efinancethai

บทบรรณาธิการ

โดย
พิมพ์รภัส ศิริไพรวัน

: กองบรรณาธิการ
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

[email protected]

เศรษฐกิจไทย ยังไม่พ้นน้ำ ... รัฐฯ-เอกชน หั่นเป้ารัวๆ

เศรษฐกิจไทย ยังไม่พ้นน้ำ ... รัฐฯ-เอกชน หั่นเป้ารัวๆ

 

ดูเหมือนเศรษฐกิจไทยปีนี้จะยังไม่ฟื้นตัว  หลังจากสภาพัฒน์ แถลงตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3 หรือไตรมาสล่าสุดเมื่อวันจันทร์ (20พ.ย.) ที่ผ่านมาโตแค่ 1.5% เท่านั้น ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะโต 1.9% และโตต่ำกว่าไตรมาส 2 ที่โต 1.8% และต่ำกว่าไตรมาสแรก ที่โต 2.6%  ทำให้รอบ 9 เดือน (ม.ค.-ก.ย.) ของปีนี้ จีดีพีหรือเศรษฐกิจขยายเพียง 1.9%  

 

จากตัวเลขที่เห็นมา จีพีดีเติบโตในอัตราที่ชะลอลงเรื่อยๆ ทุกไตรมาส แม้จะไม่เรียกว่าถดถอย เพราะจีดีพีจะต้องติดลบ แต่หากมองให้ลึกไปกว่านั้น การที่เศรษฐกิจโตแบบสไลด์ลงแบบนี้่ ก็ต้องยอมรับความจริงว่าน่าเป็นห่วง และแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจบ้านเรายังไม่สามารถฟื้นตัวได้ แถมยังมีแนวโน้มชะลอลงด้วยซ้ำไป ส่วนจะวิกฤติเหมือนที่กำลังเป็นประเด็นถกเถียงกันอยู่นั้นอาจจะต้องรอดูตัวเลขจีดีพีในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้อีกครั้งว่าจะพลิกกลับมายืนเหนือ 2% ได้หรือไม่ เมื่อดูจากรายได้การท่องเที่ยวที่รัฐบาลใหม่เขาหวังเอาไว้ 


                        
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าหน่วยงานเอกชนหลายแห่ง หรือแม้แต่สภาพัฒน์เอง จะไม่ได้มองโลกในแง่ดีมากนัก เพราะจริงๆแล้ว ตัวขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจอย่างการส่งออกของเรา มีปัญหาจากภาวะเศรษฐกิจโลกโดยรวมที่ชะลอตัว ทำให้จีดีพีขยายตัวอย่างที่ตั้งใจไม่ได้ นอกจากนี้ยังมีการใช้จ่ายภาครัฐที่ลดลงต่อเนื่องมา  2 ไตรมาสแล้ว ซึ่งรวมไปถึงการจัดตั้งรัฐบาลที่ล่าช้า กระทบการพิจารณางบประมาณปี 67 ก็มีส่วนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้  จนทำให้สภาพัฒน์ถึงกับต้องหั่นเป้าจีดีพีปีนี้ ลงเหลือโต 2.5% จากก่อนหน้าคาดโต 2.5-3% 


                         
ดังนั้นทันทีที่สภาพัฒน์แถลงตัวเลขเสร็จ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ก็หั่นคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปีนี้ตามทันที เนื่องจาก จีดีพี Q3/66 โตต่ำกว่าที่คาดไว้  ขณะที่ SCB EIC ก็ยอมรับว่าจีดีพี Q3/66 ที่ต่ำคาด จะฉุดตัวเลขทั้งปีให้ไม่ถึงเป้า แม้ Q4/66 เพราะฉะนั้นเชื่อว่ามีแนวโน้มที่หลายหน่วยงานจะออกมาปรับลดตัวเลขจีดีพีปีนี้ตามสภาพัฒน์ และกสิกรฯ 


                          
เพราะฉะนั้นก็ทำใจล่วงหน้าไว้เลยว่าปีนี้ จีดีพีน่าจะโตได้ประมาณ 2.5% เป็นอย่างต่ำ แต่ก็มีข้อยกเว้นด้วยว่า ไตรมาสสุดท้ายนี้ ตัวเลขจะต้องออกมาดี ดีมากๆ และต้องดีกว่าทุกไตรมาสด้วย โดยเฉพาะรายได้จากภาคบริการ ซึ่งก็คือการท่องเที่ยวที่ควรจะต้องเป็นฟันเฟืองหลักมาช่วยเศรษฐกิจประเทศ แทนที่การส่งออกที่ดร็อปไปในช่วงนี้

 

เศรษฐกิจบ้านเราโตช้า และแทบจะไม่ค่อยโตแม้สถานการณ์โควิดจะผ่านพ้นไปแล้วก็ตาม แต่ด้วยปัจจัยภายนอกหลายอย่างที่เกิดขึ้น ทั้งสงครามยูเครน-รัสเซีย และล่าสุด อิสราเอล-ฮามาส ประกอบด้วยเศรษฐกิจโลกที่ถดถอย เงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นทั่วโลก ขณะที่การส่งออกที่เราพึ่งพาตลาดจีนเป็นหลักก็กลายเป็นตัวที่ฉุดเศรษฐกิจของเราเอง เมื่อปีนี้เศรษฐกิจจีนดันชะลอตัวมากกว่าที่คาดการณ์กันไว้ จึงไม่แปลกใจที่เราจะเห็นตัวเลขจีดีพีโตอยู่แค่ 1% กว่า 

 

เพราะฉะนั้นปีนี้คงทำอะไรได้ไม่มาก เริ่มกันใหม่ปีหน้า ที่ต้องฝากรัฐบาลใหม่ไว้ในอ้อมใจ ส่วนเศรษฐกิจจะโตแค่ไหน จะโตเพราะดิจิทัล วอลเล็ต ที่ยังไม่รู้ว่าจะมีหรือไม่มี และถ้ามีไม่ได้รัฐบาลจะเอาโครงการอะไรมากระตุ้น ก็ต้องลุ้นกันไป ว่าจีดีพีจะโตอยู่ โตอีก และจะโตต่อไปหรือไม่







บทความอื่นๆที่น่าสนใจ



RECOMMENDED NEWS

ข่าวหุ้นยอดนิยม

Refresh