efinancethai

FinTech

Top 5 Blockchain and NFT Trend in 2022

Top 5 Blockchain and NFT Trend in 2022

 

Top 5 Blockchain and NFT Trend in 2022

 

สวัสดีปีใหม่ 2565 ทุกท่านครับ เป็นธรรมเนียมกับปีใหม่ซึ่งปีนี้เป็นปีที่สามแล้วที่ผมได้มีโอกาสเขียนบทความเกี่ยวกับเทคโนโลยีบล็อกเชนในหลายๆ มุมมอง ซึ่งปีใหม่ก็จะเป็นเวลาที่จะได้มาสรุปแนวโน้มสำคัญของเทคโนโลยีบล็อกเชนกัน

 

ปีที่ผ่านมาถือว่าเป็นปีทองของบล็อกเชนและคริปโทเคอร์เรนซีที่หลายๆ เหรียญและหลายๆโครงการได้ประสบความสำเร็จอย่างสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทคโนโลยี NFT ที่ถือได้ว่าเปิดตัวอย่างสวยงามและจะกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในปีนี้ที่จะต่อยอดไปได้อีกหลายเรื่องๆ จากแนวโน้มที่เทคโนโลยีจะมาใกล้ตัวเรามากขึ้นเรื่อยๆ จึงขออนุญาตสรุปมาเป็น 5 เรื่องที่จะมาคุยกันในวันนี้นะครับ

 

#1. คริปโทเคอร์เรนซีจะโตต่อเนื่องพร้อมกับกฏระเบียบที่มากขึ้น

ปีที่ผ่านมา เราได้ยินข่าวคราวเกี่ยวกับกฏระเบียบเกี่ยวกับคริปโทเคอร์เรนซีมากมายที่ได้เกิดขึ้นทั่วโลก เช่น ในต่างประเทศที่บางประเทศได้มีการยอมรับบิตคอยน์ เป็นสกุลเงินที่ถูกกฏหมาย ในขณะที่เมืองจีนประกาศห้ามคริปโทเคอร์เรนซี แต่ก็พัฒนา Yuan Digital ของตนเองอย่างจริงจัง ล่าสุด กับการขยายตัวไปสู่คนทั่วไปมากขึ้นจาก DeFi และ NFT ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่ผู้คุมกฎของแต่ละประเทศไม่สามารถที่จะปฎิเสธคริปโทเคอร์เรนซีได้อีกต่อไป ซึ่งเรื่องสำคัญ 3 เรื่องที่ Regulators สนใจในปีนี้ คือ 

 

     -กฏระเบียบสำหรับ Stable Coin หรือคริปโทเคอร์เรนซีที่มีค่าคงที่โดยอิงกับสินทรัพย์บางประเภท ซึ่งปัจจุบันเริ่มมีบทบาทสำคัญมากขึ้น เข่น USDT , USDC หรือ UST ด้วยจำนวนการใช้งานที่มากขึ้นเรื่อยๆ จึงเริ่มมีความกังวลจากรัฐบาลในหลายประเทศ และจะเริ่มเข้ามาตรวจสอบเหรียญเหล่านี้กันอย่างจริงจังมากขึ้น

 

     -การพัฒนา Central Bank Digital Currencies (CBDCs) ซึ่งเป็นเหรียญคริปโตเคอร์เรนซีแบบคงที่ ที่ดูแลโดยรัฐบาลในแต่ละประเทศ ที่ได้มีการศึกษากันอย่างจริงจัง และโดยเฉพาะเมื่อ Yuan Digital เริ่มใช้อย่างแพร่หลายขึ้นมาจริงๆ ทุกประเทศจะไม่สามารถอยู่เฉยได้อีกต่อไป ปีนี้น่าจะเป็นอีกปีที่เราจะเห็น CDBC ของแต่ละประเทศออกมาเรื่อยๆ รวมถึงประเทศไทย

 

     -กฏระเบียบสำหรับคริปโทเคอร์เรนซีทั่วไป ที่จะเริ่มเข้ามาควบคุมกันอย่างจริงจัง และเน้นในการปกป้องนักลงทุนมากขึ้นเรื่อยๆ 

 

สำหรับในเมืองไทยก็เช่นกัน หสายๆ องค์กรระดับมหาชนก็เริ่มออกเหรียญคริปโทเคอร์เรนซีเป็นของตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลที่เริ่มจะก้าวสู่ระดับ Mass Adoption มีการโฆษณาบนป้ายโฆษณาทั่วประเทศ ผู้คนเริ่มสนใจและเข้าสู่โลกของคริปโทเคอร์เรนซีมากขึ้นทั่วประเทศ ซึ่งผู้คุมกฎในเมืองไทยจึงเริ่มที่จะต้องเข้ามาดูแลกันอย่างจริงจัง ล่าสุดก็มีเรื่องภาษีที่กำลังเป็นที่ถกเถียงกันอย่างกว้างขวาง ปีนี้จึงน่าจะเป็นอีกหนึ่งปีที่จะต้องมีการถกเถียงในเรื่องกฎระเบียบต่างๆ กันอย่างเข้มข้น 

