ไม่มีเซอร์ไพรส์ สำหรับการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย หรือดอกเบี้ยอาร์/พี 1 วัน ของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ไว้ที่ 2.5% ทั้งที่ก่อนหน้าการประชุมฟากฝั่งรัฐบาล ทั้งนายกรัฐมนตรี รองนายกฯ รวมไปถึง รมช.คลัง ต่างออกมาให้สัมภาษณ์ประหนึ่งกดดันให้แบงก์ชาติช่วยลดดอกเบี้ยลงหน่อย เพราะเศรษฐกิจวิกฤตแล้วนะ (ก็ไม่รู้จะรีบให้วิกฤตไปไหน) โดยเฉพาะนายกฯเศรษฐา ที่ระบุชัดเจนเลยว่าควรลดลงซัก 0.25%
แต่ในที่สุดแบงก์ชาติ หรือ ธปท. ก็หาได้อ่อนไหวไม่ แม้ว่าจะมี 2 เสียง จากคณะกรรรการทั้งหมด 7 เสียง เห็นควรให้ปรับลด 0.25% เพื่อให้สอดคล้องกับศักยภาพการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ต่ำลง แต่เสียงส่วนใหญ่อีก 5 เสียงก็ยังยืนยันที่จะคงดอกเบี้ยไว้ เพราะมองว่าอุปสงค์ ในประเทศยังมีแรงส่งต่อเนื่อง และเงินเฟ้อก็มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น โดยเห็นว่าดอกเบี้ยปัจจุบันยังสอดคล้องกับการขยายตัวของเศรษฐกิจ รวมทั้งเอื้อต่อการรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินในระยะยาว ดังนั้นเรื่องลดดอกเบี้ยตอนนี้ลืมไปได้เลย
อย่างไรก็ดี หากมองอีกมุม แบงก์ชาติมองว่าเศรษฐกิจยังมีความไม่แน่นอนสูง ทั้งจากปัจจัยวัฎจักรเศรษฐกิจ และโครงสร้าง และกนง. จะพิจารณาดำเนินนโยบายการเงินให้เหมาะสมกับแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ
เพราะฉะนั้นมองในมุมดี ก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสเลยที่ กนง. อาจลดดอกเบี้ยในการประชุมครั้งหน้า แม้ว่ากูรูหลายสำนักยังค่อนข้างมั่นใจว่าการประชุมครั้งหน้าในวันที่ 10 เม.ย. หรือประมาณ 2 เดือนจากนี้ กนง. น่าจะยังคงดอกเบี้ยไว้ก็ตาม แต่บางทีเราอาจจะเห็นเซอร์ไพรส์จากฝั่งวังบางขุนพรหมก็ได้เช่นกัน เมื่อพิจารณาว่าการประชุมล่าสุด กนง.เพิ่งหั่นเป้าจีดีพีปีนี้ลดลงเหลือ 2.5-3% จากก่อนหน้าที่คาดว่าจะโต 3.2%
ยิ่งเมื่อพิจารณาว่าหากไม่มีโครงการดิจิทัลวอลเล็ต แล้วจีดีพีน่าจะโตน้อยลง แถมยังน่าจะโตช้ากว่าหลายๆประเทศในภูมิภาคนี้ไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นอินโดนีเซีย มาเลเซีย และเวียดนาม แถมการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังค่อนข้างเปราะบาง จากกำลังซื้อที่ไม่ค่อยจะฟื้นตัว และที่แน่ๆหากโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ส่อเค้าเสี่ยงจริง แบบนี้การใช้นโยบายการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจก็มีความเป็นไปได้
ก่อนวันสงกรานต์ แบงก์ชาติก็อาจจะสร้างเซอร์ไพรส์ได้เช่นกัน