโทเคอร์เรนซีนั่นเอง”  

จากข้อมูลของ dappradar.com ตลาด NFT Marketplace ที่ใหญ่ที่สุดของโลกอย่าง Opensea ก็มีจำนวน Volume การซื้อขายลดลงมาตลอดในปีนี้ หรือราคาของ NFT collection ชื่อดังอย่าง Bored Ape Yacth Club ที่ราคา floor price หรือราคาต่ำสุดที่มีการซื้อขายกันอยู่มีการลดลงมากว่าครึ่งราคา เหลือเพียง 80 ETH จากราคา floor สูงสุดที่ 153.7 ETH (coingecko.com) ทำให้หลายคนเริ่มมองว่า NFT จะสามารถฝ่าวิกฤตครั้งนี้ไปได้อย่างไร และเกิดคำถามว่า NFT ใกล้ตายแล้วจริงๆ หรือไม่

“ก่อนอื่นต้องบอกว่า NFT ในวันนี้ถือเป็นขาลงชัดเจน และยังไม่มีที่ท่าว่าจะกลับตัวเมื่อไหร่ แต่เมื่อมองว่า NFT ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่มากับบล็อคเชนและเพิ่งเกิดมาเพียง 4 ปี และเพิ่งเป็นที่รู้จักกันมากขึ้นภายในเวลาไม่เกิน 1 ปีที่ผ่านมาเท่านั้น ซึ่งก็คงเหมือนกับหลายๆ เทคโนโลยีที่ในช่วงแรกจะมีความผันผวนอย่างมาก วันนี้เลยอยากจะมาชวนคุยในอีกหนึ่งมุมมองที่น่าสนใจของ NFT ในช่วงตลาดขาลงแบบนี้”

ความสนใจของคนกับ NFT

แม้ว่าราคาและจำนวนการซื้อขายของ NFT จะลดลงอย่างชัดเจน แต่มีข้อมูลจาก thecoinrepublic.com ได้แจ้งว่าการ Search หรือหาข้อมูลเกี่ยวกับ NFT จาก Google มีแนวโน้มสูงขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะในสิงคโปร์และฮ่องกงที่มีการค้นหาข้อมูลสูงขึ้นอันดับต้นๆ มีการค้นหาข้อมูลกว่า 18,717 ต่อการค้นหา 1 ล้านครั้งในสิงคโปร์  ในขณะที่ในอเมริกาอยู่ที่ 22,000 ครั้ง และในประเทศยุโรป 40,000 ครั้ง

หรือจาก Dune Analytic ชี้ให้เห็นว่าจำนวนของผู้เข้าสู่โลกของ NFT หรือมีการซื้อขาย NFT กลับมากขึ้นอย่างเรื่อยๆ อย่างมีนัยสำคัญ หรือเพิ่มขึ้นกว่า 50% ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา นั่นหมายถึงคนที่เข้าสู่โลกของ NFT ที่จะต้องเข้าใจเกี่ยวกับ Crypto Wallet เข้าใจวิธีการซื้อขาย NFT ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องง่ายของคนในโลกคริปโท แต่เป็นเรื่องไม่ง่ายเลยที่จะเริ่มใหม่ ยังมีจำนวนมากขึ้นทุกๆวัน

ตลาด Crypto Exchange เริ่มผันตัวเข้าสู่ตลาด NFT

ตั้งแต่ NFT เริ่มเป็นที่นิยม จำนวนปริมาณการซื้อขายของ NFT ขึ้นสูงมาก ทำให้ตลาด NFT ชื่อดังเกิดขึ้นและทำกำไรได้มากมายจากค่าธรรมเนียมการซื้อขาย ไม่ว่าจะเป็นตลาด Opensea.io ที่มียอดปริมาณซื้อขายกว่า 3.04 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือตลาดดาวรุ่งอย่าง Looksrare ที่มีปริมาณซื้อขายกว่า  1.56 พันล้านดอลลาร์ ยอดปริมาณซื้อขายเหล่านี้ทำให้เกิดผู้เล่นมากมายที่อยากเข้ามาสู่โลกของคริปโท ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ ผู้เล่นในตลาด Crypto Exchange นั่นเอง 

