ใครรัฐบาล - ใครฝ่ายค้าน ไม่เกิน 90 วัน รู้กัน
หลังเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 14 พ.ค. เรียบร้อยแล้ว เชื่อว่าถนนทุกสายต่างจับตาไปที่การจัดตั้งรัฐบาลใหม่ เพราะในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา การเมืองไทยได้เปลี่ยนผ่านจากรัฐบาลทหารที่ปฏิวัติรัฐประหารเข้ามาเมื่อปี 2557 มาเป็นการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อปี 2562 หรือ 4 ปีก่อน และทำให้พรรคพลังประชารัฐได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล พร้อมกับ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่นั่งเก้านายกฯ อีกสมัย รวมระยะเวลา 8 ปี
จากวันนั้น มาจนถึงวันนี้ ประเทศไทยกำลังจะมีการเลือกตั้งทั่วไปอีกครั้ง และน่าจะเป็นครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์การเมืองไทย อีกรอบ ว่าจะพลิกโฉมหน้าการเมืองไทย ให้เปลี่ยนแปลงไปอย่างไร จะเป็นการเมืองแบบเดิมๆ ได้พรรคร่วมรัฐบาลชุดเดิม หรือจะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลใหม่ที่จะเข้ามาบริหารประเทศแทน
ดังนั้นหลังจาก คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. มีการตรวจสอบการเลือกตั้งว่ามีความสุจริต ชอบธรรมแล้ว และจากนั้นจะประกาศผลอย่างช้า ต้องไม่เกิน 60 วันนับตั้งแต่วันเลือกตั้ง แต่จริงๆ แล้ว คาดว่าผลอย่างไม่เป็นทางการ น่าจะรู้กันแล้วตั้งแต่ตอน 5 ทุ่มของคืนวันที่ 14 พ.ค.แล้วว่า พรรคไหนได้คะแนนเสียงมาก-น้อยแค่ไหน
และการคาดการณ์หน้าตาของรัฐบาลจากนี้ไป คงจะเห็นกันลางๆ บ้างแล้ว หลังรู้คะแนนเสียง ทั้งในส่วนของ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ และแบบแบ่งเขต ถึงแม้อาจจะยังไม่เป็นทางการก็ตาม เพราะคาดว่าการจัดตั้งรัฐบาลจริงๆ น่าจะชัดเจน ประมาณเดือนกรกฎาคมก่อนจะได้รัฐบาลใหม่ในเดือนสิงหาคม
ยอมรับว่ากระแสเลือกตั้งครั้งนี้มาแรงจริงๆ และคาดว่าจะมีประชาชนมาไปใช้สิทธิ์ออกเสียงมากกว่าปี 2562 ที่ผ่านมา เพราะ 8 ปี ที่หลายๆคน อาจมองว่าการบริหารประเทศโดยรัฐบาลทหาร กับ พรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบัน แทบจะไม่ได้แตกต่างอะไรกัน อีกทั้งในรอบ 4 ปีหลังของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ โลกเผชิญกับโรคระบาดรุนแรงอย่างโควิด เช่นเดียวกับประเทศไทย หรือจะเรียกว่ารัฐบาลบริหารประเทศ และแก้ปัญหาเรื่องโควิด มากว่า 3 ปี หรือจะบอกว่ากว่า 70% ของรัฐบาลชุดนี้บริหารประเทศท่ามกลางโรคระบาด
ขณะที่เศรษฐกิจโดยรวม ตั้งแต่ปี 2562 จนถึงตอนนี้ ก็แทบจะไม่กระเตื้อง แม้จะเริ่มฟื้นตัวมาบ้างหลังจากเปิดประเทศในช่วงปีที่ผ่านมา แต่ถามว่าเศรษฐกิจดีหรือยัง ก็ยังตอบได้ไม่เต็มปาก เพราะตราบใดที่ประชาชน ผู้ประกอบการ ยังทำมาหากินลำบาก รายรับไม่พอรายจ่าย การทำธุรกิจต่างๆยากขึ้น หนำซ้ำเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะประเทศยักษ์ใหญ่ อย่างสหรัฐอเมริกา ยุโรป ก็เสี่ยงต่อเศรษฐกิจถดถอย หรือแม้แต่จีน ที่ยังต้องกลับไปงัดเอามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจกลับมาใช้
แบบนี้ความหวังของประชาชน ต่อรัฐบาลใหม่ที่จะเข้ามา จึงคาดหวังสูงเป็นพิเศษว่าจะต้องเข้ามาแก้ไขปัญหาปากท้องให้ตัวเอง และเศรษฐกิจประเทศให้ฟื้นตัวได้เร็ว ไม่ว่าขั้วรัฐบาลใหม่จะเปลี่ยนไปเป็นขั้วใดก็ตาม เพราะหากเข้ามาเพื่อแก้ปัญหาให้ประเทศชาติ และประชาชนจริงๆ ก็เป็นเรื่องที่ดีทั้งนั้น ยิ่งเข้ามาแล้วทำได้ตามที่หาเสียงไว้ก็ยิ่งดี
ใครจะเป็นรัฐบาล ใครจะเป็นฝ่ายค้าน รอลุ้นกันไม่เกิน 90 วันจากนี้