สกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) และความแตกต่างกับคริปโทเคอร์เรนซี
บทความนี้จะพาทุกคนไปรู้จักกับ การทำงานและประเภทของสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) รวมไปถึงความแตกต่างของ CBDC กับคริปโทเคอร์เรนซี
สกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) คืออะไร?
สกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) เป็นเงิน fiat เวอร์ชันดิจิทัลได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล ที่ออกโดยธนาคารกลางและเชื่อมโยงกับสกุลเงินประจำชาติของประเทศ CBDC นั้นคล้ายกับเหรียญ stablecoin มากที่สุด ซึ่งก็คือคริปโทเคอร์เรนซี ที่ผูกติดกับเงิน fiat และพยายามรักษามูลค่าให้เท่ากัน
มากกว่า 80 ประเทศทั่วโลกกำลังค้นคว้าและพัฒนา CBDC โดยอยู่ในขั้นตอนต่างๆ ของกระบวนการ บางโครงการมีการยกเลิก ในขณะที่บางโครงการได้เปิดตัวสกุลเงินดิจิทัลแล้ว เนื่องจาก CBDC อาจส่งผลกระทบต่อตลาดคริปโทเคอร์เรนซี การทำความเข้าใจกับ CBDC จึงเป็นเรื่องที่สำคัญหากกำลังลงทุนอยู่ในสกุลเงินดิจิทัล
สกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) ทำงานอย่างไร
แต่ละ CBDC เป็นตัวแทนดิจิทัลของเงิน fiat ที่มีอยู่ของประเทศ และทำงานในลักษณะเดียวกัน เนื่องจากหลายประเทศกำลังทำงานบน CBDC ของตนเอง จึงมีแนวโน้มว่าจะมีความแตกต่างในการทำงาน แต่ใช้รูปแบบพื้นฐานเดียวกัน
ธนาคารกลางของประเทศออก CBDC ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลกลาง ที่สามารถใช้ CBDC สำหรับการทำธุรกรรมตามกฎหมาย เช่น การจ่ายเงินเดือนให้พนักงานหรือการซื้อสินค้าและบริการ ธุรกรรมประเภทนี้ไม่จำเป็นต้องผ่านธนาคารหลายแห่งและใช้เวลาหลายวันทำการ ทุกสิ่งสามารถเกิดขึ้นได้เกือบจะในทันทีด้วยบัญชีแยกประเภทดิจิทัลเพียงบัญชีเดียว
สกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่
1.สกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง สำหรับการธุรกรรมรายย่อยของประชาชน (Retail Central Bank Digital Currencies) ซึ่งออกให้ประชาชนทั่วไป ผู้บริโภคสามารถเป็นเจ้าของ CBDC ในกระเป๋าเงินหรือบัญชีและใช้สำหรับการชำระเงินได้
CBDC ประเภทนี้จะทำหน้าที่เป็นตัวเลือกธนาคารดิจิทัลสาธารณะ ที่ทุกคนสามารถใช้ได้ มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้บริโภคที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการธนาคารแบบเดิมได้ นอกจากนี้ ยังปราศจากความเสี่ยงจากความล้มเหลวของธนาคาร เนื่องจากเงินได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล
สหรัฐอเมริกา และบาฮามาส เลือกใช้ CBDC ประเภทนี้ ซึ่งเป็นประเทศแรกๆ ที่เปิดตัว CBDC ที่มีอยู่อย่างแพร่หลาย
2.สกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง สำหรับการทำธุรกรรมระหว่างสถาบันการเงิน (Wholesale Central Bank Digital Currencies) ที่ทำออกมาให้สถาบันการเงิน ธนาคารและสถาบันการเงินอื่นๆ สามารถใช้ CBDC ของธนาคารกลาง เพื่อโอนเงินและชำระธุรกรรมได้รวดเร็วยิ่งขึ้น แม้ว่า CBDC ประเภทนี้จะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการชำระเงินภายในประเทศ แต่ก็เป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับการชำระเงินข้ามพรมแดน อีกทั้งยังมีเรื่องของความปลอดภัยที่ดีขึ้น เนื่องจากบัญชีแยกประเภทดิจิทัลที่สกุลเงินเหล่านี้ใช้ในการประมวลผลและบันทึกธุรกรรม สามารถช่วยป้องกันการฉ้อโกงทางธนาคารได้
