เลิก-ไม่เลิก? " Program Trading "
กลายเป็นประเด็นร้อนแรงในสัปดาห์นี้ไม่น้อยเลยทีเดียว หลังจากนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อดีตผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ ออกมาแสดงความเห็นว่าควรจะยกเลิกโปรแกรมเทรดหุ้นอัตโนมัติ (Program Trading)หรือไม่ หลังจากตลาดหุ้นบ้านเรา ร่วงหนัก ร่วงแรง ไม่สนตลาดประเทศอื่น ที่บวกแล้วบวกอีก
เนื่องจากโปรแกรมเทรดอัตโนมัติ ถูกมองว่าเป็นต้นเหตุหลักที่ทำให้ SET Index ลดลงต่อเนื่อง จนล่าสุดทำนิวโลว์ ในรอบ 3 ปี เรียกว่าหุ้นร่วงจน Sentiment ตลาดไม่น่าลงทุน และนักลงทุนก็ขาดความเชื่อมั่นลงไปเรื่อยๆ แม้ในช่วงปลายสัปดาห์ตลาดฯ จะรีบาวน์กลับมาบวกได้หลายสิบจุด
แต่ภาพรวมแล้วก็ยังเอาอะไรมามั่นใจไม่ได้ว่า ตลาดจะพลิกกลับมายืนเหนือ 1,400 จุด หรือขึ้นต่อเนื่องจนไปแตะ 1,500 จุดได้ ในเวลาที่เหลืออีกประมาณ 2 สัปดาห์ ก่อนจะหยุดยาวเทศกาลปีใหม่
ดังนั้นการหยิบยกเรื่องการยกเลิกโปรแกรมเทรดมาพูดถึง แม้ว่า นายกิตติรัตน์ จะยังไม่ได้ฟันธงลงไปชัดเจน โดยโยนไปให้ตลาดหลักทรัพย์ และ ก.ล.ต. ตัดสินก็ตามนั้น แต่ก็เหมือนจะมีคำตอบที่ติดอยู่ในใจไปแล้ว
แต่อย่างไรก็ดีตลาดหลักทรัพย์เองก็ไม่ได้รับลูกท่านที่ปรึกษานายกฯ แถมยังบอกว่า Program Trading เป็นระบบสากล เป็นเครื่องมือที่นักลงทุนต่างชาติส่วนใหญ่ใช้ จะยกเลิกก็ต้องพิจารณาข้อดี-ข้อเสียก่อน และตลาดหุ้นใหญ่ๆ ทั่วโลกก็ใช้กัน
เรื่องนี้ก็เห็นด้วยกับตลาดหลักทรัพย์ เพราะหุ้นมีเป็นร้อย เป็นพันตัว และในโลกยุคนี้จะมัวมาให้พนักงานส่งคำสั่งซื้อ-ขาย อยู่นั้น มันเป็นไปไม่ได้ คงต้องดูที่ความสมเหตุสมผลด้วยเช่นกัน เพราะการใช้โปรแกรมอัตโนมัติ ก็ช่วยให้เกิดความคล่องตัว และก็เป็นมาตรฐานสากลไปแล้ว
เวลาหุ้นลงอะไรก็ดูแย่ไปหมด ไม่เว้นแม้แต่โปรแกรมเทรดอัตโนมัติ ซึ่งพอเอาเข้าจริง เชื่อว่าเมื่อตลาดหุ้นกลับมาดี เรื่องนี้ก็น่าจะค่อยๆ จางหายไปกับสายลม เรื่องที่ว่าจะเลิกหรือไม่เลิก Program Trading ก็แทบไม่ต้องเดาว่าจะเป็นอย่างไรพอตลาดกลับมาดี เดี๋ยวก็จะลืมแล้ว