4 ปี ... พิสูจน์ฝีมือ`อัสสเดช คงสิริ` ผู้จัดการตลาดคนที่ 14
เปิดตัวโชว์วิสัยทัศน์เป็นที่เรียบร้อยไปแล้ว สำหรับ "อัสสเดช คงสิริ" กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยคนที่ 14 ทายาท "อัศวิน คงสิริ" อดีตผู้บริหารบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ IFCT และกรรมการรบริหารสถานบันการเงินอีกหลายแห่งและปัจจุบันยังนั่งเป็นประธานบอร์ด บมจ. บริการเชื้อเพลิงการบิน หรือ BAFS
ซึ่งต้องบอกว่า ผู้จัดการ ตลทฯ คนใหม่ ได้คุณพ่อมาเต็มทั้ง หน้าตา บุคลิก และที่สำคัญความอ่อนน้อมถ่อนตน ที่ผู้บริหารควรจะต้องมี ส่วนเรื่องฝีมือการบริหารในระยะเวลา 4 ปี จากนี้ต้องดูผลงานกันไปยาวๆ แต่ถ้าพูดถึงประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ ในสายตลาดเงิน ตลาดทุน คงไม่เป็น 2 รองใคร เพราะผ่านองค์กรใหญ่มาครบครัน ทั้งในและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น ปตท. เมอร์ริลลินซ์ เจพีมอร์แกน รวมไปถึง บล.ฟินันซ่า เรียกว่าคุณสมบัติครบ
ผู้จัดการตลาดฯ คนใหม่ ประกาศวิสัยทัศน์จะทำ "ตลาดทุนเพื่อส่วนรวมและความเท่าเทียม" เพื่อส่วนรวมก็คือการลงทุนเพื่อส่วนรวม ทำให้ตลาดทุนไทยสามารถสร้างประโยชน์ให้กับประเทศไทย และทุกคนที่เกี่วข้อง พร้อมรับฟังเสียงจากหลายด้าน เพื่อนำมาปรับปรุงพัฒนาตลาดหลักทรัพย์ฯให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ขณะที่ความเท่าเทียม คือสร้างโอกาสในการเข้าถึงตลาดทุนของทุกคน ทั้งนักลงทุน และภาคธุรกิจ เพื่อใช้ตลาดฯ เป็นเครื่องมือในการระดมทุน และการลงทุน
ส่วนสิ่งที่จะทำเป็นอันดับแรก ก็คือการสื่อสาร ซึ่งคุณอัสสเดช เพราะปัจจุบันมีคนที่ถูกหลอกให้ลงทุน และขาดทุนเป็นจำนวนมาก บางรายถึงกับฆ่าตัวตาย ดังนั้นจึงอยากจะพัฒนาการสื่อสาร และมีการ Take action ของตลาดหลักทรัพย์ฯให้เร็วขึ้น เพื่อให้นักลงทุนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้ทราบอย่างรวดเร็วและเท่าเทียม โดยจะนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อให้การสื่อสารของตลาดฯ สามารถสื่อไปถึงนักลงทุนได้เร็วขึ้น
ผู้จัดการฯ คนใหม่เน้นย้ำเรื่องความเท่าเทียม เรื่องการสื่อสารในวัน Meet The Press ค่อนข้างมาก ตลอดจนการสร้างความเชื่อมั่นอีกเรื่องที่ต้องเดินหน้าทำงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ โดยเฉพาะกรณีที่มีเหตุการณ์ผิดปกติเกิดขึ้น เพื่อป้องกันความเสียหายกับนักลงทุน ทำให้เกิดความมั่นใจ และลดความเสี่ยงต่างๆ ที่มีโอกาสเกิดขึ้นในการลงทุน
นี่แค่นโยบายคร่าว ๆและสิ่งที่อยากจะทำเท่านั้น ส่วนรายละเอียด แผนงาน กลยุทธ์ นั้น หลังประชุมบอร์ดตลาดฯ ปลายเดือนต.ค. ผู้จัดการฯ คนใหม่ก็จะแถลงแผนอย่างเป็นทางการในเดือน พ.ย. อีกครั้งหนึ่ง
ท่ามกลางความท้าทาย และปัจจัยที่อาจจะคาดถึง และคาดไม่ถึงในตลอดระยะเวลา 4 ปีจากนี้ จะเป็นบทพิสูจน์ฝีมือการทำงานของ "อัสสเดช คงสิริ" ว่าจะฝ่าด่านหิน และพัฒนาตาดทุนไทยไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ได้มากน้อยแค่ไหน และที่แน่ๆ กับความหวังที่นักลงทุน ย่อมต้องการคือขอให้ 4 ปี ในยุค "อัสสเดช คงสิริ" เป็นปีที่ดี หุ้นขึ้น หุ้นปัง