บางประเทศให้ความสำคัญกับ CBDC ประเภทนี้ รวมไปถึงสิงคโปร์ มาเลเซีย และซาอุดีอาระเบีย แต่ส่วนใหญ่ก็จะกำลังพัฒนา CBDC แบบเพื่อรายย่อย หรือแบบไฮบริด (ที่รวมองค์ประกอบของทั้ง 2 ประเภทเข้าด้วยกัน)
ข้อดีและข้อเสียของ CBDC
ข้อดี |
ข้อเสีย |
การชำระเงินมีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
|
ถูกควบคุมโดยธนาคารกลางอย่างสมบูรณ์ |
ผู้บริโภคสามารถใช้งานผ่านธนาคารกลางโดยตรง
|
ความเป็นส่วนตัวน้อยลง |
ขจัดความเสี่ยงจากการล่มสลายของธนาคารพาณิชย์
|
ยากที่จะทำให้เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง
|
ง่ายต่อการติดตาม
|
มีการแข่งขันระหว่างธนาคารกลางและธนาคารพาณิชย์ |
CBDC กับ คริปโทเคอร์เรนซี
“CBDC” ไม่ใช่สกุลเงินดิจิทัล แม้ว่าแนวคิดสำหรับ CBDC จะมาจากสกุลเงินดิจิทัล แต่ก็เป็นสิ่งที่มีความแตกต่างกันอย่างมาก ความแตกต่างที่สำคัญระหว่าง CBDC และคริปโทเคอร์เรนซี คือการรวมศูนย์ โดย คริปโทเคอร์เรนซี เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีการกระจายอำนาจ ไม่มีตัวกลางคอยควบคุม ธุรกรรมจะได้รับการประมวลผลและบันทึกในบล็อกเชน ซึ่งเป็นบัญชีแยกประเภทแบบสาธารณะ ส่วน CBDC เป็นสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางที่ถูกควบคุมโดยธนาคารกลาง
“คริปโทเคอร์เรนซี” ให้ความเป็นส่วนตัวมากกว่า CBDC ธุรกรรมจะถูกส่งและรับผ่านที่อยู่ของวอลเล็ตและจะทำการรักษาความเป็นส่วนบุคคลไว้ได้ในระดับหนึ่ง ส่วน CBDC ธนาคารกลางจะทำการบันทึกผู้ใช้งานและการทำธุรกรรมเอาไว้ ทำให้ในหลายประเทศเริ่มมีแนวโน้มที่ชัดเจนด้านกฎระเบียบที่มีความเข้มงวดมากขึ้น เนื่องจากเข้าใกล้การเปิดตัวสกุลเงินดิจิทัลของแต่ละประเทศ
ตัวอย่างสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) ที่ส่วนใหญ่หลายประเทศอยู่ในขั้นตอนการวิจัยและพัฒนา แต่มีบางส่วนที่เปิดตัวไปบ้างแล้ว เช่น
- บาฮามาส ได้เปิดตัว Sand Dollar เป็นดอลลาร์บาฮามาสในรูปแบบดิจิทัล ออกโดยธนาคารกลางของบาฮามาสผ่านสถาบันการเงินที่ได้รับอนุญาต
- จีน กำลังทดสอบหยวนดิจิทัล (Digital RMB) หรือ E-CNY ในบรรดาประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุด จีนได้ทำการพัฒนา CBDC ได้มากที่สุด
- ไนจีเรีย กำลังเปิดตัว eNaira ที่จะบันทึกธุรกรรมบนบัญชีแยกประเภทบล็อกเชนแบบรวมศูนย์ ซึ่งเป็นประเทศในแอฟริกาประเทศแรกที่ทำการเปิดตัว CBDC
- สหรัฐฯ กำลังศึกษาต้นทุนและผลประโยชน์ของการเปิดตัว CBDC
- ไทยมีความก้าวหน้าในส่วนโครงการประเภท Retail Central Bank Digital Currencies อยู่ในอันดับที่ 8 โดย ธปท. ต้องการพัฒนาให้ประชาชนสามารถเข้าถึงเงินในรูปแบบดิจิทัล และนำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้อย่างสะดวก และรวดเร็วยิ่งขึ้น
ที่มา:
https://www.fool.com/investing/stock-market/market-sectors/financials/cryptocurrency-stocks/central-bank-digital-currency/
https://www.ndtv.com/business/cryptocurrency-vs-cbdc-know-the-difference-between-the-two-2812630#:~:text=Cryptocurrencies%20don't%20have%20a,a%20country's%20fiat%20currency's%20value
https://currency.com/cbdc-vs-cryptocurrency
https://www.pwc.com/th/en/press-room/press-release/2022/press-release-02-06-22-th.html
กราฟิก: ณัฐชนน พูนชัย (Boom)