ดิจิทัลวอลเล็ต ไม่ทันกระตุ้นเศรษฐกิจปีนี้
ในที่สุดรัฐบาลก็ประกาศวันลงทะเบียน รับเงินดิจิตัลวอลเล็ต โดยจะเริ่มลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.-15 ก.ย. นี้ สำหรับกลุ่มประชาชนที่มีสมาร์ทโฟน ส่วนคนที่ไม่มีสมาร์ทโฟน เปิดให้ลงทะเบียนวันที่ 16 ก.ย.- 15 ต.ค. ในขณะที่ร้านค้าเริ่มลงทะเบียนตั้งแต่ 1 ต.ค. และคาดว่าจะเริ่มใช้จ่ายได้ภายในไตรมาส 4/67 ซึ่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พิชัย ชุณหวิชระ ยืนยันหนักแน่นว่า มาตรการนี้จะทำให้เกิดพายุหมุนทางเศรษฐกิจถึง 4 ลูกเลยทีเดียว
แถมยังบอกว่า นโยบายดังกล่าวเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อแก้วิกฤติ และจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับคนในประเทศ หลังภาวะเศรษฐกิจไทยตกต่ำยาวนานกว่า 15 ปี โดยเฉพาะในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาที่ตกต่ำมาก เพราะฉะนั้นเรือธงของรัฐบาลชุดนี้จะมีส่วนช่วยการเติบโตของจีดีพีในประเทศ
แต่อย่างไรก็ดี ก็ต้องยอมรับโครงการดิจิตัลวอลเล็ตใช่ว่าออกมาปุ๊ปจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้เลยทันที เสียเมื่อไหร่ แม้จะคาดว่าจะส่วนผลักดันให้จีดีพีโต 1.6-1.8% แต่กว่าจะเห็นผลก็คงต้องผ่านไตรมาสแรกของปี 2568 ไปก่อน เพราะฉะนั้นพายุหมุนจะยังไม่ทำงานไม่ทันในปีนี้
เพราะฉะนั้นคำถาม จึงวนกลับไปที่เดิม ช่วงที่เหลือของปีนี้อีกกว่า 5 เดือน เศรษฐกิจของประเทศจึงยังต้องพึ่งพาการท่องเที่ยวต่อไป ส่วนงบประมาณปี67 ที่แม้จะอนุมัติออกมาแล้ว แต่ก็ยังไม่เห็นว่าช่วยสนุบสนันกิจกรรมเศรษฐกิจในประเทศได้ชัดเจน นอกจากการกันเงินส่วนหนึ่งมาใช้ในดิจิตอลวอลเล็ต
ดังนั้นคำถามที่ 2 ก็คือ แล้วท่องเที่ยวจะเป็นเครื่องจักรที่ทำงานหนักเกินไปหรือไม่ ที่จะทำให้เศรษฐกิจในปีนี้โตเกิน 2.5% ให้ได้ ซึ่งคำตอบก็น่าจะเห็นไปเรียบร้อย หลังจากกระทรวงการคลัง ประกาศเพิ่มเป้าจีดีพีปีนี้เป็นโต 2.7% จากเดิม 2.4% จากภาคการท่องเที่ยว ทั้งจำนวนและรายจ่ายต่อหัวนักท่องเที่ยว ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนขยายตัวได้ 4.5% การลงทุนภาคเอกชนคาดว่าจะขยายตัวได้ 3.6%
มองในแง่บวก ก็หวังว่าหากดิจิทัลวอลเล็ตกระตุ้นทันปีนี้ บวกกับงบลงทุนที่เร่งตัวในช่วงไตมาสสุดท้ายของปีนี้ เราก็อาจจะเห็นจีดีพีโต 3% ยกเว้นดิจิทัลวอลเล็ตหมุนไม่ทันอย่างทั่วถึง ก็แน่นอนว่าปีนี้ยังเหนื่อยหนักกันต่อไป
ยิ่งหันกลับไปดูตัวเลขส่งออกที่เคยเป็น เครื่องจักรหลักของเศรษฐกิจไทย ที่อ่อนแรงเหลือเกินแล้ว อย่างล่าสุด เดือน มิ.ย. ที่ติดลบ 0.3% ผิดคาดจากที่คาดโต 2.5% เราคงต้องทำใจเห็นจีดีพีประเทศโตต่ำกว่าชาวบ้านเขาไปอีกปี