 

#2. DeFi 2.0 ยังคงเป็นตลาดที่น่าสนใจ

Decentralized Finance ยังคงเป็นตลาดที่น่าสนใจจากความโปร่งใสและถึงแม้ว่าจะลดความร้อนแรงลงไปบ้าง แต่ก็ยังคง Volume ในระดับ $100 bn และยังคงคาดหวังกับการเติบโตอีกครั้งในปี 2022 จาก DeFi 2.0 หรือการที่แพลตฟอร์ม DeFi จะพัฒนา แก้ปัญหาที่พบในยุค DeFi 1.0 โดยเน้นในด้าน Capital Efficiency หรือใช้ทุนให้เป็นประโยชน์มากที่สุด 

 

โดยอาจจะลดรายจ่ายและส่วนที่ไม่จำเป็นทิ้งไป และปรับ Tokenimics ให้ดีขึ้นโดยที่ไม่ไปเน้นที่ผลตอบแทนที่สูงเกินความเป็นจริง แต่กลับมาเน้นที่ความยั่งยืนและการต่อยอด ดังนั้น DeFi 2.0 จะเป็นโลกการเงินที่เป็นจริงมากขึ้น และที่สำคัญสถาบันการเงินจากโลก Traditional ก็ได้ก้าวเข้ามาสู่โลกของ DeFi อย่างจริงจัง ทำให้ปีนี้เราน่าจะได้เห็นนวัตกรรมใหม่ๆ ในการเชื่อมโลกของการเงินแบบปกติหรือ Centralized Finance และ Decentralized Finance บนโลกของ DeFi 2.0 อย่างแน่นอน ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวงครับ

 

#3. NFT Commerce

NFT (Non Fungible Token) หรือ เหรียญที่มีลักษณะเฉพาะตัว มีเพียงชิ้นเดียวในโลก และไม่สามารถแบ่งย่อยได้ ได้ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายในการแสดงความเป็นเจ้าของของ ผ่านของสะสมทางดิจิทัล รวมไปถึงงานศิลปะที่ถูกนำมาซื้อขายทางดิจิทัลผ่าน NFT ก็ประสบความสำเร็จอย่างสูงในปีที่ผ่านมา และหลายคนยังเชื่อว่านี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของ NFT ที่จะเริ่มเข้ามาแทนที่สิ่งของทุกๆ อย่างจากโลกแห่งความจริงไปสู่โลกออนไลน์ 

 

จากการแสดงเรื่องความเป็นเจ้าของงานศิลปะหรือของสะสมต่างๆ NFT ยังสามารถนำไปใช้ได้อีกหลายมุมมอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการต่อยอดไป NFT สู่ระบบการกู้ยืม การเช่าใช้ หรือการนำไปใช้ประโยชน์ทางด้านการตลาด ที่เราเริ่มได้เห็นสินค้าดังๆ หลายแบรนด์ที่เข้ามาสู่โลกของ NFT และใช้ NFT เพื่อเชื่อมเข้าหาคนรุ่นใหม่และต่อยอดสู่ยอดขายที่มากขึ้น 

 

ดังนั้น ประโยชน์ของ NFT ยังสามารถนำไปถึงเพิ่มประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับผู้ครอบครองได้อีกเช่น การให้สิทธิพิเศษสำหรับผู้ถือ NFT เป็น Exclusive Member รูปแบบใหม่ที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างสูง ยกตัวอย่างเช่น Bored Ape Yacht Club ที่ได้กลายเป็น Brand ที่โด่งดังและมีมูลค่าสูงระดับโลกในเวลาเพียงครึ่งปี 

 

ปี 2022 จึงเป็นปีทองอีกปีของ NFT ที่เป็นตัวเชื่อมให้คนในโลกได้เข้ามารู้จักกับโลกคริปโท เคอร์เรนซี เป็นปีที่เราจะเห็นการตลาดรูปแบบใหม่ที่ใช้ชุมชนเป็นตัวขับเคลื่อน และก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมใหม่ๆ และการใช้งานรูปแบบใหม่ๆ ที่ต่อยอดได้ไม่มีสิ้นสุด 

 

#4. Metaverse 

เมื่อความพร้อมของเทคโนโลยีบล็อกเชน คริปโทเคอร์เรนซี และ NFT มาถึง และมารวมกับเทคโนโลยี Virtual Reality / Augmented Reality / และ Mix Reality ที่ได้พัฒนาระบบ 3 มิติมาตลอด Website ยุคถัดไป จากยุคที่ Web 1.0 Web Information ไปสู่ Web 2.0 โลกของ Social Media จึงก่อให้เกิด Metaverse เป็น Internet ในยุคที่คนเข้าถึงผ่านทาง Virtual Reality เป็นโลกเสมือนที่มีเศรษฐกิจเป็นของตัวเอง มีชุมชนที่สามารถร่วมกันดูแล โดยใช้ประโยชน์จาก 

