efinancethai

บทบรรณาธิการ

โดย
พิมพ์รภัส ศิริไพรวัน

: กองบรรณาธิการ
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

[email protected]

หุ้นไทย .. ติดโรคเลื่อนการเมือง

หุ้นไทย .. ติดโรคเลื่อนการเมือง


ในที่สุดการเมืองไทย ก็ยังเดินหน้าต่อไม่ได้ หลังจากวันพฤหัสบดีที่ 3 ส.ค. ที่ผ่านมา ศาลรัฐธรรมนูญ ได้เลื่อนพิจารณาสั่งรับหรือไม่รับคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่ขอให้พิจาณามติของรัฐสภา เมื่อวันที่ 19 ก.ค. เรื่องการเสนอแคนดิเดตนายกรัฐมตรี นายพิธา ลิ้มเจริญ ซ้ำ โดยศาลฯจะนัดพิจารณาอีกครั้ง วันที่ 16 ส.ค.นี้อีกครั้ง 


                          
หลังจากนั้นไม่นาน  นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาก็ประกาศเลื่อนโหวตนายกฯ ในวันที่ 4 ส.ค.นี้ออกไป  เพื่อรอการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งคาดว่าน่าจะโหวตเลือกนายกฯ ได้อีกครั้งในวันที่ 17 ส.ค. นี้ 


                          
ขณะที่พรรคเพื่อไทย ประกาศเลื่อนการแถลงข่าวเปิดตัวพรรคร่วมรัฐบาลออกไป เช่นเดียวกับก้าวไกล ซึ่งก็เลื่อนประชุมเรื่องจะโหวตให้นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทยหรือไม่เช่นกัน รวมไปถึงทักษิณ ชินวัตร ที่ประกาศเลื่อนกลับประเทศไทย จากเดิมวันที่ 10 ส.ค. ออกไปจนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่ 
                          


เรียกว่าพร้อมใจกันเลื่อน โดยไม่ได้นัดหมาย เพราะฉะนั้นเมื่อเป็นแบบนี้ จึงทำให้การเมืองไทยยังคงอยู่ในช่วงสุญญากาศต่อไปอีกอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ขณะที่การเลือกตั้งผ่านมาเกือบ 3 เดือนเข้าให้แล้ว แต่จนป่านนี้ประเทศไทยก็ยังไม่ได้ตัวนายกรัฐมนตรี  

                                             

ซึ่งมาดูฟากฝั่งตลาดหุ้นตอนนี้ก็ติดโรคเลื่อนเข้าอย่างจัง SET Index ก็เลยซึม เหงาๆ เหมือนคนมึนๆ ไม่รู้ไปทางไหนดี จะเดินหน้าก็ไม่กล้าเดินจนสุด ส่วนจะถอยหลังกลับก็ยังเก้ๆ กังๆ ไม่แน่ใจ เพราะอะไรๆ ก็ไม่ชัดเจนซักอย่าง ดังนั้นการตัดสินใจลงทุนเลยไม่มี เพราะฉะนั้นเท่ากับว่า ยิ่งเราตั้งรัฐบาลช้าขึ้นเท่าไหร่ เราก็จะยิ่งเสียโอกาสจากเม็ดเงินไหลเข้ามากเท่านั้น นี่ยังไม่ไม่รวมกรณีเกิดการชุมนุมอีก ก็จะยิ่งให้วังวนเดิมๆ ที่เราคุ้นเคยกลับมา และความไม่น่าลงทุนก็จะเพิ่มขึ้นไปอีก โดยเฉพาะการท่องเที่ยวที่น่าจะได้รับผลกระทบทั้งที่เป็นความหวังสูงสุดในการฟื้นเศรษฐกิจประเทศช่วงนี้  

 

เมื่อการเมืองไร้ความชัดเจน แถมยังดูอึมครึมๆ ด้วยซ้ำไป เพราะไม่รู้ว่าพรรคร่วมรัฐบาลที่มีเพื่อไทยเป็นแกนนำนั้น จะมีพรรคอะไรบ้าง โดยเฉพาะพรรค 2 ลุง พลังประชารัฐ และรวมไทยสร้างชาติ ที่ยังไม่สามารถตัดรายชื่อจากการเป็นพรรคร่วมทิ้งไปได้เลย  


                           
ซึ่งเอเซียพลัส ประเมินว่า เป็นไปได้ที่การได้มารัฐบาลใหม่อาจอยู่ในช่วงเดือน ก.ย.66 ซึ่งเป็นเวลาที่ใกล้เคียงกับการสิ้นปีงบประมาณ ปี 2566 และ ต้องเริ่มเบิกจ่ายงบประมาณปี 2567 วันที่ 1 ต.ค.66 – 30 ก.ย.67 ซึ่งตอนนี้งบประมาณปี 2567 ยังต้องรอรัฐบาลใหม่ เข้ามาพิจารณาต่อ ทำให้การใช้งบประมาณปี 2567 เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจลดประสิทธิภาพลง


                           
ทำให้ภาพการเมืองมีสัญญาณที่ผันผวน และคาดเดาได้ยาก หลังการเลื่อนกำหนดการของศาลรัฐธรรมนูญ วันโหวตนายก และพรรคร่วมรัฐบาลใหม่ ทำให้เกิดความล่าช้าของจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวคาดจะเห็น Flow ต่างชาติยังไม่ซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทย และมีโอกาสเห็นตลาดหุ้นไทยแกว่งผันผวนช่วง 2 สัปดาห์นี้  

 

ทำใจรอคอย ลอยคอ กันต่อไปค่ะ การเมืองยังไม่นิ่ง เลื่อนแล้ว ก็ยังเลื่อนอีก เลื่อนต่อได้ ดังนั้นนักลงทุนตอนนี้ก็ต้องทำใจให้นิ่ง รอได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ แล้วค่อยมาว่ากัน







บทความอื่นๆที่น่าสนใจ



RECOMMENDED NEWS

ข่าวหุ้นยอดนิยม

Refresh