ความเชื่อมั่นยังไม่มา - จับตาจันทร์นี้ รายย่อยหยุดเทรด
หุ้นไทยในรอบ 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา แทบไม่มีอะไรดีขึ้นมากนัก Sentiment ตลาดยังลบมากกว่าบวก ดัชนีแกว่งตัวลงเป็นส่วนใหญ่ในกรอบระหว่างง 1,380-1,420 จุด ทำเอานักลงทุนกุมขมับ ท่ามกลางกระแสข่าวที่ค่อนไปทางลบมากกว่าดี โดยเฉพาะเรื่องการทำชอร์ตเซล ของบรรดาขาใหญ่ ทั้งในและต่างประเทศ ที่เป็นตัวการในการทุบหุ้นช่วงที่่ผ่านมา จนล่าสุดก็ประเด็นร้อนเรื่องการทำ Naked Short Selling หรือการขายหุ้นแบบไม่มีหุ้นที่ซ้ำเติมตลาดหนักเข้าไปอีก
ทำให้ทั้ง ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ ถึงกับต้องออกโรงแถลงข่าวชี้แจง โดยเฉพาะตลาดฯ ที่ต้องแถลงเรื่องนี้ถึง 2 ครั้งในรอบ 5 วัน แต่ก็ดูเหมือนจะไม่มีอะไรดีขึ้น Set index จากระดับ 1,430 จุด เมื่อวันจันทร์ที่ 6 พ.ย. โดนเทจนหลุด 1,400 จุดอีกรอบ และไปแตะระดับต่ำสุดที่ 1,377.69 เมื่อวันอังคารที่ 14 พ.ย. ก่อนจะเด้งแรงมา High ที่ 1,416.89 บวกไปกว่า 20 จุดเลยทีเดียว หลังจากก่อนหน้า 1 วัน กิตติรัตน์ ณ ระนอง ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี อดีต รมว.คลัง และผู้จัดการตลาดฯ บอกว่ารัฐบาลจะตั้งกองทุน ESG
อย่างไรก็ดี ตลาดที่ยังไร้ความเชื่อมั่น ก็ยังไม่สามารถฟื้นตัวได้ชัดเจน เนื่องจากภาพรวมตลาดที่ได้เคยเขียนไปก่อนหน้านั้น ยังไม่มีอะไรน่าไว้วางใจได้เลย ทั้งปัจจัยภายใน และภายนอก เพราะเมื่อความมั่นใจไม่มีใครจะอยากเข้ามาลงทุน ไม่อย่างนั้น ประเด็นที่นักลงทุนรายย่อยจะรวมตัวกันหยุดเทรด เพราะไม่เชื่อมั่น รู้สึกไม่ได้รับความเท่าเทียมในการลงทุน ในวันจันทร์ที่ 20 พ.ย. นี้ ก็คงไม่เกิดขึ้น เรียกว่าเป็นเรื่องของความเชื่อมั่นล้วนๆ เลยจริงๆ เพราะนักลงทุนรายย่อยน่าจะเป็นกลุ่มแรกๆ ที่เสียหายมากที่สุดเวลาที่ตลาดหุ้นลงหนัก ลงแรง ในช่วงที่ผ่านมา และการออกมาเคลื่อนไหวครั้งนี้ก็ไม่ใช่เรื่องที่เรกกูเรเตอร์ (Regulator) ควรจะละเลยด้วย อย่างน้อยก็ควรจะรับรู้และรับฟังถึงปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะในเวลาที่ตลาดหุ้นอื่นๆ เขาบวกกันโครมๆ แต่ทำไมตลาดบ้านเรา ที่ใครๆก็บอกว่าน่าลงทุน หุ้นก็ราคาถูก ถึงมาแต่ลงแล้วลงอีก
ส่วนนายกเศรษฐา ทวีสิน ที่รู้ข่าวเรื่องนี้แล้วออกอาการฉุนเล็กน้อย ระหว่างให้สัมภาษณ์สื่อ ในการประชุมเอเปกที่สหรัฐอเมริกานั้น ก็พอจะคาดเดาได้อยู่ แต่ก็อย่าลืมว่าตั้งแต่ที่รัฐบาลเพื่อไทยเข้ามาบริหารประเทศ ตลาดหุ้นก็ร่วงเอา ร่วงเอา แทบไม่พักนะคะท่าน เพราะฉะนั้นก็อยากให้เร่งมือ สร้างความเชื่อมั่นโดยไว จะออกมาตรการหรือจะทำอะไรก็ขอให้รวดเร็ว ชัดเจน เพราะไม่งั้นไม่ใช่นักลงทุนรายย่อยที่จะหยุดเทรด นักลงทุนต่างชาติก็คงไม่อยากจะเข้ามาเทรดเหมือนกัน ถ้าตลาดหุ้นเราขาดเสน่ห์
เพราะฉะนั้นจันทร์นี้ จึงน่าจับตามองไม่น้อยว่า รายย่อยจะหยุดเทรดจริงหรือไม่ หยุดแล้วตลาดจะกระทบมากน้อยแค่ไหน หรือว่าจริงๆ หลายๆคนอาจจะหยุดเทรดไปก่อนหน้านานแล้วก็เป็นได้