     -Decentralized Economy หรือ Blockchain Network

     -Digital Money หรือคริปโทเคอร์เรนซี และ 

     -Digital Asset หรือ NFT

 

เมื่อมีชุมชน มีเงิน และมีสิ่งของซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของสังคม Metaverse จึงถูกวางเป็นอนาคตของบริษัทใหญ่ๆ หลายแห่งเพื่อที่จะมีส่วนร่วมในเศรษฐกิจรูปแบบใหม่นี้ เป็นโลกเสมือนในอนาคตที่เราจะเป็นใครก็ได้ ทำงานอะไรก็ได้ ซื้อของอะไรก็ได้บนโลกออนไลน์จะเป็นไปได้จริง จะเป็นโลกคู่ขนานที่อาจจะเหมือนหรือแตกต่างจากความจริงอย่างสุดขั้ว เป็นชุมชนในอุดมคติที่คนเลือกได้แบบไร้รอยต่อ และที่สำคัญจะเป็นโลกใหม่ที่ผู้คนและข้อมูลของแต่ละคนจะไม่ต้องขึ้นอยู่กับบริษัทใหญ่ๆ อีกต่อไป แต่จะเป็นโลกที่เราสามารถควบคุมข้อมูลและใช้ประโยชน์จากข้อมูลของเราเองได้มากที่สุด 

 

หลายบริษัทใหญ่ๆ ทั่วโลกจึงตื่นตัวเป็นอย่างมากกับ Metaverse และเริ่มช่วงชิงเข้าสู่การเป็นหนึ่งของโลกเสมือน Metaverse ใหม่นี้แบบเต็มที่ ปีนี้จึงเป็นปีที่น่าตื่นเต้น เพราะสังคมออนไลน์แบบใหม่จะเปลี่ยนโลกปัจจุบันไปสู่อีกรูปแบบอย่างแน่นอน

 

#5. Blockchain และการเชื่อมต่อกับ IoT

ถัดจากโลกออนไลน์และโลกเสมือน เทคโนโลยีบล็อกเชนยังมีบทบาทสำคัญในโลกแห่งความจริงเช่นกัน โดยเฉพาะเมื่อนำมาต่อยอดรวมกับเทคโนโลยี Internet of Thing (IoT) เพราะด้วยคุณสมบัติของบล็อกเชนในการเก็บข้อมูลมากๆ จาก IoT การสร้างกลไกอัจฉริยะผ่าน Smart Contract และการแก้ไขข้อมูลไม่ได้ เหล่านี้ทำให้เกิดความเป็นไปได้หลายอย่าง โดยเฉพาะการสื่อสารระหว่างอุปกรณ์กับเองได้เลย นั่นหมายถึง Machine to Machine transaction สามารถเกิดขึ้นได้จริง  

 

ยกตัวอย่างเช่น ตัวอย่างที่เราน่าจะเริ่มได้เห็นในปีนี้  คือ ถ้าเรามีรถไฟฟ้าที่เป็น Automate Vehicle เราสามารถวางโปรแกรมให้รถนั้นไปยังสถานี charge ไฟและจ่ายค่าไฟได้เองในสถานี EV ที่รองรับเมื่อไฟใกล้หมด เป็นต้น ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อ network อย่าง 5G เกิดขึ้นจริง การติดต่อสื่อสาร การซื้อสินค้าและบริการระหว่างอุปกรณ์ Smart Device จะถูกพัฒนาไปอีกขั้น และผมต้องบอกอีกครั้งว่า น่าตื่นเต้นไม่แพ้โลก Metaverse แน่นอน   

 

รูปแบบการใช้งานกับระบบบล็อกเชนจะเริ่มมีมากขึ้นในหลายรูปแบบ จากโครงการน้อยใหญ่ที่เริ่มขยับเข้าสู่เทคโนโลยีตัวนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งองค์กรใหญ่ๆ ทั่วโลกที่มีลูกค้าจำนวนมากอยู่ในมือ ส่วนของฝั่งผู้คุ้มกฏหรือ Regulators ทั้งหลายก็ได้พัฒนาขึ้นเช่นกัน คำว่า Mass Adoption น่าจะเกิดขึ้นจริงในเวลาไม่ไกลจากนี้ การศึกษาและเตรียมความพร้อมปรับตัว มีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจและบุคคลทุกคน มาเริ่มศึกษาด้วยกันนะครับ

 

สวัสดีปีใหม่ครับ   

 

Reference:

The 5 Biggest Blockchain Trends In 2022  

Main blockchain and crypto trends in 2022: unexpected expectations 

The 5 Biggest Blockchain Trends In 2022

6 Crypto Trend Predictions for 2022

Trends in Blockchain for 2022

10 NFT trends that could change the world in 2022

Top 5 NFT trends to watch in 2022

 

กราฟิก: ณัฐชนน พูนชัย (Boom) 

 







บทความอื่นๆที่น่าสนใจ



RECOMMENDED NEWS

ข่าวหุ้นยอดนิยม

Refresh