วันจันทร์ที่ 11 ก.ย. นี้แล้ว ที่รัฐบาลใหม่ นำโดยพรรคเพื่อไทย ที่มี เศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี จะแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งหลากหลายนโยบายที่หาเสียงไว้ก่อนหน้านี้ เชื่อว่าจะถูกนำมาแถลงในวันจันทร์นี้ ซึ่งรัฐบาล "เศรษฐา1" จะเป็นผู้รับผิดชอบว่าจะทำได้แค่ไหน โดยเฉพาะนโยบายที่ชูธงนำเป็นหลักไว้ตั้งแต่ต้น เช่น การแจกเงินดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาท ที่เป็นความหวังในการกระตุ้นและฟื้นเศรษฐกิจของประเทศ รวมไปถึงนโยบาย "รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย” ที่เป็นความหวังของคนเมืองหลวง ว่ารัฐบาลจะทำได้จริงๆ หรือไม่ เพราะต้นทุนการเดินทางของบ้านเราแพงหูฉี่ เมื่อเทียบกับหลายๆ ประเทศในเอเชีย อย่างสิงคโปร์ มาเลเซีย หรือ ไต้หวัน
นอกจากนี้ ยังมี นโยบายเงินเดือนผู้จบปริญญาตรี 25,000 บาทต่อเดือน นโยบายขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทต่อวัน นโยบายพักหนี้เกษตรกรทั้งต้นและดอกเบี้ย 3 ปี รวมไปถึง นโยบาย รายได้ครอบครัวละ 20,000 บาทต่อเดือน ซึ่งน่าจะเป็นทีเด็ดของพรรคเพื่อไทย ตอนหาเสียง ยังไม่รวมบรรดานโยบายของพรรคร่วมฯ อื่น
อย่างไรก็ดี ดูเหมือนการบ้านหลักของนายกฯ คนใหม่ ที่ควบตำแหน่ง รมว. คลัง ไปด้วยนั้น ก็คือโจทย์ใหญ่อย่างดิจิทัล วอลเล็ต ที่ตอนนี้ใครๆ ต่างก็จับตามอง ซึ่งเรื่องที่ว่าจะทำจริงหรือไม่นั้น คงไม่ใช่ประเด็นแล้ว แต่น่าจะเป็นจำนวนเงิน 5 แสนล้านบาท ที่จะนำมาแจกประชาชนมากกว่า ว่าจะหามาจากไหน จากงบประมาณ ที่ดูแล้วน่าจะลำบาก หรือจากการกู้เงิน ที่อาจจะไปกระทบกับวินัยการเงิน การคลัง ของประเทศ ในเรื่องกรอบหนี้สาธารณะ หรือแม้แต่ประเด็นที่ ฝ่ายค้านอย่างพรรคก้าวไกล ออกมาตั้งข้อสังเกตุว่า อาจจะต้องขอจัดสรรมาจากรัฐวิสาหกิจ หรือไม่?
นั่นก็คือ สิ่งที่นายกรัฐมนตรีเศรษฐา จะต้องแถลงต่อสภา และตอบข้อซักถามจากสมาชิกให้ได้ เพราะถือเป็นนโยบายหลักที่สำคัญ เพราะมิฉะนั้นแล้ว คงไม่มานั่งควบตำแหน่งขุนคลังเสียเอง เรียกว่าเป็นความตั้งใจที่จะต้องทำให้สำเร็จ และไปให้สุดทาง เพื่อให้สิ่งที่สัญญาไว้กับประชาชน ไม่ใช่แค่ลมปากในการหาเสียง และก็ไม่ใช่แค่นโยบายดิจิทัล วอลเล็ต เท่านั้น นโยบายประชานิยมอื่นๆ ก็เช่นเดียวกัน ที่รัฐบาลต้องรักษาสัญญา เช่น รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ซึ่งถ้าถามประชาชน โดยเฉพาะคน กทม. ตอนนี้ ก็ต้องบอกว่าเป็นเรื่องใหญ่ ลำดับต้นๆ ที่อยากได้จากรัฐบาล
กว่าจะมาเป็นรัฐบาล พรรคเพื่อไทยก็ฝ่าด่านมารอบด้าน ทั้งการต้องยอมหักกับพรรคแกนนำเดิมอย่างก้าวไกล หรือแม้แต่กลืนน้ำลายตัวเองด้วยการไปจับมือกับพรรค 2 ลุง ดังนั้นการบ้านครั้งนี้ จึงจะเป็นบทพิสูจน์อีกครั้งว่า เพื่อไทย ทำได้จริง ไม่ใช่แค่หาเสียง
บทบรรณาธิการ
พิมพ์รภัส ศิริไพรวัน