ด้วยข้อดีที่มีลูกค้าอยู่ในมืออยู่แล้วที่เข้าใจคริปโทเคอร์เรนซีอย่างดี รวมถึงไม่ต้องเรียนรู้กับการสร้างกระเป๋าใหม่และโอนคริปโทเคอร์เรนซีออกไปจากตลาดเพื่อเข้าไปซื้อขาย NFT ทำให้คนเข้าสู่โลกของ NFT ได้ง่ายขึ้น ในขณะเดียวกัน NFT ก็สามารถเพิ่มรายได้ให้กับตลาด Exchange ได้อย่างดี ยกตัวอย่างเช่น Binance ซึ่งถือเป็นตลาดแรกๆ ที่เข้าสู่โลกของ NFT มีการคิดค่าธรรมเนียมการซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีอยู่ที่ 0.1% ในขณะที่สามารถได้ถึง 1% ในการซื้อขาย NFT ซึ่งหลังจาก Binance เข้าสู่ตลาด NFT ในปีที่ผ่านมา FTX และ Coinbase ซึ่งเป็นคู่แข่งสำคัญของ Binance ก็ได้เข้าสู่โลกของ NFT Marketplace อย่างเต็มตัว

ในประเทศไทยก็เช่นกัน ทั้ง Bitkub และ Zipmex ก็ได้เข้าสู่โลกของ NFT อย่างจริงจัง ไม่นับตลาด JNFT ของ JFIN และ Coral ของทางกลุ่มกสิกรไทย ก็ได้เป็นตัวกระตุ้นกับตลาดของ NFT ในประเทศไทยอย่างจริงจัง

ตลาดเหล่านี้ ถือเป็นตัวกระตุ้นอย่างดีที่ทำให้ NFT ยังมีคนใหม่ๆ เข้าสู่ตลาด NFT มากขึ้นเรื่อยๆ 

บริษัทต่างๆ เริ่มเข้าสู่โลกของ NFT

จากงานศิลปะที่เริ่มเข้าสู่โลกของ NFT ในช่วงแรก และประสบความสำเร็จอย่างสูง ตอนนี้บริษัทยักษ์ใหญ่รวมถึงแบรนด์ทั่วโลกหลายรายจึงเริ่มหันเข้าสู่โลกของ NFT และกำลังทดลองรวมถึงหารูปแบบที่จะทำให้ NFT เป็นส่วนหนึ่งของแผนการตลาด ไม่ว่าจะเป็น Luxury แบรนด์อย่าง Gucci หรือ Louis Vuitton หรือแบรนด์อาหารอย่าง McDonald ไปจนถึงแบรนด์กีฬาอย่าง Nike และ Adidas ซึ่ง Adidas นี่ไปไกลจนถึงขายเสื้อและชุดกีฬาเป็น NFT โดยร่วมมือกับ NFT Collection ชื่อดังอย่าง Board Ape Yacth Club 

ดังนั้น ของสะสมทางดิจิทัลจากแบรนด์เหล่านี้จึงเริ่มดึงดูดคนจากทั่วโลกให้หันเข้ามาสนใจใน NFT มากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะด้วยเทคโนโลยีของ NFT ที่เป็นเครื่องมือสำคัญในการระบุผู้สร้างและเจ้าของที่แท้จริงชองชิ้นงานเหล่านี้ แก้ปัญหาสำคัญถึงการตรวจสอบว่าของสะสมนั้นๆ เป็นของจริงหรือไม่ในโลกปกติ และยังช่วยให้นักสะสมสามารถซื้อขายกันได้เพียงแค่นิ้วคลิกเท่านั้น 

NFT ใน Metaverse

จากกระแสของโลก Metaverse โลกของ Web3.0 ที่ผนวกเทคโนโลยีทั้งหลายไว้ด้วยกัน เป็นโลกเสมือนที่คนสามารถเข้าไปสู่โลก Virtual Reality และสามารถมีปฏิสัมพันธ์กันได้ NFT ซึ่งเป็นเหมือนสิ่งของบนโลกดิจิตัลที่สามารถระบุความแตกต่าง มีชิ้นเดียวที่ไม่ซ้ำ และแสดงความเป็นเจ้าของได้นั้น จะเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ทำให้โลกของ Metaverse เป็นจริงได้ ดังนั้น Metaverse จะทำให้เกิดการใช้งาน NFT มากขึ้นอย่างแน่นอน ในหลากหลายรูปแบบ 

ซึ่งหลายบริษัทได้เตรียมตัวเข้าสู่โลกของ Metaverse แล้ว และ NFT คือกลไกสำคัญที่ทำฝันนั้นให้เป็นจริง ยกตัวอย่างเช่น NIKE ซึ่งได้เตรียมขายสินค้าของเค้าในโลกเสมือนต่างๆ และยังได้ซื้อบริษัทที่ผลิตรองเท้าเสมือน (Virtual Shoes) ที่ชื่อว่่า RTFKT Studios ซึ่งได้มีการขาย NFT รองเท้าเสมือนกว่า 600 คู่ได้รายได้กว่า 3.1 ล้านดอลลาร์ในเวลาเพียง 7 นาที   

เงินลงทุนจาก Venture Capital เริ่มไหลสู่ NFT

เงินลงทุนจาก Venture Capital ต่างๆ ได้ไหลเข้าสู่โลกของบล็อคเชนอย่างมากมาย จากข้อมูลของ cointelegraph.com และ venturecapitaljournal.com  ในปี 2021 การลงทุนด้านบล็อคเชนมีเพิ่มมากขึ้นถึง 713% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าไปสู่ระดับ 2.52 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งถือว่าเติบโตอย่างก้าวกระโดด และในจำนวนนี้มีกว่า 460 ดีลหรือประมาณ 4.6 พันล้านดอลลาร์ เกิดขึ้นในโครงการที่เกี่ยวกับ NFT 

ในช่วงเริ่มต้นของเทคโนโลยี โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับบล็อคเชนที่มีเรื่องของคริปโทเคอร์เรนซีหรือมูลค่ามาเกี่ยวข้อง เป็นธรรมดาที่จะเกิดการคาดหวังที่เกินจริง ทำให้หลายคนสับสนและเสียประโยชน์จากการความผันผวนของราคา ทั้งที่มีกระแสลบมากมายเกี่ยวกับ NFT แต่จากจำนวนเงินที่ไหลลงสู่ NFT เทคโนโลยีของ NFT ยังมีการพัฒนาที่รออยู่อีกมากมายที่จะเปลี่ยนวิธีที่เราจัดการสิ่งของ Digital ต่างๆ โลกของไม่ว่าจะเป็นส่วนของ Game และ Metaverse หรือในมุมของธุรกิจเพลงและโทรทัศน์ที่กำลังพิจารณาในการใช้ประโยชน์ของ NFT ให้เหมาะสม 

“ดังนั้น ในปัจจุบัน NFT ยังเป็นแค่การเริ่มต้นเท่านั้น ยังมีโอกาสอีกมากมายรออยู่และจะเป็นตัวเชื่อมสำคัญของโลกปัจจุบันและโลกออนไลน์ในอนาคต เรามาค่อยๆ ตามกันครับ” 

Reference: 

https://coinmarketcap.com/

https://www.coingecko.com/th/nft/bored-ape-yacht-club

https://dappradar.com/ethereum/marketplaces/opensea

https://www.thecoinrepublic.com/2022/06/17/if-you-think-the-nft-market-is-dying-look-what-the-new-study-has-to-say-about-it/

https://dune.com/rchen8/opensea

https://www.thecoinrepublic.com/2022/06/17/if-you-think-the-nft-market-is-dying-look-what-the-new-study-has-to-say-about-it/

https://www.cnet.com/personal-finance/crypto/are-nfts-dead-dont-count-on-it/

https://explodingtopics.com/blog/nft-trendshttps://cointelegraph.com/news/blockchain-startups-grow-as-global-vc-funding-generated-25-2b-in-2021

https://cointelegraph.com/news/blockchain-startups-grow-as-global-vc-funding-generated-25-2b-in-2021

https://www.venturecapitaljournal.com/as-the-nft-gold-rush-heats-up-vcs-stake-their-claims/

https://hypebeast.com/2021/3/rtfkt-studios-fewocious-sale-nfts

กราฟิก: ณัฐชนน พูนชัย (Boom)